การปฏิรูปการปกครองสมัยพระบรมไตรโลกนาถ
การบริหารราชการแผ่นดินในอยุธยาตอนต้น มีกรมใหญ่ 4 กรม เรียกว่า จตุสดมภ์ กรมเวียง กรมวัง กรมคลัง กรมนา มีหน้าที่ใกล้เคียงกับชื่อนั้น ๆ
การปกครองส่วนภูมิภาคใช้ระบบเมืองลูกหลวงในเขตเมืองชั้นใน เมืองสำคัญเช่น สุพรรณบุรี ลพบุรี เป็นลักษณะแบบนครรัฐมีอิสระในการปกครองตนเอง อยุธยาส่งเจ้านายชั้นสูงไปปกครอง
สาเหตุปัจจัยการปฏิรูปการปกครองของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
1. เพื่อความมั่นคงในเสถียรภาพของพระมหากษัตริย์อยุธยา
2. ทรงต้องการควบคุมเมืองลูกหลวงอย่างใกล้ชิด
3. อาณาจักรได้ขยายตัวออกไปมาก คือได้ผนวกเอาอาณาจักรสุโขทัย จำเป็นต้องหาระบบการปกครองให้รัดกุมกว่าเดิม
4. เมืองลูกหลวงเกิดปัญหากับอยุธยามาโดยตลอด
- เมืองลูกหลวงมีอิสระในการปกครองตนเองมากเกินไป การควบคุมจากเมืองหลวงเป็นแบบหลวม ๆ
- กษัตริย์อยุธยาพระองศ์ใดไม่มีความสามารถ ก็จะไม่สามารถควบคุมเมืองลูกหลวงไว้ได้
- เจ้านายชั้นสูงที่ปกครองเมืองลูกหลวงมักจะนำกำลังคนเข้ามาชิงอำนาจในเมืองหลวงบ่อยครั้ง เช่น
- สมเด็จพระราเมศวร ถูก ขุนหลวงพระงั่วผู้ครองเมืองสุพรรณบุรียึดอำนาจ จนพระองศ์ต้องไปครองเมืองลพบุรี
- พระเจ้าทองลันโอรสของขุนหลวงพระงั่ว ถูก พระราเมศวร ผู้ครองเมืองลพบุรียึดอำนาจแล้วจับพระองศ์ประหารชีวิต
- สมเด็จพระรามราชาธิราช ถูก เจ้านครอินทร์ เจ้าเมืองสุพรรณบุรียึดอำนาจ
5. จากการทำศึกกับเขมรหลายครั้ง แต่ละครั้งได้กวาดต้อนพราหมณ์ที่มีความรู้ และวัฒนธรรมการปกครองเข้ามาด้วย
1. จัดการปกครองในส่วนภูมิภาค
- ยกเลิกระบบเมืองลูกหลวงในเขตหัวเมืองชั้นใน เช่นสุพรรณบุรี ลพบุรี
- ลดฐานะให้เป็นเมืองเล็กหรือเมืองจัตวา เรียกรวมกันว่ามณฑลราชธานี
- ยกเลิกการให้เจ้านายไปปกครองเมืองเหล่านั้น
- ส่งขุนนางออกไปปกครองแทน เพื่อรวมอำนาจการปกครองส่วนภูมิภาคมาสู่ศูนย์กลาง เจ้าเมืองมีตำแหน่งเป็นเพียงผู้รั้งไม่ได้เป็นเจ้านายขั้นเต็ม
2. การจัดการปกครองเมืองประเทศราช
- เมืองประเทศราชเช่น สุโขทัย นครศรีธรรมราช ทวาย ตะนาวศรี ได้ถูกผนวกมาเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยา เรียกว่าเมืองพระยามหานคร
- จัดการปกครองให้รัดกุมโดยการจัดเจ้านายออกไปปกครอง
- เมืองเหล่านี้มีอำนาจการปกครองในระดับหนึ่ง กึ่งอิสระจากอยุธยา
- เมืองพระยามหานครที่สำคัญที่สุดคือ พิษณุโลก อยุธยาให้ความสำคัญมากเพราะ เป็นที่ฐานมั่นในการในการขยายอำนาจไปยังล้านนาและฐานที่มั่นในการควบคุมอาณาจักรสุโขทัย
3. การจัดการปกครองในส่วนกลาง
- แบ่งการบริหารราชการแผ่นดินออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายทหารและฝ่ายผลเรือน
- ตั่งกรมใหม่อีก 2 กรม เพื่อรับผิดชอบงาน 2 ด้านนี้ กรมมหาดไทย และกรมกลาโหม กรมใหญ่จึงมีเพิ่มเป็น 6 กรมด้วยกัน
- กรมมหาดไทยควบคุมงานทางด้านผลเรือนทั่วราชอาณาจักร รวมถึง จตุสดมภ์ กรมเวียง กรรมวัง กรมคลัง กรมนา ซึ่งเป็นกรมกองเดิมทั้ง 4 ด้วย
- กรมกลาโหมควบคุมงานด้านการทหาร ควบคุมบัญชีไพร่พลที่สังกัดฝ่ายทหารทั่วราชอาณาจักร รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ สัตว์พาหนะในใช้ในสงคราม
- กรมกองส่วนใหญ่จึงถูกแบ่งออกออกเป็นฝ่ายทหารและพลเรือน แบ่งตามภูมิภาค เพื่อจัดสรรงานให้เป็นไปตามระเบียบตามลักษณะงาน
- แบ่งอำนาจขุนนางออกเป็นสองฝ่ายให้ถ่วงดุลกัน เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาขุนนางร่วมมือกันได้ จนเป็นภัยต่อราชบัลลังก์
- ในยามศึกสงคราม ทุกกรมกองมีหน้าที่เป็นทหารในการรบ
- จัดระเบียบการปกครองและสังคมโดยกำหนดระบบศักดินา
1. อยุธยามีเสถียรภาพในการปกครอง การปกครองในส่วนภูมิภาคเป็นไปอย่างรัดกุม
2. เจ้านายถูกควบคุม อำนาจการปกครองตกเป็นสิทธิ์ขาดของกษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว กษัตริย์มีความมั่นคง
3. เกิดกรมกองย่อย มากมาย รับผิดชอบงานตามลักษณะของงาน แต่ก็เกิดการทำงานก้าวก่ายและซ้ำซ้อนกัน
4. ภายหลัง เมืองพระยามหานครมีพฤติกรรมต่อต้านและพยายามแยกตัวออกจากเมืองหลวง จนเป็นเหตุทำให้อยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 1 และเป็นเหตุให้เกิดการปฏิรูปการปกครองในสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
วาทิน ศานติ์ สันติ : เรียบเรียง
ฉบับนักเรียน ฉบับย่อ
เรื่องการยึดอำนาจ นี่ มีมานานๆๆๆ มากเลยนะคะ ไม่ใช่เรื่องแปลก
มาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะ
ขอบคุณมากคับ เป็นข้อมูลอ้างอิงในการเขียนแผนผังการปกครองได้ดีครับ เพราะจำแนกออกมาเป็นข้อๆ
หามาหลายเว็ปแล้วเว็ปนี้ดีมากคับผม
ขอบคุณมากครับ อาจารย์ให้หาอยู่พอดี
ขอบคุณมากน่ะคะ ต้องการอยู่พอดี
ขอบคุณมากกกๆๆๆคับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ ^^ ต้องการอยู่พอดี มีงานส่งครูแล้ว เย้!!!
ขอบคุณครับคุณครูให้ทำพอดี
เยี่ยมเลยค่ะ ขอบคุณน้ะค้ะ -/\-
รวมหรือกระจายอำนาจคะ
ขอบคุณครับ
ผมกำลังอยากรู้เลยครับ?