เตือนภัยโรคไข้หวัดใหญ่แม็กซิโก


ไข้หวัดใหญ่แม็กซิโกป้องกันได้

              ไข้หวัดหมู (ไข้หวัดแม็กซิโก)     โรคนี้หลายคนกลัวมากว่า  จะเป็นภัยร้ายแรงและนำมาซึ่งอันตรายต่อชีวิตความเป็นอยู่หรือต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ  แต่ผมคิดว่า  ถ้าเรารู้จักโรคชนิดนี้แล้ว  ก็ไม่น่าจะต้องตื่นกลัวอะไรมาก  จริงไหมครับ  เพราะถ้าเราเข้าใจและรู้จักมันดีพอก็สามารถป้องกันได้  แต่ก็ไม่ควรประมาท

              ลักษณะโรคไข้หวัดแม็กซิโก หรือ โรคไข้หวัดหมูู จะทำให้มีอาการไข้ และปอดอักเสบอย่าง  รุนแรง   ซึ่งเกิดมาจากเชื้อไวรัสที่เป็นสายพันธุ์เดียวกับ ไวรัส เอช1 เอ็น1 แต่มีความร้ายแรงเนื่องจากสามารถติดต่อสู่คนได้ โดยเป็นการรวมกันของไวรัสหมู คน และนก ปัจจุบันอเมริกาเลิกใช้ชื่อ “ไข้หวัดหมู” เปลี่ยนเป็น “ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1

การแพร่เชื้อ ของ โรคไข้หวัดหมู (ไข้หวัดใหญ่  2009  H1n1)

มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับ โรคไข้หวัดใหญ่ ในคน

  1. แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอ หรือจามรดกัน (เชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย )
  2. ติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา หากนำมือที่มีเชื้อไปสัมผัส

    อาการ โรคไข้หวัดหมู ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1         

  • มีไข้สูง
  • หายใจไม่สะดวก
  • ปวดศีรษะ ปวดตา
  • ปวดเมื่อยตามร่างกายรุนแรง
  • อาการป่วยจะพัฒนารวดเร็วและจะมีอาการหายใจลำบากอย่างรุนแรงภายใน 5 วัน
  • คำแนะนำในการป้องกัน โรคไข้หวัดหมู คือ

    1. เมื่อเป็นหวัดเวลาจามจะต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าปิด เพื่อป้องกันการติดต่อ
    2. หมั่นล้างมือ
    3. หากมีอาการรุนแรง ไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน ควรรีบพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศ ที่มีการแพร่ระบาด

    นี่แหละครับการป้องกันที่อยากให้หลายท่านที่มีโอกาสอ่านแล้วได้รู้จัก  และปฏิบัติเพื่อการป้องกันตัวเองทั้งต่อเพื่อน ๆ ที่เราใกล้ชิดด้วยความเอาใจใส่และมีความรับผิดชอบที่จะต้องไม่แพร่ระบาดโรคไข้หวัดนี้   อีกประการหนึ่งสำคัญมาก ๆ  คือ  จะต้องหมั่นล้างมือของเราให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันการระบาดและต้องพักผ่อนให้เพียงพอจึงจะมีร่างกายที่แข็งแรงสามารถต่อต้านโรคต่าง ๆ ที่อาจจะมาอีกมากมาย 

    อย่าประมาท  โปรดติดตามและศึกษาให้เข้าใจนะครับ

    สมพงษ์/พิมพ์/เผยแพร่

    หมายเลขบันทึก: 258621เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2009 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (2)
    • ปัจจุบันมีโรคแปลกๆเพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆนะคะ และรุนแรงมาก ถึงขั้นเสียชีวิตทั้งนั้น
    • ขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูลความรู้ค่ะคุณครู

    Artichoke (ATISO, actiso) อาร์ติโช๊คบำรุงตับไตถุงน้ำดี

    อาร์ติโช๊ค (Cynara scolymus) เป็นพืชที่นิยมปลูกในต่างประเทศ เฉพาะภูเขาสูงมากกว่า 1,500 เมตร เท่านั้น ปี 2513 นักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรป ได้ค้นพบสารไซนาริน ” มีคุณค่าทางอาหาร และยา นำมาบริโภคสด หรือปรุงอาหารได้ทุกส่วน หรือนำมาสกัดสารไซนาริน(Synarin) รับประทานเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพได้ดี” ในยุคโบราณอาร์ติโช๊คเป็นอาหาร และยารักษาโรคของชาวอียิปต์ ชาวกรีก และชาวโรมัน และเป็นเมนูอาหารที่สำคัญในทุกงานเลี้ยงของกรุงโรม นอกจากจะเป็นอาหารเสริม แล้วยังมีสรรพคุณทางยา ดังนี้

    1. ช่วยบำรุง กระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ทำหน้าที่ในการสกัดสารพิษ หรือสิ่งแปลกปลอมออกจากกระแสโลหิต สร้างน้ำดีและน้ำย่อย และเปลี่ยนแปลงหรือสร้างสารอาหาร ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย

    2. กระตุ้น การสร้างน้ำดีของตับ ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดไขมัน (Chloresteral) ในเลือด ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานดี ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน

    3. เสริมสร้างการทำงานของถุงน้ำดี ช่วยสร้างน้ำดีป้องกันถุงน้ำดีอักเสบ ซึ่งมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ทำให้ระบบการย่อยอาหารดี ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก

    4. ช่วยป้องกันตับอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคดีซ่าน และโรคตับแข็ง (Cirrhosis) ในประเทศบราซิล อาร์ติโช๊ค เป็นยาสมุนไพรพื้นฐาน ที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของตับ และโรคอื่นหลายโรค ได้อย่างกว้างขวาง เช่น โรคโลหิตจาง เบาหวาน ไข้ รักษาบาดแผล และเกาต์

    สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม

    www.artichokeliver.com หรือ

    www.smethai.com/shop/gms

    Tel: 02 - 888 - 9954, 081 – 627 1521 คุณวัลลภา

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท