ความรักชาติ


ความรัก ความสำนึก และภาคภูมิใจในความเป็นไทย

          ความรักชาติ  หมายถึง  มีความรัก  ความสำนึก  และภาคภูมิใจในความเป็นไทย  นิยมไทย  มีความผูกพันหวงแหนในมาตุภูมิ  บ้านเกิดเมืองนอนคือ ผืนแผ่นดินไทย ปฏิบัติตนตามหน้าที่และสิทธิในฐานะพลเมืองดี  บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง  ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรมจริยธรรมและวัฒนธรรม  ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาติ  ส่งเสริม  สนับสนุนหรือช่วยเหลือ  สร้างความเจริญก้าวหน้า  ความมั่นคงและรักเกียรติภูมิของชาติ

          ถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองดี  ในการแสดงออกซึ่ง  ความรักชาติ

          คุณธรรมที่จำเป็นจะต้องปลูกฝัง  อบรมเยาวชนไทย  ให้มีความรักชาติ คือ การเสริมสร้างคนดี  รู้รักสามัคคี  มีน้ำใจไมตรี  ซื่อสัตย์  สุจริต  และมีวัฒนธรรม

กนก  จันทร์ขจร.  ทางเดิน.  34 (144),  หน้า  79

 

พระบรมราโชวาท

            " ... คนไทยรักษาชาติรักษาแผ่นดินเป็นปึกแผ่น มั่นคงมาได้ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วย คุณความดีอิสรภาพ เสรีภาพความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เรา ทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบ อย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความ ดีพร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคง ตลอดไป ..."  

พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม

ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

5 ธันวาคม 2521  

 

          "...คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจในความเป็นไทย คือเป็นพลเมืองของชาติที่มีเอกราชมามากกว่า 700ปี นักเรียนไทยทุกคนจะสนองคุณ ชาติบ้านเมืองได้ในขณะที่อยู่ต่างประเทศก็โดย การวางตนเป็นผู้แทนที่ดีของประเทศ..."  

พระราชดำรัส พระราชทานแก่นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา

ณ โรงแรมพลาซ่านครนิวยอร์ค 8 มิถุนายน 2510  

 

          "...ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึก ตระหนักในคุณของแผ่นดินอันเป็นที่เกิด ที่อาศัยซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติ กำเนิดและมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติ ไว้ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป ..."  

พระบรมราโชวาท ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ

และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ 

ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธันวาคม 2529

 

          "...ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดีและเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอก จากคนไทย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใดคนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทย ได้เสมอ..."  

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่

สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น

27 กุมภาพันธ์ 2537  

 

          " ...ทุกๆ คนในชาติย่อมมีหน้าที่ที่จะต้อง ปฏิบัติ ถ้าแต่ละคนปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้เป็น ผลดีที่สุดที่จะกระทำได้ ด้วยความรักชาติ และมีความสามัคคีกลมเกลียวกันแล้วชาติของเรา จะเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นสืบไป ..."  

พระบรมราโชวาท ในพิธีตรวจพลสวนสนาม

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 

ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธันวาคม 2504  

          "...ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิตเลือดเนื้อและสมบัติของ เราทุกคนและการดำรงรักษาชาติประเทศนั้นมิ ใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆฝ่าย ทุกๆคนที่ จะต้องร่วมมือกระทำพร้อมกันไปโดยสอดคล้อง เกื้อกูลกัน.."  

พระบรมราโชวาท ในพิธีตรวจพลสวนสนาม

8 มิถุนายน 2514  

 

          "...การที่จะช่วยชาติบ้านเมืองนั้นมีหลายทาง แต่ทางที่ดีที่สุดโดยแต่ละคนต่างทำ หน้าที่ ของตนโดยความซื่อสัตย์ สุจริต อดทน ทำ ให้กิจการต่างๆทุกด้านดำเนินไปด้วยดีนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับประเทศชาติ..."  

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะกรรมการ

บริษัท สยามกลกาล จำกัด

ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 28 ธันวาคม 2522  

 

          "...บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ผู้มีชีวิตจิตใจ ผูกพันปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสามัคคี พร้อมเพรียงกัน ทุกเมื่อไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชประชาอธิปไตย และมี ความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั่งทุกวันนี้ .."  

    

พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์

3 ธันวาคม 2522 ณ ลานพระราชวังดุสิต

 

          "... คนไทย แม้จะมีจิตใจรักความสะดวกสบาย และมักทำตามใจตัวกันเป็นปกติ แต่ก็มี ความสำนึกมั่นในชาติอยู่แทบทุกตัวคน ยามมีอันตรายเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง ก็รวมกัน ได้เหนียวแน่น ดังนั้น เราจึงมีชาติมีประเทศ อันตั้งมั่นโดยอิสระและเสรีมาช้านาน..."  

พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม

เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระเฉลิมชนมพรรษา

5 ธันวาคม 2520

 

          "...ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิตเลือดเนื้อและสมบัติของ เราทุกคนและการดำรงรักษาชาติประเทศนั้นมิ ใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆฝ่าย ทุกๆคนที่ จักต้องร่วมมือกระทำพร้อมกันไปโดยสอดคล้อง กัน และมีจุดมุ่งหมายอันร่วมกัน..."  

พระบรมราโชวาท พระราชทานในพิธีตรวจพลสวนสนาม

เนื่องในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก

8 มิถุนายน 2514  

 

          "...บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคง มี อิสรภาพและความร่มเย็นเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะ เรามีความยึดมั่นในชาติ และร่วมแรงร่วมใจกันบำเพ็ญกรณียกิจต่างๆ ตามหน้าที่ ให้สอดคล้องเกื้อกูลกันเพื่อประโยชน์ ส่วนรวมของชาติ..."  

พระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคม

ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 5 ธันวาคม 2512  

 

          "...ประเทศไทย เป็นประเทศที่อยู่มาเป็นเวลาช้านาน ได้ตกทอดมาเป็นสมบัติของทุกคนใน ปัจจุบัน จึงต้องช่วยกันทะนุถนอม ให้อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป แม้จะมี สภาพสถานการณ์ต่างๆ แวดล้อมซึ่งอันตรายและทั้งโลกก็ ประสบปัญหาต่างๆ นานา ก็เชื่อได้ว่า พวกเราจะสามารถไปรอดได้ .."   

พระราชดำรัส ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ

ถวายสัตย์ปฏิญาณตน

ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 14 มีนาคม 2523  

 

          "... ทุกคนที่ทำหน้าที่ตามอาชีพของตน หรือ ตามหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่        อย่างเสียสละเพื่อให้ งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้น ก็เป็นสิ่งที่สร้างเสริมความดีแก่ประเทศชาติ ในตัว ..."  

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆที่เข้าเฝ้าฯ

ถวายชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 

ณ ศาลาดุสิตาลัย 4 ธันวาคม 2518

 

          "...ไม่ว่าจะมีเหตุไม่ปรกติหรือปัญหาใดๆเกิด ขึ้น เราควรจะได้ทำความเข้าใจกันและ ร่วมกันคิดอ่านปฏิบัติแก้ไข ด้วยเหตุผลด้วยหลักวิชาการ และด้วยความบริสุทธิ์ จริงใจให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายลุล่วงไป เพื่อให้ประเทศชาติของเราก้าวหน้าต่อไปโดย สวัสดี..."  

พระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย

ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2540

 

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องทั่วไป
หมายเลขบันทึก: 258429เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2009 18:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท