บริการศึกษาและรวบรวมข้อมูลนักเรียนด้านการศึกษา |
เป็นอะไร |
1.
บริการศึกษาและรวบรวมข้อมูลนักเรียนด้านการศึกษา เป็นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตัวนักเรียนด้วยกลวิธีต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียนเพื่อช่วยให้นักเรียนรู้จักและเข้าใจตนเองรวมทั้งครูได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนักเรียนอย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นแนวทางให้ครูได้ช่วยเหลือนักเรียนให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นเต็มตามศักยภาพ
3
จัดทำไม |
2.
1) เพื่อให้ครูหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนได้รู้จักและเข้าใจนักเรียนมากขึ้น
2) เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักและเข้าใจตนเองในด้านการเรียนมากขึ้น
3) เพื่อนำข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนไปใช้ในแนวทางป้องกันปัญหา แก้ไขปัญหา และพัฒนาการเรียนของนักเรียน
4
จัดอย่างไร |
3.
วิธีศึกษาและรวบรวมข้อมูลนักเรียน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) ประเภทไม่ใช้แบบทดสอบ ประกอบด้วยวิธีการดังต่อไปนี้คือ
1.1) การสังเกต
1.2) การสัมภาษณ์
1.3) การเยี่ยมบ้าน
1.4) สังคมมิติ
1.5) การเก็บข้อมูลโดยศึกษาจากผลงานต่าง ๆ ของนักเรียน เช่น
- อัตชีวประวัติ
- เรียงความ
- บันทึกประจำวัน
5
1.6 ) การเก็บข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบถามประกอบด้วย
- แบบสอบถามความสนใจ
- แบบเติมประโยคให้สมบูรณ์
- แบบสอบถามความนึกคิดของบุคคลที่มีต่อตนเอง
- แบบรวบรวมข้อมูลทั่ว ๆ ไป ของนักเรียน
1.7) การรวบรวมข้อมูลโดยใช้ระเบียนสะสม
1.8) การศึกษาเป็นรายกรณี
2) ประเภทใช้แบบทดสอบ ประกอบด้วยแบบทดสอบดังนี้
2.1) แบบทดสอบสติปัญญา
2.2) แบบทดสอบสัมฤทธิผลทางการเรียน
2.3) แบบทดสอบความถนัด
2.4) แบบสำรวจความสนใจ
2.5) แบบสำรวจบุคลิกภาพ
6
ข้อคิดในการรวบรวมข้อมูล |
1) การรวบรวมข้อมูลให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ควรใช้เครื่องมือและวิธีการหลาย ๆ อย่างประกอบกัน
2) การรวบรวมข้อมูลนักเรียนจะได้ผลดีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคณะครูและนักเรียนในโรงเรียน
3) ไม่ควรคาดหวังว่า เมื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลนักเรียนแล้ว จะมีความเข้าใจนักเรียนทุกคนอย่างถูกต้องที่สุด
4) การศึกษาและรวบรวมข้อมูล ควรจัดขึ้นเพื่อแสวงหาความเข้าใจนักเรียน และให้ความช่วยเหลือควบคู่กันไป
5) ต้องเลือกใช้เครื่องมือหรือวิธีการให้เหมาะสมสอดคล้องกับความจำเป็น ไม่ใช้เครื่องมือหรือวิธีการอย่างเดียวกับเด็กทุกคน
6) รวบรวมข้อมูล ควรมุ่งให้นักเรียนแต่ละคนเข้าใจตนเองดีขึ้น เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจ
7
7) การศึกษาและรวบรวมข้อมูล จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทางบ้านของ นักเรียนด้วยครูจะต้องศึกษาที่ตัวนักเรียนและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีความเข้าใจในตัวนักเรียนได้ถูกต้องยิ่งขึ้น
อนึ่งในการศึกษาและรวบรวมข้อมูลของนักเรียนนั้น ควรจะได้ข้อมูลทั้งจากตัวนักเรียนเองและจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูประจำชั้น หรือเพื่อน เพราะการรวบรวมข้อมูลจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพียงฝ่ายเดียว อาจจะได้ข้อมูลไม่ครอบคลุม และคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะความอคติหรือความไม่รู้จริง
มีประโยชน์สำหรับคุณครูแนะแนวในการศึกษาค้นคว้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
ดีมากและเป็นประโยชน์ต่อครูแนะแนวมือใหม่ด้วย
กำลังศึกษารูปแบบการแนะแนวที่พอเหมาะกับกลุ่มนักเรียนเพศชายชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๕ ครูจะกรุณาชี้แนะด้วย