ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำทางความรู้สึก : เพียงธรรมดาของเส้นแบ่ง


เรื่องบางเรื่องอาจเพียงความรู้สึกที่เข้าใจผิด การพินิจพิเคราะห์เลาะความเปราะบางทางความคิด ความรู้สึก ถ่ายทอดความอัตลักษณ์ที่ถูกต้อง ความปรองดองก็จะก่อเกิดขึ้น หากเรา "ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำทางความรู้สึก : เพียงธรรมดาของเส้นแบ่ง"

 

 

ท้องฟ้ามืดมัว ดอกทานตะวันเหี่ยวเฉา เกสรโรยราล่วงลงพื้นดิน...

ณ สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง...

กาลเวลาผ่านไปนายจะกลับมาที่นี่อีกไหม นาวิน

มาซิๆ!เรา แค่ไปเรียนกรุงเทพฯไม่กี่ปีเอง เรียนจบก็จะมาช่วยสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ของนายฮาบีฟ ไม่ใช่ซิมันก็พื้นที่ของเราเช่นกัน พื้นที่ที่ธงไตรรงค์ยังคงโบกสะบัดความเป็นประเทศไทย จริงไหม...เราขอให้นายโชคดีนะนาวิน ( เด็กน้อยสองคนโอบกอดกัน ด้วยคำมั่นสัญญา)

ณ บ้านหลังหนึ่งในกรุงเทพฯ

"นาวิน" เรียนนายร้อยตำรวจจบแล้วลูกจะไปทำงานที่ไหน

ลูกคิดว่า "จะกลับไปพัฒนาพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครับพ่อ"

แล้วนาวาจะอยู่กับใคร! ลูกจะเอานาวาไปด้วยครับพ่อ! ลูก จำเหตุการณ์ไม่ได้หรือที่เราต้องย้ายที่อยู่มาอยู่กรุงเทพฯ เพราะอะไร ลูกจำเรื่องราวของแม่ในวันนั้นไม่ได้หรือ วันที่แม่ไปร่วมงานแต่งน้าชายฮาบีฟอ่ะ! (น้ำตาที่เต็มไปด้วยภาพในวันนั้นมันสะท้อนความเจ็บปวดของผู้สูญเสียภรรยา อย่างไม่มีวันกลับ หลั่งรินอาบรดสองแก้มชายวัยกลางคน)

จำได้ครับพ่อ! (น้ำเสียงสั่นเครือ) แต่วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุนะครับพ่อ

ทำไมลูกถึงยังคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุอยู่อีก ทั้งที่วันนั้นลูกก็เห็นว่ามีแต่ครอบครัวเราที่เป็นคนไทยพุทธในงาน

ทำไมพ่อพูดว่าไทยพุทธ แล้วเขาเป็นคนอะไร!

"แขกไง" ! พวกแขกที่ทำร้ายแม่

เขาก็คนไทยนะพ่อ แต่เป็นคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม "ไทยมุสลิม" ไม่ใช่พวกแขก

เพราะ บางครั้งเพียงธรรมดาของเส้นแบ่งทางความคิดนี่ไงที่เราขีดคั่นมันไว้ ไม่ยอมเปิดใจยอมรับเรียนรู้ซึ่งกันและกันปัญหาเล็กๆเลยล่วงเลยเป็นปัญหาใหญ่ อยู่ทุกวันนี้ ลูกจะไปครับพ่อ ไปพิสูจน์ว่าความแตกต่าง มันมีคุณค่าทางความหมายมากว่า จะมองเป็นความแตกแยก อย่างที่ใครๆหลายคนมอง (แววตาเปล่งประกายฉายความมุ่งมั่นในคำมั่นสัญญา)

ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง...

(เวลา ๐๗.๕๘ น.)

"เตรียมตัวเคารพธงชาติ ทั้งหมดแถวตรง"

"ประเทศ ไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ ผไทของไทยทุกส่วน...สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี (ครูฮาบีฟแหงนมองธงไตรรงค์ ที่ยังคงโบกสะบัดเสียดฟ้า ด้วยความมุ่งมั่น)..."

"สงบนิ่ง ๑ นาทีครับ"

"ลืมตาขึ้นได้"

สวัสดี นักเรียน และ อัสลามมูอาลัยกุ้มฯ (ขอความสนติสุข ความเมตตาจงประสบแด่ท่าน) นักเรียนทุกคน วันนี้ครูในฐานะตัวแทนครูทุกคนของเรา อยากขอความร่วมมือนักเรียนทุกคนช่วยทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับกลุ่มตำรวจสัมพันธ์ที่จะมาทำกิจกรรมกับนักเรียนในภาคบ่าย ด้วยนะครับ

ณ ห้องเรียนแห่งหนึ่ง...

เฮ้ยพวกเรา! วันนี้พวกซิแย มันจะมาโรงเรียนของเรา แล้วทำไมว่ะไอ้ยา! ก็พ่อกูบอกว่า "ก็ไอ้พวกนี้แหล่ะที่มันยิงชาวบ้านในงานแต่งงานของน้าชายครูฮาบีฟ เมื่อหลายปีก่อน" อ้าว! แล้วมึงแน่ใจได้ไงว่าคนกลุ่มนี้ ก็พ่อกูบอกว่า "พวกซิแย" มันทำ ตำรวจที่จะมาก็พวกซิแยทั้งนั้น กูว่าพวกเราไปถามครูฮาบีฟกันดีกว่าว่าเรื่องราวที่แท้จริงมันเป็นยังไง (ลุกมานเอ่ยขึ้น) ถามทำไม! มึงก็รู้ว่า พวกซิแย มันขัดกับพวกเรา แล้วจะไปถามให้เสียเวลาทำไม

ขัดอะไร! ขัดกับหลักการศาสนาของเราไง เพราะพวกเขากินหมู พวกเราไม่กินหมู มึงตีความผิดแล้วไอ้ยา ผิดตรงไหนว่ะลุกมาน!จริง อยู่ที่เขากินหมู แต่ก็ใช่ว่าเราจะต้องเกลียดเขาหนิ ไม่มีบทบัญญัติใดในศาสนาบอกห้ามคบคนกินหมูเลย มึงนี่ไม่สร้างความสมานฉันท์แล้วยังจะก่อความแตกแยกอีก ไปๆ ไปเรียนวิชาภาษาไทยของครูฮาบีฟดีกว่า

เออวิชาที่ครูฮาบีฟสอนก็วิชาซิแย แล้วทำไมพวกมึงไม่ต่อต้านว่ะ ก็ครูฮาบีฟเป็นคนนายูเหมือนพวกเราไง ถามโง่ๆ! ยังไงกูก็จะไปชวนชาวบ้านมาขับไล่กลุ่มคนเหล่านี้ (ยากระซิบกับซัมรี) แล้วมึงจะทำไง!เอ่อกูมีวิธี!

ณ สนามหญ้าในโรงเรียน

เวลา ๑๕.๒๔ น.

... เมื่อกี้พี่ๆตำรวจสัมพันธ์ก็สอนเรื่อง การอยู่ร่วมกันที่เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งให้แล้ว ไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาใด เชื้อชาติใด เราก็ควรรักใคร่ปรองดองกัน เพื่อก่อเกิดคำว่าสมานฉันท์อย่างแท้จริง ความหลากหลายทางความคิดเป็นสิ่งที่ดี ความแตกต่างทางความคิดไม่ได้หมายถึงความแตกแยก พี่จำได้ว่าสมัยตอนเด็กๆที่พี่เคยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ เพื่อนพี่ที่ชื่อ "ฮาบีฟ" เขาเคยบอกกับพี่ว่า

"มนุษย์ อย่างเราๆถูกกำเนิดมาในสภาพที่มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน และแตกออกเป็นหลายกลุ่มชน หลายเผ่าพันธุ์ แต่นั่นมิใช่จะก่อให้เกิดเป็นเส้นแบ่งที่จะนำไปสู่ความแตกแยก แต่ความหลากหลายดังกล่าวจะนำพาไปสู่การรู้จักกัน" ดังที่เรายึดถือกันว่า "ต้าอารุฟ (รู้จัก) ต้าฟาฮุม (เข้าใจ) ต้าอาวุน (ช่วยเหลือ) ไง!

ใช่เลย! (ลุกมานเอ่ยขึ้น)

ไหนมีน้องๆคนใดจะเสนอแนวทางอื่นๆนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วบ้าง

มีครับ!(ยาเอ่ยขึ้น) ว่าไงครับ!

ผมว่า "ถ้าคนนายูเรากับพวกซิแยอยู่ห่างๆกันมันก็ดีนะครับ จะได้ไม่ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเสียชีวิต" ทำไมหนูถึงคิดอย่างนั้นหล่ะ!ในเมื่อทุกคนก็ล้วนเป็นคนไทย

แต่คุณคือซิแย เราคือคนนายู...

ผมว่าถ้าเราปล่อยให้เด็กคนนี้เสนอความคิดเห็นไปอีก เกรงว่าเด็กๆจะสับสนกันไปหมดนะครับท่าน (ตำรวจนายหนึ่งกระซิบกับร้อยตำรวจเอกนาวิน)

ไม่เป็นไร ผมมองว่า "การเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้พูดคุยกันให้มากที่สุด จะเป็นช่องทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน" ครับท่าน! อ่า !ดีมากครับ มีใครจะเสนอความคิดเห็นอะไรอีกบ้างครับ เพื่อเราจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่มีครับ!(ลุกมานเอ่ยขึ้น) พอดีมันใกล้ได้เวลาละหมาดแล้วครับพี่ อ่าใช่!จะ สี่โมงเย็นแล้ว ถ้าอย่างนั้นทุกคนฟังพี่นะครับ พวกเราลองแหงนมองดูธงไตรรงค์ผืนนั้นซิ (นักเรียนทุกคนแหงนหน้ามองไปที่ธงชาติไทย ที่กำลังโบกสะบัด) พวกเราเคยสังเกตอะไรบ้างไหม ไม่ว่าเราจะไปยังแห่งหนตำบลใดของประเทศไทย เราจะพบกับธงผืนนี้ตลอดทุกที่ มีธงไตรรงค์ผืนใดที่ไหนบ้างที่มิได้ประกอบด้วย สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน ที่โบกสะบัดทุกวันเวลา ๐๘.๐๐ น. กับ เวลา ๑๘.๐๐ น. และทุกครั้งที่เราเชิญธงชาติผืนนี้ขึ้นสู่ยอดเสา ใครไม่ได้ร้องว่า "ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ ผไทของไทยทุกส่วน...สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี..." บ้าง พี่อยากให้เรากลับไปคิดดูนะครับว่า "เรามีธงผืนนี้ได้ยังไง" และ "ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเองเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง" แล้วโอกาสหน้าพี่จะมาเยี่ยมน้องๆที่น่ารักทุกคนใหม่ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับพี่! (ลุกมานกล่าวลาแทนเพื่อน) มึงกลับไม่ถึงแน่พวกซิแย! (ยากระซิบกระซาบอยู่ในใจ)

ณ ถนนผ่านทางงานแต่งงานห่างจากโรงเรียนประมาณ ๕๐ เมตร...

ตู๊ม............ม ! ร่างกายอันบริสุทธิ์ปลิวว่อนร่วงหล่น สุดสิ้นลมหายใจนอนจมกองเลือด ครูครับ! ครูครับ! ครูคร้า..............................ฟ พี่ตำรวจกลุ่มเมื่อตะกี้ที่มาให้ความรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม โดนลอบวางระเบิดครับ! มีนายตำรวจเสียชีวิตหนึ่งนายครับ!เราแค่จะดักยิงหนังสะติ๊กเองนะ (ยาบอกกับตัวเองพร้อมความงุนงง)

เห็น ชาวบ้านเขาพูดกันว่า เคยเป็นคนที่เคยอยู่ในหมู่บ้านเราด้วย แต่เขาย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่แม่เขาเสียชีวิต รู้สึกจะชื่อนาวา นาวิน อะไรนี่แหล่ะครับครู! (เสียงหอบแฮ่กๆ พร้อมความตื่นตระหนกของลุกมาน พรั่งพรูออกมาเป็นเรื่องราว)

ชื่ออะไรนะ ! "รู้สึกว่า นาวา นาวิน นี่แหล่ะครับครู" (สิ้นเสียงบอกเล่าของลุกมาน ครูฮาบีฟ วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตตรงหรี่ไปยังที่เกิดเหตุ)

ณ สถานที่เกิดเหตุ...

(ครูฮาบีฟร่ำไห้แทบใจจะขาด โอบกอดร่างไร้ลมหายใจ ท่ามกลางชาวบ้านที่มุงดูผู้เสียชีวิต) ทุกคนจำไม่ได้หรือ นี่ "นาวิน" ! คนที่แม่เขาถูกยิงสียชีวิตในงานแต่งน้าชายผม ตอนมาปฏิบัติงานในพื้นที่เมื่อหลายปีก่อน (ทุกคนที่มุงดูหันหน้ามองกันด้วยความงุนงง) จะให้คนดีๆผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตอีกกี่รายกัน เพียงเพราะคำว่า "ซิแยกับนายู"

ไหนนายบอกว่า "จะกลับมาพัฒนาพื้นที่แห่งนี้" แล้วทำไมนายมาไม่บอกไม่กล่าว นายก็จากไปซะแล้วนาวิน (เสียงคร่ำครวญของครูฮาบีฟกึกก้องท่ามกลางวิถีคิดอันหลากหลายของผู้คนพร้อม การลับไปของชายชุดดำหลังกำแพงโรงเรียน ซึ่งมีแต่ครูฮาบีฟที่มองเห็นหลังไวๆของชายผู้นั้น)

(มีต่อตอนต่อไปครับ)

 

 

หมายเลขบันทึก: 258317เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2009 08:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2012 15:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

...เพียงธรรมดาของเส้นแบ่งทางความคิด...

...ไม่ถูกผิดเพียงเรารู้อยู่แค่ไหน...

...ตัวเรามองคนอื่นมองเห็นเช่นไร...

...อยู่ที่ใครจะใช้ "หัวใจ"มอง...

 ขอบคุณมากครับบัง Mr.Direct

P เม้นท์ได้น่าคิดมากครับ สุดหย๊อดๆๆๆๆๆๆ บังเรา

...เพียงธรรมดาของเส้นแบ่งทางความคิด...

...ไม่ถูกผิดเพียงเรารู้อยู่แค่ไหน...

...ตัวเรามองคนอื่นมองเห็นเช่นไร...

...อยู่ที่ใครจะใช้ "หัวใจ"มอง...

 

เจ็บปวดกับเรื่องเล่าค่ะ

ความเหลื่อมล้ำทางความรู้ที่เกิดใน 3 จังหวัดนั้นมากพออยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายปีนี้ ยิ่งทำให้ลูกหลานของเราได้รับความรู้ ความใส่ใจน้อยลง

ครูมีคุณภาพน้อยลง ครูไม่ผิดที่จะเลือกที่ปลอดภัย

และไม่ควรมีคำถามว่าใครผิด ควรมีแต่เพียงถามว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ให้อภัยกันได้ไหม ลืมว่าฉันคือใคร เขาคือใครได้ไหม

เพราะเด็กทุกคน คนทุกคน ก็คือคนไทย

ขอบคุณค่ะ

  • อ่านแล้วก็รู้ถึงซึ้งปัญหา
  • ว่าผ้าขาวผืนน้อยๆโดนแต่งเติมเพิ่มสี
  • แต่สุดท้าย แก้ที่ปลายเหตุ ทุกที
  • แล้วอย่างนี้จะอยู่กันอย่างไร พี่น้องไทย....เฮย

                         เศร้าใจครับ

                               รพี

บนหน้าแผ่นดินที่ยังไม่สามารถหาคนมาบอกได้ว่า อะไรคือถูกและอะไรคือผิด แล้วทำให้ทุกคนเชื่อตามที่ตัดสินได้ ความขัดแย้งจึงไม่ใช่สิ่งง่ายที่จะลบเลือน

สวัสดีค่ะคุณเสียงเล็กๆ

อ่านแล้วรู้สึกเศร้าใจมากค่ะ ไม่อยากเห็นคนไทยต้องฆ่ากันเลยค่ะ

แผ่นดินไทยมีเลือดของคนไทยหลั่งรินมามากจากหลายเหตุการณ์

ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเองค่ะ เราต่างศาสนาแต่เราคือพี่น้องกันมีพ่อคนเดียวกัน

เศร้าใจค่ะ ^o^

ขอบคุณมากครัพี่

3. สี่ซี่ 

การเหลื่อมล้ำทางความ...อะไรก็แล้วแต่จะบั่นทอนลงได้ด้วยกับการศึกษาอย่างถูกวิธีครับ(ผมเชื่ออย่างนั้น) มันเป็นแค่เรื่องสั้นอะนะครับ ลองอ่านตอนต่อไปดูนะครับ ที่บันทึกนี้เลยครับ บางครั้งอาจมีความรู้สึกในมุมมองใหม่ครับอย่ารีบด่วนสรุปครับ อิอิ

http://gotoknow.org/blog/fuad1011/258502

อย่าเพิ่งเศร้าใจครับคุณ

4. รพี กวีข้างถนน

  เพราะบางครั้งบางมุมมองสะท้อนคิดฉ ากสุดท้ายอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ครับลองติดตามอ่านต่อได้ครับ 

http://gotoknow.org/blog/fuad1011/258502

แล้วเราอาจจะพบเจอมุมมองใหม่ๆครับ

ขอบคุณ อ.จารุวัจน์ มากครับสำหรับการเข้ามาต่อติมความรู้สึกและความคิดครับ บนพื้นที่แห่งนี้ครับ ลองอ่านต่อครับ

http://gotoknow.org/blog/fuad1011/258502

เพราะบางครั้งเราอาจเจอเรื่องราวดีๆในตอนท้ายเรื่องครับ อิอิ

ขอบคุณมากครับคุณ

6. อาร์ม

 อย่าเพิ่งรีบเศร้าใจครับลองอ่านให้จบครับเพราะบางครั้งเราอาจเจอแง่มุมดีๆที่ชวนให้คิดในตอนท้ายเรื่องครับ

http://gotoknow.org/blog/fuad1011/258502

เรื่องบางเรื่องเราอย่ารีบด่วนสรุปครับเพราะยังมีเรื่องราวดีๆอีกมากมายในบางแง่มุมให้ชวนค้นหาครับ

 

"นายู" , "ซีแย" หรือ "แขก" คำพวกนี้ได้ถูกแบ่งแยกมานนานมากแล้ว คำสั้นๆ แฝงความรู้สึกเหยียดเล็กๆ มันช่างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก

นายู มอง ซีแยอย่างไร ซีแย มอง นายูอย่างไร คนในพื้นที่รู้กันดี ความเหลื่อมล้ำทางความรู้สึก มันได้ถูกแบ่งมาตั้งแต่อดีตสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน กล่าวได้ว่ามันฝังอยู่ในยีนส์เลยก็ว่าได้ ซีแย คืออะไร ก็คือ ชาวสยาม นาย คืออะไร ก็คือ ชาวมุสลิมจังหวัดชายแดนใต้

ผมมองว่าความรู้สึกแบ่งแยกนี้ได้ถูกแบ่งมาตั้งแต่ไทยยังใช้ชื่อ สยาม เลยด้วยซ้ำ การก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำนี้ มันดูเหมือนว่าง่าย แต่ไม่ได้ง่ายเลย เส้นแบ่งนี้ที่ได้ถูกขีดจนแทบจะลบไม่ออก .......

ขอบคุณมากครับคุณ ดินสอพเนจร

เรื่องบางเรื่องหากเราช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันผมมองว่าแม้มันอาจจะต้องใช้เวลาเราก็น่าจะช่วยกันดีกว่าปล่อยไปแบบเอือมระอาหรือไม่แยแสกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะอย่างน้อยด้านดีๆก็มีอีกมากครับแม้อาจเป็นเพียงมุมมองเล็กๆก็ตามที

ความรู้สีกหวาดระเเวงต่อกัน ระหว่าง นายู กับ ซีแย มันฝังลงลึก ยิ่งสถานการณ์ความไม่สงบมีมากขึ้น โอกาสในการให้ข่าวสารที่อคติย่อมมีมาก

ก้าวข้ามผ่านเส้นบางๆของ เชื้อชาติ และเรียนรู้ความจริง

สงครามที่ละเอียดอ่อนที่สุดและลุกลามทำลายล้างได้ในเวลารวดเร็ว คือ สงครามความรู้สึกนี่หละครับ

ขอบคุณพี่เอกมากครับ

  P 13. จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

สำหรับข้อคิดเห็นดีสู่วิถีการสร้างสมานฉันท์ในแนวทางให้ก่อเกิดขึ้นได้โดยเร็ววันครับ

ขอบคุณพี่เอกมากคะ

เพียงเส้นบางๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท