เสียงจากแดนไกล : ความแตกต่างที่เหมือนกัน


เรามาจากที่ที่แตกต่างกันแต่เรามีหัวใจที่เหมือนกัน

Good day mate ภาษาเขียนคงจะต้องเขียนอย่างนนี้แต่เวลาออกเสียงจริงๆ จะออกเป็น กู๊ด ได่ ไม้ท์ ตามสำเนียงออสเตรเลีย วันนี้ผมง่วงนอนแล้ว เพราะเหมือนจะเป็นไข้ หวังว่าคงไม่ใช่ไข้หวัดหมูที่ตื่นกลัวกันอยู่ตอนนี้นะครับ แต่ก่อนจะนอนผมมีเรื่องประทับใจมาแบ่งปันกันครับ สิ่งดีที่สุดที่ผมได้จากการเดินทางมาเรียนภาษาด้วยทุนของมหาวิทยาลัยนเรศวร ด้วยวิสัยทัศน์ทั้งของผู้บริหารทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ ทำให้ ผมได้เห็นอะไรมากมาย ซึ่งผมต้องขอกราบขอบพระคุณคณะผู้บริหารทั้งสองชุดไว้ ณ ที่นี้ด้วย

 

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกคือ การทีผมก้าวข้ามพ้นเรื่องความแตกต่างทางชาติพันธุ์  แนวคิด  และเรื่องศาสนาไปได้  ด้วยความที่ผมเป็นอาจารย์ที่สอนกฎหมายสิทธิมนุษยชน ผมคิดว่าหัวใจสำคัญที่ผมจะต้องมีคือ การที่ผู้สอนอย่างผมนั้นจะต้องมีหัวใจที่เปิดกว้างมากพอที่จะ มองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปเพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักการไม่เลือกปฏิบัติ  อันเป็นหลักพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน เดิมทีผมนั้นมีอคติเล็กๆ และตั้งแง่อยู่บ้างกับคนต่างชาติ ต่างเผ่าพันธุ์ และศาสนา  อย่างไรก็ตามด้วยความที่ผมได้มีโอกาสมาเรียนที่ต่างประเทศในครั้งนี้เองทำให้มุมมองที่ผมมีทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไป 

 ด้วยความที่ผมได้มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยวูลอนกอง ซึ่งที่นี่มีนักศึกษามาจากหลายชาติ หลายศาสนา มีศูนย์อิสลามศิกษา แถมอยู่กับครอบครัวชาวออสเตรเลียที่เป็นอดีตหมอสอนศาสนา และเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัดทำให้ ผมเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างๆ

ผมเคยกลัวคนต่างศาสนา โดยเฉพาะศาสนาบางศาสนา ที่ถูกนักการเมืองในประเทศไทย และกลุ่มครั่งศาสนาบางคนเผยแพร่แต่แง่ลบ และขาดความเข้าใจอย่างแท้จริง รวมทั้งมุ่งหวังจะใช้ผลประโยชน์จากความแตกแยกทางศาสนาในประเทศไทยเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ(ผมไม่ทราบได้ว่าคนกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์ที่แน่ชัด คืออะไร และไม่ทราบว่าเป็นใคร รวมทั้งไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นจะได้ประโยชน์อะไร ) แต่นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมเป็นห่วงตลอดมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยตรงๆ ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เปราะบางมาก

*****************************

"เรามาจากที่ที่แตกต่างกันแต่เรามีหัวใจที่เหมือนกัน"

เสียงคุณยายชาวนิวซีแลนด์วัย๘๖ปี ที่พูดกับผมบนโต๊ะกินข้าวตอนเย็นยังก้องอยู่ในหัวผมตลอดมา คุณยายหรือที่ผมเรียกว่า nana ที่เป็นภาษาท้องถิ่นของที่นี่ เป็นแม่ของ mom ชาวออสเตรเลียของผม ท่านเป็นภรรยาของmissionary และพึ่งกลับจากการเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนของท่านที่อินเดียซึ่งไปเปิดโรงเรียนช่วยเหลือเด็กยากจนที่นั่น  ท่าน คุยกับผมและพี่ที่อยู่ด้วยกันในวันหนึ่งระหว่างทานข้าวเย็น และท่านก็เล่าชีวิตของท่านให้ฟังว่าครอบครัวของท่านนั้นไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร แต่คุณตา(เสียชีวิตไปแล้ว) มักจะพูดเสมอว่า พวกเรา(ครอบครัวของเรา)นั้นร่ำรวยมาก นั่นคือร่ำรวยความรัก และมิตรที่ดี ท่านจะพูดเสมอว่าถึงแม้มีเงินก็ไม่สามารถ ซื้อสองอย่างนี้ได้ ท่านมีประโยคเด็ดหลายๆ ประโยค  ไว้ว่างๆจะมาเขียนให้ฟัง และท่านมีวิธีเลี้ยงลูกที่แทบไม่ต่างกับคนไทยเลย ท่านบอกว่า ถ้าให้ทุกอย่างกับลูก ลูกจะกลายเป็นขยะ เพราะจะเคยตัว แต่ถ้าสอนให้รู้จักลำบาก และรู้ว่าคนเรานั้นไม่สามารถได้อะไรมาทุกอย่าง ก็จะทำให้เด็กเรียนรู้ได้และรู้จักที่จะใช้ความพยายามด้วยตนเอง และไม่ทำอะไรตามใจตัวเองแต่อย่างเดียว ท่านยังมีคติดีๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งผมมองย้อนกลับมาดูแล้วแทบไม่ต่างกับที่คุณยายและคุณแม่เคยสอนผมเมื่อตอนเด็กๆ เลย

***********************

ผมมีเพื่อนชื่อ Aziz จากซาอุดิอาระเบีย Aziz เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลซาอุที่ตั้งใจเรียนมากคนหนึ่ง หน้าตาคมเข้มติดขี้เล่นหน่อยๆ

ผมรู้จักAziz เพราะการรายงานหน้าชั้นในครั้งหนึ่ง เราได้รับมอบหมายร่วมกันให้ไปหาข้อมูลมาโต้วาทีภาษาอังกฤษในชั้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวเขียนEssay เดิมทีผมนั้นก็ไม่ค่อยกล้าคุยกับนักศึกษาชาวอาหรับเท่าไหร่นัก ด้วยความที่น่าตาเค้าขึงขังและฟังไม่ค่อยออก รวมทั้งม่านบางอย่างที่ผมมี หลังจากการรายงานหน้าชั้นในครั้งนั้นเราได้มีการจับคู่กันฝึกคุยภาษาอังกฤษ ทำให้ผมรู้จักAziz ดีขึ้น Aziz บอกผมว่า

ผมเป็นคนพิเศษ และหนึ่งในสามสิ่งที่เป็นข้อดีในตัวผมที่Azizเห็นและขอให้ผมรักษาไว้คือการเป็นคนที่มีหัวใจสีขาว(White Heart) ผมถามว่ามันหมายถึงอะไร เค้าก็บอกว่า แรกทีเดียวผมเป็นคนต่างชาติ คนแรกในห้องที่กล้าคุยกับเค้านอกจากเพื่อนๆ ชาวซาอุด้วยกัน และ เค้าเห็นความเปิดใจโดยไม่ปิดบังระหว่างพวกเรา เค้าขอให้ผมรักษามันไว้

ผมอยากบอกAzizเหมือนกันว่า เค้าเป็นเพื่อนชาวมุสลิมคนแรกในชีวิตของผม และผมดีใจที่ได้รู้จักเค้า เหมือนกัน นอกจากAziz แล้ว ยังมี Amed, Amad, Mohamad และคนอื่นๆ อีกหลายคน ส่วนใหญ่เพื่อนชาวอาหรับจะเป็นคนหน้าเข้มๆ และดูหน้าเกรงขาม  แต่ถ้าเห็นตอนเพื่อนๆ พวกนี้ยิ้มแล้วจะเห็นว่า โลกทั้งโลกแทบจะละลายไปเลยทีเดียว รอยยิ้มของเค้าทำให้โลกสดใสเป็นกอง

Aziz เล่าให้ผมฟังว่าเค้าแต่งงานแล้ว ตอนนี้ส่งแฟนกับลูกกลับไปที่ซาอุเพราะไม่สามารถทุ่มเทให้กับการเรียนได้...

*************************

 

ผมสรุปกับตัวเองว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้แทบไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นชาติศาสนาไหนก็เหมือนกัน มีหัวใจเหมือนกัน รักความเป็นธรรมและรักตัวเองเหมือนกัน

ผมข้ามผ่านอคติต่างๆได้แล้วขอบคุณสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ที่สอนให้ผมรู้ ผมรัก และศรัทธา ในคน ทุกๆ คน ทุกชาติศาสนา

 

จากใจจริง ผมห่วงสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนไทยเรามีพี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เราไม่เคยเข้าใจเค้าเลย และเค้าถูกวาดภาพให้เป็นตัวร้ายตลอด แน่นอนทุกศาสนาก็มีทั้งคนที่ดีและคนไม่ดี แต่ต้องไม่เหมารวมคนทั้งหมด และผมห่วงเรื่องประเด็นที่มีคนพยายามนำประเด็นทางศาสนาเข้ามาพันผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกัน

ถ้าที่นี่คนทุกชาติศาสนาอยู่ร่วมกันได้ ด้วยความเคารพ และยอมรับในความต่างทางความเห็นของกันและกัน ทำไม ประเทศไทย ที่เคยเป็นแดนสันติสุข แลคนมีน้ำใจ เราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้....

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 258234เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2009 20:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท