ขอทำงานประจำเป็นงานคุณภาพด้วยคนครับ(ธีระพงษ์ หงอกสิมมา)


ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ เรื่องใกล้ตัว UTI กลัวไหมครับ

ไม่แน่ใจหรอกครับว่าผมจะทำเป็นหรือไม่  แต่พี่ๆที่ตึกผมใจดี ทั้งดึงทั้งดันให้น้องๆมีผลงาน  เพราะว่าเขาจะเอาไปอ้างได้ตอนประเมิน

พี่ให้โจทย์ว่า อะไรเป็นเรื่องที่เราคิดว่าเป็นปัญหาในการทำงาน  และเราอยากทำ แก้ปัญหาง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน

ผมเรียนมาน้อยแต่ทำทุกวัน ก็คิดว่าปัญหามันมทุกวันก็แก้ไป  พี่บอกว่ามันกว้างไป เอางี้เรื่องติดเชื้อแล้วกัน

ผมบอกว่า ผมทำกับผู้ป่วยชายนะ จะได้สอนญาติด้วย  แต่ผมเบื่อเก็บข้อมูลมาก(เบื่อเหมือนผมไหมครับ)

พี่บอกผมว่า  เอาน่า ช่วงแรกเก็บดูว่า ญาติทำถูกไหม เข้าใจที่เราสอนไหม ถ้าเราทำบ่อยๆมีความชำนาญในการสอน  เช่นพูดฟังง่าย ทำตามได้ถูก  ก็ไม่ต้องเก็บอีก

ผมก็โอครับ(ตอนนั้นไม่อยากบอกว่า OK)

พอเริ่มทำก็ต้องรับผิดชอบครับ

พี่เขาให้งาน แบ่งงานเป็นหน้ากระดานเลยครับ  คนงานรับผิดชอบเรื่องนี้นะระบุตัวบุคคลเลย

พนักงานการแพทย์คนนี้ดูเรื่องนี้นะ  แต่ละคนรับผิดชอบลงไป ผู้ช่วยพยาบาลคนนี้ดูเรื่องนี้  พยาบาลคนนี้ดูเรื่องนี้นะ สรุปว่าแค่ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื่องเดียวคนรับผิดชอบเป็นสิบ  ตอนแรกทำใจยากมากครับ พอทำไปสักพักก็รู้สึกว่า  สนุกได้กล้าพูด กล้าทำ กล้าสอน มีความสุข ปิติในใจ

พอมาเรื่องเอาข้อมูลไปวิเคราะห์  ก็ดีมีคนทำให้ ผมเก็บข้อมูล สอน ตามไปดู พอเข้าใกล้ผู้ป่วยและญาติเเบบนี้ผมรู้สึกมันแปลกไปกว่างานประจำครับ  ขึ้นมาก็วัดไข้  อาบน้ำ เช็ดตัว ฯลฯ

พอเดือนแรกผมเก็บข้อมูลได้ไม่ครบ ผมรู้สึกน้อยใจเพื่อนร่วมงาน พี่ก็ให้กำลังใจและบอกว่า เราก็ต้องสนใจงานเพื่อนด้วยต่างคนต่างช่วยกันนะ  (ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมก็มีงาน   เอาเป็นว่ามีงานที่รับผิดชอบเป็นตาสัปรดเลยที่ตึกผม)

พี่ลองให้นำเสนอในห้องประชุมก็สั่นครับสั่นเพราะไม่เคยพูดต่อหน้าคนเยอะๆ พี่ก็บอกว่าไม่ต้องสั่นพูดที่เราทำ ให้คนฟังถาม ผมลองซ้อมพูดต่อหน้าเพื่อน  ลองพูดกับพี่ๆความสั่นก็ลดลงครับ

เรื่องติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ที่ผมรับผิดชอบ คือผู้ป่วยชายที่ใส่สายสวนปัสสาวะ ญาติจะช่วยดูแลอย่างไรถึงจะไม่ติดเชื้อ  เพราะญาติไม่กล้าเช็ดอวัยวพสืบพันธ์ผู้ป่วย(ผมลืมบอกไปว่าคนไข้ผ่าตัดใหญ่กลับมาต้องใส่สายสวนปัสสาวะครับ  ถ้าเป็นคนไข้สมองก็มีปัญหา ด้วยการใส่กลับบ้านและญาติดูแลไม่เป็น หรือผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ญาติต้องช่วยดูแล เพราะถ้าทำไม้ถูกต้องติดเชื้อทางเดินปัสสาวะกลับมาครับ)

ผมก็สอนตั้งแต่อุปกรณ์มีอะไรบ้าง(อยู่ที่บ้านใช้สบู่ฟอกนะ)

ให้ดื่มน้ำอย่างน้อย1500ถึง2000 ซีซีก็ประมาณขวดโค้กใหญ่

สายก็ติดพลาสเตอร์ถ้าอยู่บ้นใช้เข็มกลัดก็ได้ ถ้าดึงรั้งเกิดการถลอกท่อทางเดินปัสสาวะอ่อนแอก็ติดเชื้อได้

ท้องไม่ผูกนะให้กินผักมากๆ ผลไม้ตามใจชอบ  และถ่ายเหลวจะทำให้เชื้อที่อยู่ในลำไส้หลุดลอดเข้าทางท่อปัสสาวะติดเชื้อได้

(ตอนแรกผมท่องครับเดี๋ยวนี้ทำได้ง่ายขึ้นเพราะทำทุกวัน )

 

Teerapong

ใบนี้แหละครับที่ผมต้องทำ

Uti

คู่มือที่พี่พาทำครับ(พอทำไม่ยากเท่ากับอ่านครับ อ่านแล้วมันเยอะนะครับ)

หมายเลขบันทึก: 256508เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2009 09:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีคะ

แม่ต้อยมาให้กำลังใจคะ เรื่องที่เขียนดีมากคะ

เห็นในความคิด และความรู้สึกของน้อง ความเบื่อหน่ายต่อข้อมูล

แต่ก็สำเร็จคะ..เก่งๆๆคะ

อ้อ.. เพลงไพเราะมากคะ ..คนอายุขนาดแม่ต้อยชอบมากๆคะ

 

Pน้องที่ทำงานทำงานเก่ง แต่ไม่ชอบเขียนค่ะ

แม่ต้อยขา  เอาแบบว่าเราต้องพาน้องเล่าเรื่อง ทำบรรยากาศเป็นกันเอง เช่นชั่วโมงเบรค และว่าง ค่อยๆทำใจเย็นๆ ที่สำคัญทำให้เป็นนิสัย  เพราะน้องบอกว่าเสียเวลามากกับเอกสารขอทำกับผู้ป่วยพี่ประเมินผู้ป่วยและญาติเลยครับ  นั่นแหละคำตอบที่ดีกว่าเอกสารที่พี่ดู

..............

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท