ผู้มากับจักรยานชีวิต : นักเรียนกวี...เลือดเนื้อเป็นเชื้อไฟฉายโชน


ผู้มากับจักรยานชีวิต : นักเรียนกวี...เลือดเนื้อเป็นเชื้อไฟฉายโชน
ครูกานท์
...

...
หลังจากคณะครูรากแก้วการอ่านรุ่นที่ ๔ จบหลักสูตรการเรียนรู้เดินทางกลับหมดแล้วตั้งแต่บ่ายวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๒ รุ่งเช้าวันที่ ๑๑ ขณะ ๖ สาวโรงเรียนกวีกำลังปฏิบัติภารกิจชีวิต หุงข้าว รดน้ำต้นไม้ และกวาดถูอาศรม ประตูหน้าบ้านยังไม่ทันเปิดรับบุคคลภายนอก ชายหนุ่มคนหนึ่งก็มาจอดจักรยานที่หน้าประตู คุณรุ่งโรจน์ ไกรบุตร เดินไปเปิดประตูต้อนรับ ชายหนุ่มคนนั้นจูงจักรยานเข้ามาจอดที่หน้าอาคารอาศรม ผมยิ้มให้เขาพร้อมรับไหว้...เขาแนะนำตัวพร้อมกับสมุดบันทึกที่จัดทำขึ้นเองจากกระดาษลังเก่าๆ ในสมุดนั้นปรากฏนามปากกาของเขาท้ายบทกวีแต่ละบทว่า “อินทร” หรือ สัจญา สุดยอด 

...
จากบุคลิกภาพอ่อนน้อม ดวงตาที่มุ่งมั่น และเรื่องราวของการเดินทางอย่างลงลึกเอาจริงกับชีวิตของอินทร...โดยขี่จักรยาน-อ่านหนังสือ-อ่านชีวิต-เขียนบทกวี แวะดื่มน้ำฟรีที่ป้อมตำรวจ พักนอนและกินข้าววัด ทำให้ได้พบบางสิ่งบางอย่างขณะพูดคุยกับเขาว่า เพียงอายุวัย ๒๒ ของเขา มันได้ทำให้อายุทางความคิดและจิตวิญญาณของเขาก้าวเดินเกินกว่าหนุ่มสาวในรุ่นราววัยเดียวกันเป็นอันมาก เขาแวะมาทุ่งสักอาศรมเพื่อจะพบและเรียนรู้การเขียนบทกวีกับผม ทั้งที่ไม่เคยรู้เรื่องโครงการโรงเรียนกวีที่ผมกำลังทำอยู่มาก่อน บ้านของเขาอยู่เขตอำเภอห้วยกระเจา ห่างจากทุ่งสักอาศรมไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๑๐ กว่ากิโลเมตร เขาเคยอ่านผลงานของผม แต่ไม่เคยรู้ว่าผมอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขา จนกระทั่งวันหนึ่งที่พระภิกษุและน้องๆ สามเณรวัดข้างบ้านที่ได้มาเรียนรู้ที่ทุ่งสักอาศรมกลับไปเล่าให้ฟัง เขาจึงไม่รอช้า เดินทางมาทุ่งสักอาศรมทันที... 
...
ผมถามเขาว่าในช่วง ๑๑-๓๐ เมษายน นี้มีภาระงานอะไรบ้าง เขาบอกว่า ๑๑-๒๐ เมษายน เป็นวันว่างระหว่างรอที่จะไปซ้อมปลดจากทหารเกณฑ์ประจำการในวันที่ ๒๑-๓๐ เมษายน ผมจึงชวนเขาเข้าร่วมเรียนรู้กับ ๖ สาวกวีในโครงการโรงเรียนกวีเป็นกรณีพิเศษ เขาดีใจและตอบตกลงโดยไม่ลังเล เขาจึงเป็นศิษย์โรงเรียนกวีคนแรกที่เข้าร่วมเรียนรู้ในระหว่างโครงการ ซึ่งไม่เคยมีศิษย์โรงเรียนกวีคนใดเคยได้รับสิทธิแบบนี้มาก่อน แต่สิทธิโอกาสที่เขาได้รับครั้งนี้มิใช่เป็นการตัดสินใจของผมเพียงคนเดียว หากแต่ ๖ สาวศิษย์โรงเรียนกวีรุ่น ๔ ที่กำลังเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรได้เป็นผู้ร่วมลงความเห็นอนุญาตร่วมกับผมด้วย อนุญาตเพราะเขามีต้นทุนชีวิตและจิตวิญญาณกวีอย่างเข้มข้นมาก่อนแล้วเป็นสำคัญนั่นเอง... 
...
โอกาสนี้เรามาร่วมอ่านบางบทกวีที่เขาและสาวๆ ศิษย์กวีแห่งทุ่งสักอาศรมร่วมฝึกหัดคิดเขียน เริ่มจากการเขียนบทกวี “บทเดียวจบ” ตามลำดับดังนี้ 
...
๑.บทกวีที่เขียนจากธรรมชาติรอบตัว ตามที่พบเห็น สัมผัส รู้สึก...เขียนจากบรรยากาศรอบๆ เนินปลวกตาลกลางทุ่งข้าว 
 

 
 

...
๒.บทกวีที่เขียนท่ามกลาง "แดดบ่าย" แห่งทุ่งสักอาศรม


 

...
๓.บทกวีที่กำหนดประเด็นสถานการณ์ “รถเก๋งสีเทา” หัวข้อนี้สืบเนื่องจากผู้ปกครองและญาติๆ ของ ปวีสุดา หรือ ได๋ หนึ่งในหกสาวกวีมาเยี่ยมค่ายโดยรถเก๋งสีเทา หลังจากพวกเขากลับไป ผมจึงใช้ “รถเก๋งสีเทา” ให้เป็นอีกหนึ่งความบันดาลใจของศิษย์กวีทั้ง ๗  

...

    
...
โรงเรียนกวีทุ่งสักอาศรม มิได้มุ่งหวังสร้างใครให้เป็นกวี หากแต่มุ่งหมายให้กระบวนการแห่งการอ่าน คิด เขียน เรียนรู้วรรณกรรม อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ วิถีภูมิปัญญาชาวบ้าน และจริยธรรมแห่งการใช้ชีวิตเพื่อสันติสุข จะสร้างสมภาวะกวี อันเข้าถึงมิติทางปัญญาและมโนคติให้ผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ สามารถอ่านชีวิตและเขียนชีวิตได้อย่างมีคุณค่าสร้างสรรค์...

หมายเลขบันทึก: 256068เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2009 13:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

น้อมกราบสวัสดีครูค่ะ..

ดีใจค่ะ..กับข่าวดีกวีน้อยคนที่ ๗ ของครู

เห็นผลงานของน้องๆ..ก็คิดถึงพวกเธอทุกคนค่ะ

คิดถึงครู..และทุกคนค่ะ

หากย้อนวันคืนได้..หนูคงได้พบและเรียนรู้กับครูนานแล้ว

เมื่อเป็นไปไม่ได้..จึงต้องก้าวต่อไป

แต่ละก้าวของหนู..จะทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุดค่ะครู

หนูเขียนบันทึก..ได้ ๓ บันทึกแล้วค่ะ

หากหนูพูดหรือเขียนประเด็นใดผิด..ครูกรุณาบอกหนูด้วยนะคะ หนูพร้อมจะแก้ไขค่ะ

๑.  http://gotoknow.org/blog/snauon/255164  (บทเริ่ม)

๒.  http://gotoknow.org/blog/snauon/255623  (บทเรียน)

๓.  http://gotoknow.org/blog/snauon/256032  (บทรู้)

๔.  บทที่ ๔ บทชีวิต..หนูกำลังเขียนค่ะ

 

            ด้วยความเคารพและระลึกถึงครู-แม่พรามค่ะ

                             ศน.อ้วนค่ะ

ครูขา..

หนูย้อนกลับมาอีกครั้งหนึ่งค่ะ..

เพราะสะดุดใจกับ ลายมือและภาษากวีของ น้อง "อินทร" ค่ะ

หนูไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่าภาษาของน้องอินทรดูคล้ายของครูจังค่ะ..

ทั้งบท..ผองเรา แดดบ่าย  และ เก๋งสีเทา ..ค่ะ

กราบสวัสดีครูกานท์ค่ะ

  • ดีใจที่สุดค่ะ คณะนักเรียนกวีและครูตัดสินใจไม่ผิดเลยค่ะที่รับศิษย์คนที่ ๗ กลางคัน
  • หนูอ่านสำนวนได้เพียงแค่สองบท  ผองเรา  และลมหายใจ ของอินทร  หลังจากที่ ศน.อ้วนโทรศัพท์ส่งข่าวว่าครูกานท์ได้รับศิษย์คนใหม่
  • หนูสะดุดกับสำนวนของน้องมากที่สุด นี่สำนวนครูนี่นา  ยังมีคนที่มีความคิด ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกันอยู่ด้วยโดยเฉพาะครูกานท์ ยากนักที่ใครจะเหมือน
  • อย่างน้อยเราก็เคยอ่านสำนวนของกวีมามากมาย แต่สำนวนที่กลั่นมาเป็นอักษรย่อมไม่มีแนวคิดที่คล้ายกันเช่นนี้ อัศจรรย์แท้เชียวค่ะ
  • จะแวะมาหาครูบ่อย ๆค่ะ รักษาสุขภาพรวมทั้งแม่พรามด้วยนะคะ

ระลึกถึงด้วยความเคารพค่ะ

  เหมียว สายตา

กราบขอโทษครูอีกครั้งหนึ่งค่ะ..

เป็นครั้งที่สี่แล้วค่ะ..ที่เครื่องดับวูบลงไปเมื่อหนูพิมพ์ข้อความจบแล้วและยังไม่ทันส่ง

จนลืมเชียวค่ะ..ว่าคุยอะไรกับครูบ้าง 

จำประเด็นหลักได้ค่ะ..คุยเรื่องน้องอินทร

หนูย้อนกลับมาอ่านทุกบทของน้องอินทรแล้ว  จึงโทรศัพท์บอกพี่เหมียวค่ะ..ว่ามหัศจรรย์แท้

ครูคะ..หนูยังจำได้ค่ะที่ครูบอกว่า  คนเกียจคร้านนี่สอนยากที่สุด หนูสัมผัสได้ว่าครูค่อนข้างอ่อนใจกับความเกียจคร้าน   ณ เวลานี้หนูดีใจแทนครูค่ะ..ครูได้พบกับเด็กขยันเรียนแล้ว

น้องอินทร..ไม่น่าจะทำให้ครูเสียใจนะคะ  

ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

ศน.อ้วน

ชอบบทนี้ค่ะ

มากราบสวัสดี สงกรานต์ไทย คุณครูด้วยค่ะ

     กราบสวัสดีค่ะครู...

        อ่านแล้วหนูทึ่งจริงๆกับหนุ่มน้อยผู้นี้ ชายหนุ่มผู้มากับจักรยานชีวิต....

     เขาคงจะเป็นหนุ่มน้อยที่เขียนชีวิตของตัวเองในแบบของตัวได้อย่างสวยงามนะคะ

                                              ด้วยความเคารพ...ครูตุ๊กแกค่ะ

สวัสดีครับมาอ่านครับช่วงนี้ทำงานควบสองตำแหน่งยุ่งจนไม่ค่อยได้ท่องเวป

ศน.อ้วน และ ครูเหมียว เป็นนักอ่านนักสังเกตที่แหลมคมนะครับ

บทกวีของ อินทร ทุกบทข้างบนเป็นผลงานของเขาอย่างจริงแท้ ครูกานท์ เพียงช่วยทักท้วงและติติงบางจุดให้เขาแก้ไขขณะฝึกเท่านั้น

ในส่วนบท "รถเก๋งสีเทา" ก็เช่นกัน ความคิดอ่านต้นทางก็เป็นของเขา ครูกานท์ เพียงแนะชี้การใช้คำบางคำให้ แล้วเขาก็ร้อยเรียงด้วยภาวะกวีในตัวตนของเขา

อินทร เป็นศิษย์ที่มีพลังมุ่งมั่นมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา

หลายคนอาจตกใจ...ถ้ารู้ว่าเขาเรียนจบในระบบโรงเรียนแค่ ม.๓ เท่านั้นเอง

แต่เขาเป็นนักอ่านที่ลุ่มลึก อ่านหนังสือดีๆ มามาก

เป็นนักเรียนรู้ชีวิตที่มีจิตใจงดงามละเอียดอ่อน

ขยัน สู้งาน อดทน จริงจัง

และมีจิตสาธารณะยอดเยี่ยมคนหนึ่ง

ขอบคุณ ภูสุภา และ ครูตุ๊กแก ผู้ปรารถนาดี

ขอให้บุญรักษาทุกท่านครับ

ครูกานท์

ทุ่งสักอาศรม

อายุบวรครับ คุณกวิน

ผมก็ปลีกเวลามาตรงนี้ได้จำกัดเช่นกัน

แต่มิตรภาพทางจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง...ยั่งยืนครับ

ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ ความสุขที่จารไนยขึ้นได้ด้วยอนูความรู้สึก เมื่ออ่านผลงานตัวเอง ณ.ช่วงวัยไหนก็ยังประทับใจทุกครั้ง ยอดเยี่ยมจนิงๆเลยเหลา

ครูกานท์คะ แยมเองนะคะ

เห็นน้อง ๆ โรงเรียนกวีแต่งบทกวีกัน

เรียกได้ว่า อ่าน เขียน เรียนชีวิต กันสนุกเลยนะเนี่ย

คิดถึงทุ่งสักอาศรมจังเลยค่ะ

อยากกลับไปเยี่ยมเยียน เพราะแยมรู้สึกว่า

ที่นั่นมีบางสิ่งที่ทำให้ชีวิตแยมสมบูรณ์ขึ้น

เรียกได้ว่าเป็นพลังชีวิตเลยล่ะค่ะ

สิ่งที่ไม่สบายใจ เมื่อไปถึงที่นั่น ที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ

ทุกสิ่งทุกอย่างหล่อหลอม จนทำให้สบายใจขึ้น

กล้าเผชิญกับสิ่งที่เรียกตัวเองว่า "ปัญหา" ได้อย่างมั่นใจ

ก็แยมเรียนชีวิต รู้จักชีวิต และรู้จักการเขียนชีวิต แล้วนี่คะ

ต้องขอบคุณครูกานท์นะคะ ที่ทำให้แยมรู้จักตัวเองมากขึ้น

ตอนนี้แยมกำลังเขียนชีวิตอยู่ค่ะ เขียนไปเรื่อย ๆ

เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ แล้วไว้วันหลังจะมาเล่าให้ครูกานท์ฟังอีกนะคะ

ครูกานท์สบายดีนะคะ สุขสันต์วันสงกรานต์ย้อนหลังนะคะ (ยังทันอยู่ใช่มั๊ยอ่า)

พี่ ๆ เพื่อน ๆ ครูรากแก้วทุกคน รวมถึงน้อง ๆ โรงเรียนกวี ด้วยนะคะ

คิดถึงมาก ๆ ไว้เรามาเจอกันอีกนะคะ

ใบสักกวักมือเรียกฉันและเธอเข้ามา มาสู่ชายคาอาศรมร่มเงามิ่งไม้

ดั่งนกน้อย ๆ บินคล้อยมาตามฝันใฝ่ ดวงใจงดงามนำฝ่าฟัน

ประดู่สะเดาแดดลมและทิวทุ่งทอง โอบกอดตระกองประคองรักฟูมอุ้มฝัน

ปลุกรักให้รู้ดูแลรักข้ามคืนวัน ผูกพันสองเราเป็นหนึ่งเดียว

เมฆขาว ดาวใส อยู่ในท้องฟ้า ดวงชีวา ของเราไม่เปล่าเปลี่ยว

ใบไผ่ สายธาร ทอรักและถักเกลียว รุ้งเรียวอรุณทิวาจะมาเยือน

ใบสักเริงรำระบำฤดูแผ่นดิน คืนถิ่นไร่นาศรัทธานี้ใครจะเหมือน

สู้ฝนสู้ฟ้าน้ำตามาตกเตือน ปีเดือนของเรายังก้าวเดิน

แยมยังร้องเพลงนี้อยู่ทุกครั้งที่คิดถึง "ทุ่งสักอาศรม"

หวังว่าพวกเราจะได้มาร้องเพลงนี้ร่วมกันอีกนะคะ (เพราะดี)

(ปล. ตอนนี้แยมกำลังอ่านหนังสือที่ครูกานท์มอบให้ครูรากแก้ว "กว่าจะข้ามขุนเขา" และกำลังจะท่องเป็นอาขยาน ตามสัญญาที่ให้ไว้กับครูกานท์นะคะ)

ขอคุณพระคุ้มครองครูกานท์ค่ะ

ขอบคุณ คุณปกาจานเรคคอร์ด

...

อายุบวร

นึกว่าใครที่ไหน kiky

ที่แท้ก็ แยม น่ะเอง

   ..."ตอนนี้แยมกำลังเขียนชีวิตอยู่ค่ะ เขียนไปเรื่อย ๆ

   เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ แล้วไว้วันหลังจะมาเล่าให้ครูกานท์ฟังอีกนะคะ"

สัญญาแล้วนะนี่...

บุญรักษา

...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท