Tatopani – shikha


เมื่อมากันครบแล้วพวกเราก็พากันเดินต่อคราวนี้เดินลง ด้านล่างเป็นนาขั้นบันไดที่ทอดตัวอยู่บนไหล่เขาเป็นระเบียบอย่างน่าอัศจรรย์ แต่มีสีที่ต่างกันบางแปลงเขียวอ่อน เขียวเข้ม และน้ำตาล มองแล้วรู้สึกสดชื่น

Tatopani – shikha

          วันนี้ออกเดินทางจากTatopani  ไป shikha  ภูวันบอกว่าวันนี้เดินขึ้นเป็นส่วนมาก   ออกเดินเลียบไหล่เขาไปไม่นานก็ข้ามสะพานแขวนมีอิฐมากองๆไว้ตรงทางเข้า สภาพสะพานไม่ค่อยดีเลย    ข้ามแม่น้ำ Ghar khola  ไปยังหมู่บ้าน Ghar khola   เป็นบ้านหินก่อขึ้นมาเหมือนบ้านชาวเขาของเนปาลทั่วไป   เดินอีกสักพัก   เดินข้ามสะพานไม้เก่าๆ   เดินแล้วหวาดๆ

            เดินขึ้นมาเรื่อยๆ เห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ดอกสีชมพูคล้ายซากุระ   บ้านสีขาวหน้าต่าง 3 บาน เป็นแถวสองข้างทาง   บางส่วนมีสีน้ำตาลส้ม   ชื่อหมู่บ้านDurbin   เดินขึ้นเขาตลอดจนมาถึงภูเขาลูกใหญ่   ทางขึ้นต้องมองๆหา มีฝูงลา ม้า มากันหลายฝูงต้องหลบ    นั่งรอเพื่อนๆ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่   ม้าเกเรมาชนปุ๊เข้าจนได้       เด็กๆวิ่งขายส้มกันอย่างสนุกสนาน    ไม่รู้จักเหนื่อย     เห็นแล้วก็น่ารักดี   เด็กรู้จักทำมาหากิน   สะพายย่ามกันคนละใบบรรจุส้มไว้ภายใน

             วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้ม   ฉาบเมฆบางๆ  พวกเราเดินเกือบถึงยอดเขา  มองเห็นฝูงนก  บินว่อนทั่วท้องฟ้า   มองไม่ออกว่าเป็นเหยี่ยว  หรือนกอินทรี        ถามภูวันก็ไม่แน่ใจ   นั่งรอเพื่อนๆที่ยังมาไม่ถึง  สักพัก มิ้งค์ มาถึง บอกว่านกที่เห็นไม่ใช่เหยี่ยวแต่เป็นแร้ง   ไปกินซากม้าตายด้านโน้น    นั่นซิเห็นบินมาจากด้านโน้น     เมื่อมากันครบแล้วพวกเราก็พากันเดินต่อคราวนี้เดินลง  ด้านล่างเป็นนาขั้นบันไดที่ทอดตัวอยู่บนไหล่เขาเป็นระเบียบอย่างน่าอัศจรรย์  แต่มีสีที่ต่างกันบางแปลงเขียวอ่อน  เขียวเข้ม และน้ำตาล    มองแล้วรู้สึกสดชื่น    เดินลงไม่นานก็เดินขึ้น   ขึ้นไปเรื่อยๆ  ถึงหมู่บ้าน  Ghara  นักเรียนคงได้เวลาพักพอดี    ภูวันถูกรุมเพราะแจกของให้นักเรียน   ปุ๋ยเห็นเด็กนักเรียนแล้วก็ยากแจกบ้างแต่ไม่ได้หยิบออกมาจากเป้ใหญ่      มีสาวๆมานั่งคุยกันที่ร้านค้าหน้าโรงเรียน  ฉันเข้าไปทุกทายคุยกันนิดหน่อย   เด็กสาวสนใจการดัดฟันของฉัน  ชี้แล้วคุยกันเป็นภาษานาปาลี  บางคนพูดภาษาอังกฤษได้ก็จะพูดกับฉัน   สนุกดีคุยกับเด็กๆ   เด็กๆกล้าคุยกับนักท่องเที่ยว

            เดินผ่านโรงเรียนออกจากหมู่บ้านไปตามทางขึ้นเขา  ต้นไม่ร่มรื่น  ยังมองเห็นยอด nilgiri    และนาข้าวขั้นบันได   วันนี้เดินขึ้นตลอด   ภูวันชี้ให้ดูยอดเขาเล็กๆด้านหน้า  นั่นคือ shikha  มองเห็นอยู่อีกไกล   ภูวันบอกว่าใช้เวลาเดิน 30 นาที   ฉันตั้งใจเดินแบบไม่พัก  ขึ้นบันไดขนาดใหญ่  ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็พบหมู่บ้าน shikha  ใช้เวลา 30 นาทีตามที่ภูวันบอกเลย   วันนี้ถึงบ่ายสองกว่าๆ  พักที่ hotel  monalisa  พวกเราพักชั้นบนของโรงแรม  กินอาหารกลางวันเมื่อทุกคนมาถึง 

              ทางโรงแรมปิดป้ายไว้ว่า  “Dhaulagiri   view roof top restaurant”        ฉันเห็นป้ายแล้วต้องขึ้นไปวิวตามคำเชิญ    ภูเขาด้านหน้าเขียวขจีขนาดใหญ่สลับซับซ้อน  มีภูเขาหิมะขาวโพลนอยู่ด้านหลัง          shikha   เป็นทางผ่านที่ไม่ค่อยมีใครพักสักเท่าไร   บ้านเรือนสองฝากอยู่บนเนินเขา  ทางแคบในหมู่บ้านตามภูมิประเทศ   บ้านเรือนติดๆกัน  ทางเดินเป็นแผ่นหิน    ปุ๋ยมองหาเด็กเพื่อแจกลูกอม   เมื่อแจกไป 1-2 คนก็จะบอกต่อกันมาอีกหลายคน   บางคนก็มาซ้ำ   

            นิด เบื่อรสชาติอาหารที่นี่แล้ว   ปรึกษากันว่าขอซื้อของเค้าแล้วพวกเราปรุงกันเอง    ฉันเสนอสาวปุ๋ยผู้สันทัดเรื่องทำกับข้าว   เมื่อเจรจากับเจ้าของโรงแรมแล้ว  มื้อเย็นวันนี้หลายคนก็เข้าครัวทำกับข้าวกัน   อาหารเย็นจึงอร่อยพอให้หายคิดถึงอาหารไทยไปได้บ้าง    คืนนี้นอนที่ความสูง 1935 จากระดับน้ำทะเล   อากาศหนาวเย็น 

คำสำคัญ (Tags): #shikha#tatopani – shikha#nepal#trek
หมายเลขบันทึก: 255139เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2009 02:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พี่คะ เขียนอีกคะ อยากอ่านต่อ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท