อยู่ในท่อนี้แหละค่ะ วางเป็น 4 ชั้น
เริ่มต้นจากวันนี้เป็นวันว่างเพียงไม่กี่วันที่ฉันมี ฉันเป็นข้าราชการทำงานในหนึ่งสัปดาห์ 6 วัน มีวันหยุด 1 วัน คือ วันเสาร์ และในวันเสาร์จะเป็นวันที่มีค่ามากๆ เพราะฉันต้องดูแลลูกสาว และลูกชายที่กำลังเจริญเติบโต น้องภูมิ วัย 2 ขวบ 4 เดือน เพิ่งจะหลับเมื่อสักครู่ ด้วยน้ำหนักประมาณ 14 กิโลกรัมของลูกชาย ที่พาดศรีษะอยู่บนบ่าของฉัน และหลับอุติอยู่ตอนนี้ น้องภัทรไปบ้านคุณปู่คุณย่าเมื่อสักครู่ ทำให้ฉันมีเวลาว่างเพียงเล็กน้อยที่จะมาเล่าต่อเรื่องราวการทำถั่วงอกปลอดสารพิษของสามี ผู้ที่มีความถนัดในการทำเกษตรกรรมมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะเขาเติบโตมาพร้อมๆกับการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่ทุกอย่างเขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
วันนี้เลยเอาวิธีการทำถั่วงอก ที่สามีของดิฉันทำมาเล่าบอก อาจจะคล้ายกับของหลายๆที่ ก็อาจจะมีเหมือนและแตกต่างบางอย่างนะคะ แล้วยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนด้วย บางครั้งก็มีเสียบ้าง ถึงขนาดว่ากินไม่ได้ก็มีค่ะ แต่พอบางวันที่สวย ก็มีพอกินได้หลายวันแล้วยังแบ่งขายได้อีก
เริ่มต้นจากการนำเมล็ดถั่วเขียวมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 6-8 ชั่วโมง หลังจากนั้นเตรียมการเพาะโดยนำตะกร้าพลาสติกและกระสอบป่าน พร้อมด้วยตะแกรงไนร่อน มาเตรียมให้พร้อม และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
วิธีทำ 1. นำถั่วเขียวที่แช่น้ำอุ่นแล้วมาล้างให้สะอาด แบ่งเป็นสี่ส่วน
2. นำตะแกรงไนร่อน วางในตะกร้าพลาสติกห่างจากพื้นประมาณ 1 นิ้ว
3. ตัดกระสอบป่านวางบนตะแกรงไนร่อน แล้ววางตะแกรงไนร่อนบนกระสอบป่านอีกครั้ง
4. นำเม็ดถั่วเขียวส่วนที่ 1 วางลงบนตะแกรงแล้วเกลี่ยให้เสมอ
5. นำกระสอบป่านวางอีกชั้นแล้วนำตะแกรงไนร่อนวางบนกระสอบ
6. นำเม็ดถั่วเขียวส่วนที่ 2 วางลงบนตะแกรงแล้วเกลี่ยให้เสมอ
7. ทำให้ครบ 4 ชั้นตามเม็ดถั่วเขียวที่จัดไว้ 4 ส่วน
รดน้ำทุกวันๆละ 3 เวลา เช้า เที่ยง เย็น ใช้ถุงดำคลุมไว้ 3 วันนำออกมาบริโภคได้
ฉันชอบกินถั่วงอกมาตั้งแต่เด็กๆ มาทุกวันนี้จะได้กินเวลาซื้อขนมจีนในตลาด แม่ค้าเขาจะใส่เป็นผักรวมๆกันให้ ไม่รู้ว่าสะอาดหรือเปล่า ปลอดสารเคมีหรือเปล่า แต่พอได้ทำเอง รู้ว่าปลอดภัยจริง เก็บได้นาน ก็สบายใจมากขึ้นในการดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัว
มันขึ้นงามจริงๆครับ น่าทาน ชอบกินผัดถั่วงอกครับ (ต้องทานร้อนๆ ผัดเสร็จใหม่ๆ) ขอบคุณครับสำหรับ นวัตกรรมดีๆ
ขอนำไปบอกต่อและเพาะกินเอง ขอบคุณค่ะ
ขอขอบพระคุณทุกท่านนะคะที่ให้ความสนใจ ความจริงก็เป็นอย่างที่บอกน่ะค่ะ เพราะว่าดิฉันมีเวลาว่างน้อยเลยมีบ้างที่ให้เวลากับตัวเองและครอบครัวน้อยไปนิดนึง แต่ก็พยายามใช้ทุกช่วงเวลาอย่างมีคุณค่า โดยเฉพาะช่วงวันสงกรานต์ วันที่ 12 เม.ย.52 ที่ไม่ได้ขึ้นเวรที่ สอ. ได้พาลูกชายลูกสาวไปรดน้ำขอพรจากตายายที่ศรีสะเกษ พาไปปิดทองลูกนิมิตรที่วัดบ้านระกา แล้วก็พาไปดูห้างเปิดใหม่ บิ๊กซี ที่ศรีสะเกษ ตลอดการเดินทางดิฉันก็เล่าบอกเรื่องราวต่างๆกับสิ่งที่ลูกเห็นให้เขาฟัง เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการในด้านการเรียนรู้ของเขาทั้งคู่
สำหรับเรื่องของน้ำหนักของลูกชาย ขอบคุณพี่หมอมากค่ะ ที่ทำให้ดิฉันต้องกลับไปเปิดดูสมุดสีชมพูฝากครรภ์ (ขนาดเป็นเจ้าหน้าที่ บางทียังเปิดเฉพาะวันที่จะพาลูกไปฉีดวัคซีนเลยค่ะ) ก็พบว่า น้ำหนักส่วนสูงและพัฒนาการของน้องภูมิปกติดีค่ะ พัฒนาการเกือบเท่ากับเด็ก 4 ขวบ เพราะน้องภูมิจะสนใจและซักถามว่า ทำไม อยู่ตลอดเวลา แล้วร้องเพลงที่ครูที่ศูนย์เด็กเล็กสอนได้ทุกเพลง ความจำดีมากเลยค่ะ ขึ้นลงบันไดเองได้ ไม่ฉี่รดที่นอน ที่สำคัญหนังสือนิทานที่แม่เล่า พอลูกเห็นภาพน้องจะเล่าและซักถามเป็นเรื่องราวได้ด้วยนะคะ ส่วนบางครั้งที่ดิฉันอยากให้น้องอยู่นิ่งก็จะเอาตัวต่อมาให้ เขาก็จะนั่งต่อเป็นรูปต่างๆ เป็นรถแมคโคร รถไฟ ตามเรื่อง ยอมรับว่าสมาธิดี แต่ขาดเหตุผล คือ อยากได้อะไรจะเอาให้ได้ เมื่อก่อนชอบร้องไห้กลั้นด้วยนะคะ มาช่วงหลังดิฉันแก้ไขได้แล้ว นานเหมือนกันกว่าจะแก้ได้ แต่ก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
แต่ก็มีบางอย่างที่น้องภูมิทำได้แต่ไม่ชอบทำ เช่น การแปรงฟัน แต่แปรงทุกวันค่ะ ต้องบอก น้องภัทรน้องภูมิฟันดีทั้งสองคนเลย โชคดีที่เขาชอบดื่มนมจืด แล้วก็หมั่นแปรงฟัน น้องภัทรไม่ชอบดื่มน้ำอัดลม แต่น้องภูมิจะมีบ้างเวลาหิวมากๆ อาจเป็นเพราะเขาตัวโตด้วยมั้งค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจน่ะคะ ถ้างานไม่ยุ่งมากจะหาเวลามาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานผัดถั่วงอกมาก
แต่ก็กลัวมากเช่นกัน..เมื่อทราบวิธีทำที่หฤโหด
และ..ทำให้ไม่กล้าซื้อมาทำเอง
ขอบคุณมากนะคะ..สำหรับวิธีการทำถั่วงอก
จะลองไปทำดูบ้าง
***ได้ผลยังไง..แล้วจะรีบมารายงานโดยด่วนค่ะ***
ขอบคุณทุกท่านคะ เรื่องทำถั่วงอก ต้องใจเย็นๆนะคะ ช่วงนี้อากาศร้อน คนทำก็ต้องใจเย็นคะ เพราะว่าถ้าเราใจร้อนไปด้วยมันจะเสียหมดเลย แต่ช่วงนี้ที่บ้านไม่ได้ทำถั่วงอกแล้วค่ะ พอดีปลาดุกที่บ้านโตแล้ว สามีเลยไปจับทั้งบ่อมาทำปลาแดดเดียวไว้ให้ลูกๆทาน ซื้อมาเลี้ยงประมาณ 200 ตัว ให้กินอาหารสำเร็จรูป แล้วก็หอยเชอรี่ ตอนฤดูทำนา ไม่รู้เหมือนกันว่าปลากินไปได้ยังไง แต่มันก็ตัวโตดีนะคะ ทอดกินวันนี้เอง อร่อยดีค่ะ ยังมีดองมะยม ทำผักกาดเขียวดอง ถ้าเก็บภาพได้จะเอามาบอกต่อนะคะ (เพราะที่บ้านไม่ค่อยได้ซื้ออาหารเท่าไหร่ ผักบุ้ง ผักคะน้า ปลูกเองค่ะ แปลง 2 แปลง เก็บแล้วมันก็แทงยอดขึ้นมาอีกกินได้เรื่อยๆ)ลูกๆก็กินได้ค่ะ สอนลูกกินผักลูกจะได้ตัวโตๆ อ้อ ตอนนี้ที่บ้านมีหมูป่าลูกผสม(หมูไทยพื้นบ้าน หรือ ไทยกระโดน) เพิ่มจำนวนแล้วนะคะ จากแม่ 1 ตัว ได้ลูกหมูเพิ่มอีก 4 ตัว รวมเป็น 5 ตัว กำลังน่ารักเลย เพิ่งคลอดได้ประมาณ 15 วัน ไว้วันหลังจะเล่าเรื่องลูกหมูน่ะคะ ตื่นเช้ามาลูกสาวลูกชายชอบไปนั่งดูแม่หมูกับลูกเกือบทุกวันเลย
ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงค่ะ เรื่องลูกชาย ดิฉันก็เป็นห่วงเหมือนกัน ก็พยายามดุแลเกี่ยวกับการบริโภคอาหารประเภทน้ำตาลน่ะคะ กำลังชอบเลย โดยเฉพาะน้ำอัดลมถ้าเจอก็ต้องได้จิบๆ บางทีก็เลยเป็นแก้วก็มี ลูกอมด้วยอันนี้ของโปรด หมากฝรั่งด้วย สิ่งที่ทำเสมอๆคือ พยายามพาลูกออกกำลังกายน่ะคะ ลดพลังงานและไขมันสะสมในระยะยาว เหมือนพี่หมอบอก ขอบพระคุณมากค่ะ นอกจากนี้แล้วมีสิ่งใดดีดี รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ กว่าจะมีลูกได้สักคน กว่าจะเลี้ยงโต บางทีคนเป็นแม่ก็อาจจะไม่มีวันเรียนรู้ได้หมด แต่อยากเรียนรู้และได้รับคำแนะนำเพิ่มเรื่อยๆค่ะ ยินดีมากๆ
ส่วนข้อสงสัยที่มี 1 ถาม ตอนนี้ยังหาตัวช่วยไม่ได้ ดิฉันอยากถามท่านที่เข้าอ่านด้วยนะคะ หลานสาวที่บ้านอายุแค่ 6 ขวบ กำลังจะย่าง 7 ขวบ น้ำหนักเกือบ 32 กก.แล้วค่ะ แบบนี้เขาเรียกว่าภาวะโภชนาการเกิน มีวิธีแก้ไขไหมค่ะ เราบอกแม่เขาให้ลดอาหาร พาออกกำลังกายมากขึ้น เขาก็ทำไม่ได้ ดึกๆต้องตื่นมากินอีก ถ้ากินตอนเย็นไม่อิ่ม หลานดิฉันเขากินไม่อิ่ม เขาก็หงุดหงิด แอะอะอาละวาด อารมณ์เสียง่าย แก้ไขยากนะคะ ท่านใดมีวิธีดีดี ที่เห็นผลบอกต่อด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณค่ะ
ไม่ทราบว่าซื้อถั่วเขียวกันจากที่ไหน ราคาเท่าไหร่
เพราะถั่วเขียวทั่วไปตามท้องตลาด ตอนนี้แพงมาก
อยากทดลองทำบ้างกลัวไม่คุ้ม
ถั่วเขียวแพง ก็จริงแหละคะ ช่วงที่สามีทำถั่วงอกเมื่อ ปี 52 กิโลกรัมละ ประมาณ 26-30 บาท ค่ะ ซื้อที่ศรีสะเกษนี่แหละ ซื้อมาเป็นกระสอบนะคะ ตอนนั้นเขาซื้อมาหวานในนาข้าวหลังเก็บเกี่ยวก็เลยเอามาเพาะด้วย ตอนนี้กิโลกรัมละ 48-50 บาท สามีบอกว่า บางทีก็เพาะไม่ได้ เพราะว่าเป็นถั่วเขียวที่นานแล้ว ใช้ไม่ได้ ช่วงนี้เลยไม่ได้ทำถั่วงอกทาน แล้วก็ไม่ซื้อด้วยคะ เพราะว่าไม่อร่อยเหมือนที่ทำเอง ความรู้สึกว่าที่ทำเองมีความปลอดภัยมากกว่าเพราะเราเห็นกระบวนการที่เขาทำ ก็สบายใจ ส่วนซื้อที่ตลาดเราไม่เห็นเขาเพาะก็เลยไม่ค่อยซื้อทาน สุขภาพสำคัญนะคะ จะกินอะไรก็ต้องระมัดระวังด้วย เดี๋ยวนี้อายุไม่ถึง 60 ปี ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งแล้ว เรื่องถั่วงอก ช่วงนี้อากาศร้อนอบอ้าวด้วยทำไปก็คงไม่สวย ไม่คุ้มกับความตั้งใจ แต่ถ้าจะลองจริงๆสักกิโลกรัมก็น่าจะเห็นผลนะคะ ว่าจะออกมาหน้าตาเป็นยังไงก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ก็ไม่เสียหายนะคะ