เป็นนิทานที่
ดร.พนม
พงษ์ไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เล่าให้ฟัง
สรุปความได้ว่า ที่วัดแห่งหนึ่งมีผีอยู่หลายตน
ผีตนหนึ่งเป็นผีที่ซุกซน ชอบมาเล่นกับคนที่มาวัดและอยู่วัตอน
กลางคืน วันหนึ่งที่วัดแห่งนี้มีงานประจำปี
มีการละเล่นการแสดงต่าง ๆ หลายอย่าง มีคนมาช่วยงานวัดกันมากมาย
พอตกดึกคนมาช่วยงานก็เริ่มอ่อนเพลียจึงขึ้นไปนอนเรียงรายกันบนศาลาวัด
พอทุกคนหลับไป
ผีซุกซนก็ออกมา เห็นคนนอนกันมากมาย ก็รู้สึกสนุก อยากเล่นกับคน
เห็นแต่ละคนนอนกันไม่เป็นระเบียบ ก็รู้สึกขัดตา
จึงเข้าไปจับโยกย้ายให้นอนเป็นแถวเป็นแนว
แล้วก็ถอยออกมาดูผลงานของตนว่าเป็นระเบียบพอใจหรือยัง
พอดูสักครู่
ก็ยังไม่พอใจ เพราะเห็นเท้าไม่เป็นระเบียบ
จึงเข้าไปดึงเท้าของทุกคนให้เสมอกัน แล้วมายืนดูผลงาน
ก็ยังไม่พอใจเพราะหัวคนไม่เสมอกัน
จึงเข้าไปจัดหัวใหม่ให้เสมอกัน แล้วมาดูผลงาน
ก็ยังไม่พอใจอีก เพราะเท้าไม่เสมอกัน จึงเข้าไปจัดเท้าใหม่
จัดเท้า
จัดหัวอย่างนี้หลายครั้ง จนใกล้สว่าง ก็ยังไม่เสมอกัน
จนผีรู้สึกอ่อนใจ และเริ่มเกิดโมโห จึงเข้าไปจัดใหม่ คราวนี้
ถ้าใครหัวหรือเท้ายาวไป ผีก็กดหัวกดเท้า บีบให้หดสั้นเข้า
ใครสั้นไปก็จับหัว เท้าดึงยืดออก คราวนี้ผีทำได้สำเร็จ แต่ทำได้
5 คน ก็พอดีสว่าง ผีจำเป็นต้องไป จึงจัดระเบียบแถวไม่เสร็จทุกคน
ผลการจัดแถวของผี
ทำให้คน 5 คน ที่ถูกผีจับยืด จับหด
กลายเป็นคนผิดปกติพิกลพิการไป โชคดีที่ผีจัดระเบียบแถวไปได้ไม่กี่คน
เพราะสว่างเสียก่อน มิเช่นนั้นคนทั้งศาลาวัดร่วม 100 คน
คงต้องกลายเป็นคนพิการหมด
*********************
ธเนศ ขำเกิด [email protected]
ไม่มีความเห็น