เนื่องจากทำงานในหอผู้ป่วยหนัก ให้การพยาบาลแบบดูแลกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมต่างบนเตียงให้ผู้ป่วยทั้งหมด (Total care ) ในหอผู้ป่วยจะปิดประตูหน้าต่างมิดชิด เปิดให้ญาติเยี่ยมตามเวลา
คือเข้าเยี่ยมวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1/2 - 1 ชั่วโมง
เวลา 06.30 - 07.00 น.
เวลา 12.00 - 13.00 น.
เวลา 17.00-18.00 น.
สาเหตุที่เปิดให้เยี่ยมเป็นเวลาเนื่องจากผู้ป่วยส่วนมากอาการหนัก ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด
และผู้ป่วยมีกิจกรรมการพยาบาลเกือบตลอดเวลา เพื่อให้แพทย์ พยาบาลสามารถดูแลคนไข้ได้อย่างเต็มที่ จึงให้เยี่ยมตามเวลา
จากการที่ให้เยี่ยมตามเวลาเคยแอบมองดูเวลาที่ญาติเข้าเยี่ยม บางครั้งน่าเห็นใจญาติเหมือนกันค่ะ บางครั้งก็เห็นภาพที่น่ารัก เช่น ญาติบางคนพอเยี่ยมเสร็จ ก็เดินออกไปและหันมายิ้มให้ผูป่วยแล้วโบกมือบายๆกัน พอหันมาเห็นเรากำลังมองดูอยู่เค้าหัวเราะเก้อๆอายๆ (อิอิอิ)
หรือบางที ผู้ป่วยเด็กน้อย(3-4 ปี)บอกว่า "แม่ไปขอหมอเร็วๆขออยู่ต่อ อยากอยู่กับแม่" (บางทีเราก็อนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้อยู่ได้ต่อถ้าผู้ป่วยอาการไม่หนักมาก ต้องการแม่แล้วสัญญาจะ ว่านอนสอนง่าย ถ้าไม่ได้แม่อยู่ด้วยจะอาละวาดร้องๆๆๆๆ (อิอิอิ)
บางทีเด็กน้อยอาจจะเป็นสัญชาตญาณม้างเพราะว่าเค้าจะทำตัวน่ารักๆ ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเล่นด้วยเพราะไม่มีญาติเฝ้า บอกให้ยิ้มจะยิ้มๆๆ หรือถ้าสอนให้ทำหน้าจู๋ ผู้ป่วยเด็กจะทำให้ทุกครั้งที่เข้าไปหาแล้วบอกทำหน้าจู๋สิจ๊ะ เด็กจะรีบทำเลย (อิอิอิ) บางครั้งร้องให้จากการโดนแทงน้ำเกลือ พอเราบอกทำหน้าจู๋หน่อย จะทำหน้าจู๋ทั้งคราบน้ำตาเลยน่ารักมากและน่าสงสารค่ะ
การดูแลผู้ป่วยต้องดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งเราก็พยายามทำกันให้ได้ จริงๆก็ทำได้เยอะเหมือนกันเพราะมีคำชมบ่อยจากการเขียนในกล่องแสดงความคิดเห็นหรือของฝากจากผู้ป่วยเมื่อกลับมาตรวจตามนัด บางครั้งก็มีข้อเสนอแนะ ซึ่งทางเราก็พยายามแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบกันทุกคนเมื่อมีข้อเสนอแนะ โดยจะติดไว้ส่งเวรให้อ่าน
ผมเคยไปเยี่ยมคุณพ่อผม ท่านมีหลายโรคที่สำคัญคือ "โรคชรา" พอลูกๆ ไปหาแกก็อ้อนอยากกลับบ้าน เลยต้องขอคุณพยาบาลอยู่เฝ้าเลยเวลาเยี่ยม คุณพยาบาลคนสวยก็ใจดี อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
ตอนนี้กำลังสงสัยตัวเองว่า หากเป็นคนไข้จะเป็นอย่างไร (ถ้า..มีพยาบาลใจดีอย่าง รพ.มข. ก็คงดี....ฮิฮิ)
ในชีวิตผมเคยเป็นคนป่วยนอนโรงพยาบาลเพียง 2 ครั้ง ครั้งแรกอุบัติเหตุผมปั่นจักรยานโดนรถสิบล้อชน ผลนอน 7 วัน ครั้งที่สองเป็นมาลาเรีย (จากการนอนป่า...บ้านคำบาก) จำไม่ได้ว่ากี่วัน รู้เพียงหลายวันมาก (เกือบเดือน) ไม่มีความประทับใจขณะที่อยู่ รพ.เลย (ตัวชี้วัด...คือ..จำอะไรไม่ได้นั่นเอง.....)
ขอชื่นชมในความพยายามดูแลผู้ป่วยทั้งร่างกายและจิตใจครับ
โห อาจารย์ป่วยนานเกือบเดือนเลยหรอคะ ทรมานน่าดูนะคะ
อยู่ รพ. นานคงไม่ประทับใจหรอกค่ะอาจารย์ ถึงหมอ พยาบาลจะใจดีขนาดไหนคงไม่ดีหรอกค่ะ อยู่บ้านดีที่สุดค่ะอาจารย์ (อิอิอิ) ขาดซึ่งอิสระภาพ
ดิฉันไม่เคยนอนโรงพยาบาลเลยตั้งแต่จำความได้ แต่เมื่อเป็นพยาบาลก็ยิ่งไม่อยากป่วยค่ะ
ตอนนั้น หมอสงสัยว่าจะเป็นมาลาเรียขึ้นสมอง เลยให้นอนดูอาการ แต่.....กลางวันนอนให้หมอและพยาบาลเห็นครับ พอกลางคืน.....เพื่อนมันเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ไปเที่ยวเต้นรำในบาร์ก็มีครับ ฮิฮิ (แต่ไปไม่กี่วัน......มันเหนื่อยนะครับ)
ดีจังเลย.....ที่ไม่เจ็บไข้...ถึงกับนอนโรงพยาบาล.....เออ...จริงสิ.....ทำไมเขาไม่เรียกว่า..โรงหมอ หรือโรงแพทย์ล่ะครับ เรียกโรงพยาบาลแสดงว่า พยาบาลเป็นใหญ่ ฮ่า ฮ่า
แวะมาอ่านความเห็นอกเห็นใจความเอื้ออาทรที่มีให้ต่อกัน
สังคมต้องการคนแบบนี้เยอะนะคะ..มีความสุขกับการทำงานคะ
อาจารย์คะ โรงพยาบาลทั่วประเทศเลยค่ะ ไม่ยักกะมีโรงหมอค่ะ อิอิอิ
ดิฉันทำงานที่หออภิบาลผู้ป่วยโรคหัวใจและเด็กค่ะอาจารย์ คือ (Coronary Care Unit และ pediatic Intensive Care Unit = CCU&PICU) ดูแลผู้ป่วยเด็กวิกฤต และผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจทุกชนิดค่ะเช่น เปลี่ยนลิ้นหัวใจ ทำทางเบี่ยงหลอดเลือด(บายพาสเส้นเลือด) ปิดรูรั่วหัวใจ หรือเส้นเลือดโป่งพอง ประมาณนี้ค่ะ เจอทั้งผู้ป่วยเด็กหนักและผู้ป่วยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นโรคหัวใจค่ะ ทำให้สามารถดูแลได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ หลากหลายค่ะ
การทำงานจึงเจอเรื่องสนุกๆเยอะเหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องเครียดคนทั่วๆไป (ผู้รับบริการ) ก็รู้เหมือนกันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ add ขอบคุณนะคะที่แวะมาให้กำลังใจ สู้ๆเหมือนกันนะคะ
ขอให้มีความสุขกับการทำงานเหมือนกันนะคะ
ตามมาอ่านค่ะ เขียนได้ดีมากๆค่ะ ดีใจที่มีน้องเก่งค่ะ