เซ็กส์สิกขา ๒ เพศไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยสังคม !


กระบวนการ ‘สิ่งสร้างทางสังคม’ ที่เรื่องเพศได้ถูกทำให้เป็นไปอย่างอย่างน่าสนใจประการหนึ่งก็คือ เพศได้ถูกทำให้กลายเป็น สิ่งสกปรก ชั่วร้าย ต่ำช้า น่ารังเกียจ ผู้ใดเข้าไปสัมผัสข้องแวะด้วยมีสิทธิ์กลายเป็น ฅนชั่วเลวทราม ไปได้ไม่ทันข้ามคืน ยกเว้นว่าจะเข้าไปข้องแวะกับเรื่องเพศภายใต้เงื่อนไขที่เพศเป็นเรื่องที่อยู่ในกรอบระเบียบบางอย่างที่สังคมได้จัดวางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้น “เพศสัมพันธ์ที่ดีในกรอบที่สังคมได้จัดวางสร้างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” คืออะไร ?

พศไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ  แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยสังคม !


            ที่บอกว่าเพศไม่ใช่เรื่องธรรมชาติแต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยสังคมนั้น  เราอยากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าเวลาที่ร่างกายของฅนเราเจริญเติบโตเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์กัน  คือ  เวลาที่ลูกอัณฑะของผู้ชายเริ่มมีการสร้างตัวอสุจิ องคชาติแข็งตัวจนสามารถหลั่งน้ำอสุจิออกมาได้ ส่วนผู้หญิงก็เริ่มมีการตกไข่มีรอบเดือน  ในเวลานั้นฅนเราก็ไม่ได้มีโอกาสร่วมเพศกันอย่างที่ ‘ธรรมชาติ’ ภายในเรียกร้องทั้ง ๆ ที่วัยเจริญพันธุ์นั้นเอง   (จำได้ว่าน่าจะราว ๆ ๑๓ ขวบขึ้นไป … วัยเจริญพันธุ์ของแต่ละฅนอาจเหลื่อมล้ำกันนิดหน่อยอย่างน้อยก็อยู่ในราว ๆ ๑๓–๑๕  ขวบนี่แหละ) แต่ละฅนต่างก็มีความต้องการทางเพศกันอย่างเต็มเปี่ยมถ้วนหน้า  แต่ก็ไม่ได้ทำตามใจอยากได้อย่างเต็มที่เพราะมี  ‘สิ่งสร้างทางสังคม’  คอยกำกับดูแล
            กระบวนการ ‘สิ่งสร้างทางสังคม’ ที่เรื่องเพศได้ถูกทำให้เป็นไปอย่างอย่างน่าสนใจประการหนึ่งก็คือ  เพศได้ถูกทำให้กลายเป็น สิ่งสกปรก ชั่วร้าย ต่ำช้า น่ารังเกียจ ผู้ใดเข้าไปสัมผัสข้องแวะด้วยมีสิทธิ์กลายเป็น ฅนชั่วเลวทราม ไปได้ไม่ทันข้ามคืน  ยกเว้นว่าจะเข้าไปข้องแวะกับเรื่องเพศภายใต้เงื่อนไขที่เพศเป็นเรื่องที่อยู่ในกรอบระเบียบบางอย่างที่สังคมได้จัดวางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
            ถ้าอย่างนั้น  “เพศสัมพันธ์ที่ดีในกรอบที่สังคมได้จัดวางสร้างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” คืออะไร ?
            เพศสัมพันธ์ที่ดีในกรอบของสังคมก็คือต้องเป็นเพศสัมพันธ์หรือการร่วมเพศที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า
           - เป็นคู่  ไม่เป็นหมู่
           - อยู่ในวัยอันควร  (แต่ก็ไม่ชัดเจนนักว่าวัยอันควรคือเมื่อไร ?)
           - เกิดขึ้นระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น
           - อยู่ในสถานะของการแต่งงาน  ไม่ใช่เซ็กส์นอกสมรส
           - มีความรักกันมาก่อน  ไม่ใช่เกิดขึ้นภายหลังรู้จักกันไม่ถึง ๕ นาที
          - เกิดขึ้นในที่มิดชิด  ไม่สาธารณะ  หรือไม่เป็นไปเพื่อโชว์หรือเพื่อบันทึกเป็นภาพนิ่ง/    เคลื่อนไหว
          - เป็นไปเพื่อการสร้างเผ่าพันธุ์  ไม่ใช่เพื่อสนุก
          - ไม่ใช่การสำเร็จความใคร่ตนเอง
          - ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย
          - เกิดขึ้นระหว่างอวัยวะเพศที่ตรงข้ามกันเท่านั้น และไม่เกิดขึ้นที่อวัยวะอื่น ๆ เช่น ที่ทวารหนัก  หรือที่ปาก
         - ไม่มีการใช้อุปกรณ์อื่นเข้าช่วย  เช่น   Sextoy
                      ฯลฯ

           

            จะเห็นได้ว่า  ‘กรอบเรื่องเพศ’  ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้กำกับ  จำกัด  ควบคุม  ดูแลฅนให้ดำรงตัวเองอยู่ในกรอบเรื่องเพศที่ไม่เปิดกว้างนัก (ถ้าตัด ‘ฯลฯ’ ออกไปแล้วมาช่วยกันระดมสมองเราคงได้ ‘ตัวอย่าง’ ของเพศในกรอบอีกหลายตัวอย่างทีเดียว)  หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั้นก็คือฅนไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศแม้แต่นิดเดียว  ควรประพฤติพรหมจรรย์ให้กลายเป็นพระไปเลย  แต่ความเป็นจริงก็คือฅนเราทำแบบนั้นไม่ได้เพราะฅนไม่ใช่พระอรหันต์ ฅนมีความต้องการทางเพศ ผู้ฅนจำนวนมากจึงรู้สึกอึดอัดและถูกกดดันไปกับ ‘สิ่งสร้างกำมะลอ’  อันนี้  โดยที่ฅนจำนวนมากต่างก็มีพฤติกรรมทางเพศที่หลุดกรอบกันฅนละเล็กละน้อยไปฅนละทิศละทาง  และไม่เป็นที่เปิดเผยในที่สาธารณะเสียด้วย !
            ดังนั้นหากพฤติกรรมทางเพศที่นอกกรอบของใครก็ตามได้ถูกเปิดเผยเปิดโปงต่อสาธารณชน  บุคคลนั้นก็จะถูกประนามถูกลงโทษจากสังคมอย่างที่มีฅนจำนวนหนึ่งทั้งที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียงได้ถูกเปิดโปงและกำลังถูกลงโทษจากสังคมอยู่ในเวลานี้ ในขณะที่ฅนจำนวนไม่น้อยต่างก็มีพฤติกรรมทางเพศที่หลุดกรอบกันทุกฅนเพียงแต่ไม่ได้ถูกเปิดเผยในที่สาธารณะเท่านั้นเอง
            ในขณะที่ใครก็ตามที่พยายามทำตัวให้อยู่ในกรอบเรื่องเพศที่ดีตามที่สังคมวางไว้ก็จะได้รับรางวัล  คำชมเชย  การยอมรับและการช่วยเหลือต่าง ๆ จากทั้งตัวสังคมเองและจากสถาบันทางสังคมทั้งที่เป็นหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน (นี่เองเราจึงได้เห็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงหลายฅนรีบจัดงานแต่งงานเพื่ออำพรางผลลัพธ์อันเกิดจาก ‘เซ็กส์ที่นอกกรอบ’ ให้กลายเป็น ‘เซ็กส์ที่อยู่ในกรอบ’ ได้อย่างทันท่วงที)  ส่วนใครก็ตามที่มีพฤติกรรมทางเพศที่นอกกรอบไปจากที่สังคมได้กำหนดก็จะได้รับการประจาน ประนาม รังเกียจ ไม่ยอมรับเพราะถือว่าเป็นบุคคลชั่วร้ายสมควรได้รับการลงโทษ
            หากเราสามารถมองเห็นว่าเพศก็เป็นสิ่งที่ถูกปรุงแต่งและสร้างขึ้นโดยสังคมเช่นเดียวกับหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างบนโลกนี้  บางทีเราอาจจะมีสติกันมากขึ้นก่อนที่เราจะมองและตัดสินใครจากฐานความคิดของเราเองโดยมี สิ่งสร้างทางสังคม ฝังหัวอยู่  อีกทั้งเราจะได้จัดการกับความต้องการในเรื่องเพศของเราได้ถูกที่ถูกทางมากขึ้นอย่างไม่ต้องรู้สึกกังวลและกดดันอีกต่อไป  รวมทั้งอะไร ๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศจะได้ดูไม่น่ากลัวจนเกินเหตุอันสืบเนื่องมาจากความกลัวที่สังคมสร้างขึ้นโดยมีตัวเราเป็นทาสคอยรับใช้และบริหารความกลัวนั้นให้ดำรงอยู่อีกที
         

        นี่แหละเราถึงได้บอกว่า  เพศไม่ใช่เรื่องธรรมชาติแต่เป็นสิ่งสร้างทางสังคม !

*เคยลงตีพิมพ์ใน คอลัมน์  เซ็กส์สิกขา   ผู้เขียน  ฅนนอก  

จุลสาร   เส้นฟาง  เดือน  ธันวาคม 2547  ชื่อบทความ  เพศในฐานะสิ่งสร้างทางสังคม
หมายเลขบันทึก: 25150เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2006 18:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นมัสการท่านมหา

ยังตามอ่านอยู่นะครับท่าน

อย่าเลิกนะครับเห็นท่านหายไปนาน เรารอท่านอยู่

กำลังยุ่งงานทำหนังสือเณร/กะเขียนเค้าโครงวิทยานิพนธ์ครับ อ่านบทความอื่น ๆ ของสมาชิกได้ครับ เก็บสะสมรวบรวมอยู่ ของใหม่คนเขียนหลาย ๆท่านยุ่งเรียนมั่ง สอนมั่งครับ บทความเขียนข้าว 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท