เงินสิบบาท ... อ่านแล้ว ชวนให้คิดค่ะ
ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า 'ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร' เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า '7 บาท'
ครูถามเด็กคนแรกว่า "ทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท"
คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10 บาท คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ ดังนั้น จึงได้เงินทอน 2 บาท
ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย
คำตอบก็คือเด็กคนนี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา
โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน
... ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง
... เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่
การสร้างโจทย์ที่ 'เสมือนจริง' จินตนาการของ 'ครู' อาจถูกจำกัดเพียงแค่ 'ตัวเลข'
... แต่สำหรับเด็ก จินตนาการของเขาไร้กรอบ 10 บาท
... จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท
เมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท เราจึงได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1 บาท
โลกในห้องเรียนกับโลกของความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน โลกในห้องเรียน ทุกคำถามส่วนใหญ่มีเพียง 1 คำตอบ แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1 คำตอบ
มาอ่านแล้วคิดตามอีกค่ะ คงมีอีกหลายคำตอบ แต่สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า ถ้ามีคำตอบเป็นตัวเลือก ก ข ค ง ให้ นั่นคือ เราคิด ลบ มากกว่า คิด บวก ตั้ง สามข้อ การถามแบบให้คิด และบอกเหตุผล เปิดโอกาสการเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเกิดการมองในมุมต่างๆ ที่น่าตื่นเต้นนะคะ
คิดถึงคุณหมอนนค่ะ ย้ายไปอยู่เชียงใหม่กันไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
เป็นบทความและข้อคิดที่ดีมากเลยค่ะ