หน้าแรก
สมาชิก
น.ส. จงจิตต์ ฤทธิ...
สมุด
New Born:New Broom
ชีวิตของลุงแข่งบน...
น.ส. จงจิตต์ ฤทธิรงค์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ชีวิตของลุงแข่งบนพื้นฐานทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
ประโยคสุดท้ายลุงพูดก่อนเลี้ยวรถมาจอดหน้าสถานีให้เราขึ้นรถได้สะดวก “ถ้าคนเรารู้จักพอก็มีความสุข”
ปกติการเดินทางกลับจาการปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยกาญจนบุรี ของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ณ กาญจนบุรี ที่ไทรโยคนั้น จะใช้รถบริการของศูนย์ฯ แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงของเก็บข้อมูลงานสนาม ทำให้ต้องเดินทางกลับศาลายาด้วยรถประจำทาง แต่ศุกร์นี้ (2 ธันวาคม 2548) โชคดีเพราะได้มากับรถเช่าที่มารับอุปกรณ์สำหรับการเก็บข้อมูล และรับเราไปส่งที่สถานีขนส่ง ซึ่งอยู่ในอำเภอเมือง
ได้นั่งคู่กับลุงคนขับผู้เป็นเจ้าของรถอายุราว 50 ปี แววตาใจดี พอรถเริ่มออกจากศูนย์ฯ บทสนทนาก็เริ่มขึ้น ลุงเล่าว่าขับรถให้พนักงานสัมภาษณ์เก็บข้อมูลมา 4 ปีแล้ว ซึ่งใช้เวลาปีละประมาณ 2 เดือน จนตอนนี้สร้างบ้านได้หลังหนึ่ง ลุงเล่าว่าพอเสร็จงานแต่ละปี ก็ซื้ออุปกรณ์สำหรับสร้างบ้านเก็บไว้ ปีหนึ่งซื้อหน้าต่าง พอได้เงินมาอีกก็ซื้อปูน อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมไม่รอเก็บเงินให้พอก่อนแล้วค่อยสร้างบ้าน เพราะเกรงว่าบานหน้าต่างจะโดนปลวกจัดการไปเสียก่อน ลุงบอกว่ามีเงินก็ซื้อเก็บไว้เลย
เดี๋ยวของจะแพงขึ้น
อีก แกขอบอกขอบใจ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ที่ช่วยแกสร้างบ้านได้สำเร็จ จากนั้นเรื่องราวต่างๆก็พรั่งพรู
ครอบครัวลุงมีพี่น้อง 13 คน มีอาชีพทำนามาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย ไม่คิดจะไปทำอย่างอื่นเพราะ
ไม่ชอบให้คนอื่นมาเป็นนาย
แกทำนาเป็นนายตัวเอง ไม่มีใครมาสั่ง สบายใจดี ข้าวที่ปลูกบนที่นายี่สิบกว่าไร่ ปีละ 2 ครั้ง
ส่วนหนึ่งเก็บไว้กินได้ตลอดปี ที่เหลือก็ขาย
ได้เป็นเงินค่าใช้จ่ายในครอบครัว ญาติพี่น้องคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ทำนา น้องชายของลุงหัวคิดก้าวหน้า มีอยู่ปีหนึ่งน้องชายเรียกใช้บริการรถเกี่ยวข้าวและคงเห็นว่าเทคโนโลยีช่วยให้คนเราสบายกายขึ้น จึงหาซื้อรถเกี่ยวข้าวเก่ามาราคาสองแสนบาท ปัจจุบันใช้ทำมาหากิน ซ่อมโน่นเพิ่มนี่ก็หมดไปเป็นล้าน แต่คงคืนทุนพร้อมกำไรมาพอสมควรแล้ว
ลุงใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา ไม่มีลูก แม้ว่าจะไม่มีภาระเรื่องดูแลลูก แต่ก็วางแผนใช้ชีวิตตัวเองไว้อย่างดี ลุงซื้อรถกระบะมือสองเลือกรุ่นประหยัดน้ำมัน ทนทานตามที่ได้ศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี ใช้ขับเพื่อทำงานมาสิบแล้ว สภาพรถยังดีจึงมีคนมาขอซื้อต่อ ให้ราคาดี แต่ลุงก็ไม่ขาย เพราะ
ไม่อยากสร้างหนี้
ด้วยการซื้อรถใหม่ แม้ว่าจะมีรถคันโปรดอยู่ในใจก็ตาม ตอนนี้สร้างบ้านใหม่เสร็จแล้ว ก็เตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุด้วยการทำงาน
เก็บเงินไว้ดูแลตัวเองและภรรยายามแก่เฒ่า
ด้วยความที่ภรรยาเป็นคนสมถะไม่ฟุ้งเฟ้อจึงอยู่ด้วยกันมามีความสุขดี ลุงบอกว่าถ้าคนสองคนมีพื้นฐานไม่เหมือนกัน คนหนึ่งมีแต่ความอยากได้ ฟุ้งเฟ้อ อีกคนหนึ่งไม่อยากได้ ก็ทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ เลยได้ข้อคิดเรื่องเลือกคู่มาอีกหนึ่งข้อ
คุยกันมาสารพัดเรื่องก็จวนจะถึงสถานีขนส่ง ประโยคสุดท้ายลุงพูดก่อนเลี้ยวรถมาจอดหน้าสถานีให้เราขึ้นรถได้สะดวก
“
ถ้าคนเรารู้จักพอก็มีความสุข
”
ทำให้นึกถึงพระราชดำริของในหลวงเรื่อง
เศรษฐกิจพอเพียง
ที่สอนให้คนไทยทุกคนรู้จักทำงานและใช้จ่ายอย่างมัธยัสถ์ ก่อนจะลงจากรถก็ไม่ลืมที่จะถามชื่อสารถีใจดีคนนี้ที่ชื่อ
“
ลุงแข่ง
”
จึงขอนำเรื่องราวดีๆ ของลุงมาเล่าต่อ และขอบคุณลุงแข่งที่พาเรามาส่งอย่างปลอดภัยและช่วยเตือนสติให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
(จงจิตต์ ฤทธิรงค์,
เรื่องของลุงแข่ง: ข้อมูลที่ไม่ต้องสัมภาษณ์แต่นำไปใช้ได้จริง
, จดหมายข่าวประชากรและการพัฒนา, ปีที่ 26 ฉบับที่ 4)
เขียนใน
GotoKnow
โดย
น.ส. จงจิตต์ ฤทธิรงค์
ใน
New Born:New Broom
คำสำคัญ (Tags):
#uncategorized
หมายเลขบันทึก: 24835
เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2006 15:22 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:46 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
น.ส. จงจิตต์ ฤทธิ...
สมุด
New Born:New Broom
ชีวิตของลุงแข่งบน...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท