ย้อนวัน-มันๆ กับมาดาม


แม้วันเกิดปีนี้ เธอจะไม่ได้อยู่กับครอบครัว แต่สิ่งที่ฉันทำคงทำให้เธอหายคิดถึงบ้านบ้างนะ

ย้อนวัน-มันๆ กับมาดาม

 

                จบบันทึกที่แล้วด้วยการบอกว่า เรียนที่นี่ ๑๑ เดือน บันทึกเดียวคงไม่จบ คนอ่านอาจจะงง ทำไมไม่เรียนให้ครบปี เพราะว่าเหลืออีกแค่เดือนเดียว ก็อีก ๑ เดือนที่เหลือ ไปเรียนภาษาฝรั่งเศสสำหรับนักกฎหมายไงคะ เตรียมพร้อมสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยต่อไป และที่ คาเรล (CAREL) ไม่มีเรียน เลยต้องย้ายเมืองไปเรียนที่เกรอนอบ (เบลอะ ออกเสียงนิดเดียว) (Grenoble) สำหรับที่นี่จะเป็นอย่างไร ก็ต้องคอยอ่านกันต่อไปนะคะ แต่ตอนนี้อยู่กันที่เมืองโคยอง[1] (Royan) ก่อนดีกว่าค่ะ

 

                เมืองโคยองเป็นเมืองเล็กๆ ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของฝรั่งเศส อยู่เหนือบอร์(ค)โดซ์[2] (Bordeaux) ขึ้นมาหน่อยนึง ข้อมูลเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๘ มีชาวเมืองประมาณ ๑๕,๐๐๐ ๑๘,๐๐๐ คนในเวลาปกติ แต่พอช่วงหน้าร้อน คือช่วงกรกฎาคมถึงสิงหาคม จะมีผู้คนมืดฟ้ามัวดินมาอยู่ที่นี่เพื่อตากแดด!! จนยอดจำนวนคนพุ่งไปเป็นแสน เชื่อมั้ยคะ!! เชื่อเถอะค่ะ เพราะเจอมาแล้ว ตอนที่ใครต่อใครเขาบอกข้อมูลนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่พอเห็นด้วยตาตัวเอง...โอ้แม่เจ้า มันเป็นตามนั้นจริงๆ ด้วย

                ชาวเมืองโคยองส่วนใหญ่จะแบ่งห้องในบ้านให้คนเช่าด้วย ส่วนร้านอาหาร หรือโรงแรมต่างๆ ก็ทำงาน (หนัก) กันประมาณ ๓-๔ เดือน เขาว่า (อีกแล้ว) ทำงานแค่นั้นก็ใช้ไปทั้งปี ตัวเองตอนเรียนก็อยู่กับครอบครัวฝรั่งเศส เขาแบ่งชั้นบนของบ้านให้นักเรียนต่างชาติเช่า มี ๓ ห้องนอน ๑ ห้องน้ำ และ ๑ ห้องครัว อ้อ...ตอนหน้าร้อนก็สามารถปีนหน้าต่างออกไปนั่งบนหลังคาเล่นได้..ฮ่าๆ เมื่อมี ๓ ห้องนอน แสดงว่ามีคนอยู่ ๓ คน ก็เป็นบางช่วงค่ะ บางช่วงก็มีแค่ ๒ คน และบางช่วง ข้าพเจ้าครอบครองชั้นบนของบ้านคนเดียว J และที่สำคัญ ช่วงหน้าร้อน มาดามเจ้าของบ้าน[3]ขอขึ้นค่าเช่าด้วยค่ะ!! L เพราะถ้าเขาปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่า จะได้มากกว่าที่ให้นักเรียนเช่าเยอะ ก็เลยขอขึ้นหน่อยนะ เอ้า...ไม่ว่ากัน ต้องทำมาหากินนี่เนาะ

                อ่านถึงแค่นี้ ใช่ว่ามาดามจะเขี้ยวนะคะ เขาน่ารักและมีน้ำใจตามสไตล์เขาแหละค่ะ เย็นวันหนึ่ง ข้าพเจ้าเดินกลับมาถึงบ้าน มาดามก็มายืนรีๆ รอๆ อยู่หน้าบ้าน ผิวปากอย่างอารมณ์ดี แล้วก็เดินขึ้นบนบ้านพร้อมข้าพเจ้าด้วย ท่าทางมีเลศนัย ไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง (ข้าพเจ้าเริ่มมองโลกในแง่ร้าย...มาดามจะแกล้งอะไรฉันเนี่ย) พอเข้าห้องครัว ข้าพเจ้าก็เห็นแจกันดอกไม้เล็กๆ น่ารัก เห็นอาหารพร้อมขนมหวานวางอยู่บนโต๊ะ เอ๊ะ...อะไรกันเนี่ย แล้วมาดามก็พูดว่า “Bonne anniversaire” ก็คือสุขสันต์วันเกิดแหละค่ะ จากนั้นก็เข้ามากอด หอมแก้ม ๒ ข้าง (เรียกว่าบิซู –Bisous) งงค่ะ...งง เพราะวันเกิดข้าพเจ้ามันวันรุ่งขึ้น ไม่ใช่วันนี้ซะหน่อย แต่แหม...มาดามอุตส่าห์ทำเซอร์ไพรส์ ข้าพเจ้าก็เลยต้องขอบคุณ แล้วเขาก็ลุ้นให้นั่งกินเลย ระหว่างที่หม่ำอย่างเอร็ดอร่อย มาดามก็นั่งคุยเป็นเพื่อน และบอกว่า แม้วันเกิดปีนี้ เธอจะไม่ได้อยู่กับครอบครัว แต่สิ่งที่ฉันทำคงทำให้เธอหายคิดถึงบ้านบ้างนะ โอ้โฮ...เกือบพูดไม่ออกแน่ะ แต่สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ บอกว่า มาดามขา...วันเกิดอิฉันเนี่ย วันพรุ่งนี้จ้า ไม่ใช่วันนี้ มาดามก็...อ้าว...เสียงหลงเลย ข้าพเจ้าเลยเข้าไปกอดพร้อมกับไหว้งามๆ ที่อก บอกว่า แต่ถึงอย่างไร ก็ขอขอบคุณมากๆ ที่มาดามทำให้ในวันนี้ มาดามก็ซัดฉันแบบเบาๆ แก้เขิน..ฮ่าๆ

                อีกเรื่องนึงที่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใย ก็คือข้าพเจ้าเป็นสิวขึ้นทั้งหน้าเลย (เห็นรูปตัวเองตอนนั้น ยังอดสยองไม่ได้..เอิ๊กส์) มาดามก็บอกให้นัดหมอ ไปหาหมอได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าขี้เกียจ เป็นเอง เดี๋ยวก็หายเองน่า... มาดามพูดหลายหนจนเลิกพูด แล้วหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง ข้าพเจ้าก็เห็นมาดามมายืนรอหน้าโรงเรียน บอกว่า วันนี้มีเซอร์ไพรส์ แล้วไล่ให้ข้าพเจ้าขึ้นรถ จากนั้นมาดามก็ขับรถไปคลินิกหมอค่ะ...แล้วทำเสียงเขียวว่า เมื่อไม่ยอมมาดีๆ ก็ต้องบังคับแบบนี้แหละ..เหอๆ เหมือนแม่มั้ยคะ จริงๆ อายุมาดามตอนนั้นก็อายุมากกว่าแม่ข้าพเจ้านะคะ

 

                ก่อนหน้าที่ข้าพเจ้าจะมาอยู่ ก็มีเพื่อนคนไทยของข้าพเจ้าเคยอยู่มาก่อน และพอข้าพเจ้ามาเรียน ก็แนะนำว่าให้มาอยู่กับครอบครัวนี้ เพราะงั้นครอบครัวของมาดามก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับคนไทยพอสมควร ถ้าข้าพเจ้าทำอะไรประหลาดๆ มาดามก็ไม่ตกใจ... เช่น กินสตรอบอว์รี่เปรี้ยว เราก็จะจิ้มเกลือ มาดามก็บอกว่า แปลก ถ้ามันเปรี้ยว ก็ต้องแก้เปรี้ยวด้วยน้ำตาล ทำไมคนไทยกลับจิ้มเกลือกิน คือ เขาพยายามทำความเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี..อิอิ

 

                มาดามคะ ถึงแม้ว่ามาดามจะอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ข้าพเจ้าก็พอใจแล้วที่ได้เขียนถึง ได้ใช้เวลาระลึกถึงมาดามและครอบครัว หลายฉาก หลายตอนของความห่วงใย ความใส่ใจที่มีให้ตลอดมา เด็กไทยตัวเล็กๆ (ขณะนั้น!!) คนหนึ่ง ซาบซึ้งมากค่ะ ขอบคุณมาดามโกดูชง

                Merci beaucoup Madame Gauduchon J

 



[1] ตัว R ในภาษาฝรั่งเศสออกเสียงเหมือนเรากำลังจะขากเสลดน่ะค่ะ ไม่ใช่ ค ควาย ไม่ใช่ ร เรือ เพราะฉะนั้นภาษาไทยที่เขียนจึงอาจไม่ตรงกับเสียงที่เปล่งออกมา

[2] เขียน ค ควายในวงเล็บเพราะต้องมีเสียงขากเสลดนิดๆ ด้วยค่ะ คือไม่ใช่ บอร์ก และไม่ใช่ บอร์ เฉยๆ

[3] จริงๆ มีทั้งมาดามและเมอร์ซิเออร์ที่เป็นสามีเขา แต่จะใกล้ชิดมาดามมากกว่า ก็ขอเขียนถึงเฉพาะมาดามก็แล้วกันนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #mme gauduchon#royan#ฝรั่งเศส
หมายเลขบันทึก: 246952เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2009 17:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

มาดามของเราชื่อ "มาดามเปอติ (Petit)"

มีเรื่องราวแบบสุดๆ เหมือนกันนะ ต้องรื้อความจำเหมือนกันค่ะ

อาจารย์คะ ค่อยๆ นั่ง นอน รื้อความทรงจำ เดี๋ยวเขาก็มามาเองค่ะ ^^

สวัสดีคะป้าต๊อก...อยากเห็นรูปบรรยากาศเมืองโคยองจังคะ

ครูแอนคะ

สมัยที่ป้าต๊อกไปเรียน ยังไม่มีกล้องถ่ายรูปดิจิตอลเลย กำลังจะถ่ายรูปรูปถ่ายของตัวเองอยู่ ถ้าได้ ก็จะลงรูปให้นะคะ แต่ตอนนี้ ถ้าอยากเห็นภาพ ก็เข้าที่ http://maps.google.com/ แล้ว search คำว่า royan france ก็จะเห็นภาพเมืองค่ะ ลองดูนะคะ

ดูอบอุ่นดีจังค่ะ จารย์โชคดีที่เจอแต่คนดีๆจริงๆ จะรออ่านตอนต่อไปค่า

หมาน้อยๆ เอ๋ย ตอนต่อไปมาแล้ว มาเขย่าขวัญหมาน้อย..ฮ่าๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท