เรื่องเล่าดีๆที่มีมาฝาก ;การอบรมเผชิญความตายอย่างสงบ ตอนที่ 2


เรามีเวลาที่จะไปเรียนคอมพิวเตอร์ เรียนกอลฟ์ แต่เราไม่เคยให้เวลากับการเรียนเรื่องเตรียมตัวตาย เลยหรือ...

สวัสดีค่ะ ชาว G2K ทุกท่าน  นำเอา เรื่องเล่าดีๆที่มีมาฝาก ;การอบรมเผชิญความตายอย่างสงบ  ตอนที่ 2 มาบอกเล่าต่อนะคะ...

ส่วนตอนที่ 1 นั้น ท่านสามารถติดตามได้ที่  Link นี้ค่ะ  การอบรมเผชิญความ ตายอย่างสงบ ตอนที่ 1

 

      ในการอบรมครั้งนี้ ท่านพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ได้กล่าวถึงว่าทำไม เราต้องมาคิดถึงหรือว่าอบรม ในเรื่องของความตายฯ ...ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ  

 

§  ชีวิตกับความตายเป็นของคู่กัน ทันทีที่เราเกิดมาความตายก็รอเราอยู่ข้างหน้า แต่คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเหมือนกับลืมตาย ใช้เวลาที่มีอยู่เพลิดเพลินเที่ยวเล่นไปกับการหาความสุขทรัพย์สินชื่อเสียงเงินทอง งานการ ไม่มีที่สิ้นสุด จนไม่ทันคิดว่าวันหนึ่งจะต้องตาย หรือไม่ก็เพลินไปกับการคิดว่า จะทำมาหากินอย่างไร ที่จะหาเงินได้มากขึ้น ก็เลยปล่อยให้ชีวิตเคลื่อนเข้าสู่ความตายโดยไม่รู้ตัว  เราไม่ได้คิดถึงว่าเราจะต้องตาย  เมื่อความตายมาถึง มาเคาะประตู เช่นเราเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่หาย ก็ตื่นตกใจ  เวลาที่เหลืออยู่ก็ต้องตาย แต่พอรู้ว่าจะต้องตายก็ตื่นตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ไม่สามารถมีชีวิตที่เป็นสุขกับเวลาที่เหลืออยู่ได้  

§  หลายคน มีความสุข  เพลินกับความสุขจนลืมว่าจะต้องตาย   นี่คือภาวะสุดโต่งของคนในสมัยนี้นะคะ  เท่ากับเป็นการเสียโอกาสที่จะใช้ชีวิต

§  การอบรมเรื่องเผชิญความตายอย่างสงบนี้ เป็นเหมือนกับการให้เวลาตัวเอง ซ้อมรับกับความตาย เพราะความตายเป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต ซึ่งสอบได้ครั้งเดียว บททดสอบอื่นนั้น สามารถสอบได้หลายครั้งนะคะ  แม้สอบตกก็ยังสามารถสอบใหม่ได้อีก แต่บททดสอบที่ชื่อว่าความตายนั้น สามารถสอบได้ครั้งเดียว ไม่มีการสอบแก้ตัว  ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นบททดสอบที่ยากมาก และสามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว  เป็นบททดสอบที่เราแทบจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าเวลา สถานที่  หรือแม้กระทั่งร่างกายและจิตใจของตนเอง... การอบรมแต่ละครั้งอาจอาจจะไม่มากพอนะคะ  แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่เคยฝึกซ้อมเลย   

§  ท่านกล่าวไว้ว่า... เรามีเวลาที่จะไปเรียนคอมพิวเตอร์ เรียนกอลฟ์ แต่เราไม่เคยให้เวลากับการเรียนเรื่องเตรียมตัวตาย เลยหรือ...

 

 

          การอบรมเพื่อเผชิญความตายอย่างสงบ  ไม่เหมือนการอบรมที่เรารู้จักกันทั่วไป   ไม่เน้นการบรรยาย แต่เน้นกระบวนการแบบมีส่วนร่วม ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จากการทำกิจกรรมหลายอย่างที่ทุกคนได้มีส่วนร่วม ได้ลงมือปฏิบัติ ได้ผ่านประสบการณ์จริงและสถานการณ์จำลอง  แต่ละคนจะได้เรียนรู้วิธีการและรู้จักตนเองมากขึ้น ซึ่งการรู้จักตัวเองนั้นนับเป็นกุญแจหนึ่งที่นำพาเราไปสู่การตายอย่างสงบได้

               

            ในช่วงแรกของการอบรมนั้น เป็นการทบทวนความคิดความรู้สึกของตนเอง และความเข้าใจของคนในสังคมเกี่ยวกับความตาย ซึ่งก็ได้มุมมองที่น่าสนใจ ว่า

          คนเรากลัวตายเพราะไม่อยากพลัดพรากจากสิ่งที่มีอยู่ และไม่รู้ว่าจะไปเจออะไรหลังจากตายไปแล้ว 

            วัฒนธรรม  มีส่วนต่อความคิดความรู้สึกต่อเรื่องความตาย โดยหากวัฒนธรรมในบ้าน ยอมให้พูดเรื่องความตายอย่างเป็นปกติ อาจช่วยหล่อหลอมให้คนมีโอกาสยอมรับความตายได้มากกว่า และการพูดถึงเรื่องความตายบ่อยๆ นั้น  เป็นเหมือนการเตรียมตัวอย่างหนึ่ง  เป็นการเตือนสติตัวเรา และทำให้เราพร้อมตายอยู่เสมอ

 

            นอกจากนั้นเราก็ได้ความเเห็นดีๆจากวิทยากร คุณสุรีย์  ลี้มงคล ซึ่งท่านเป็นพยาบาลรับผิดชอบดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช นะคะ ท่านบอกว่า

 

 คนหลายคน จะกลัวกระบวนการตาย เพราะมีประสบการณ์ได้รับความเจ็บปวดทรมานจากการรักษา บางรายจะรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะถูกให้นอนตึกผู้ป่วยหนักซึ่งไม่อนุญาติให้ญาติอยู่ด้วย  กลัวตายคนเดียว

    ถ้าความตายมันเหมือนกับการปิดสวิตช์ไฟ หลายคนจะไม่กลัว อาจยอมรับได้ง่าย  แต่นี่ความตายมันมีกระบวนการของมัน เช่น อาจจะมีความเจ็บปวดทรมานก่อนตาย คนก็เลยกลัว ...

 

และท่านก็เสนอแนะว่า.....

 

ความจริงไม่มีใครรู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ควรรีบทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ผัดผ่อน หากยอมรับความตายได้ จะช่วยให้เราพร้อมรับมือกับความตายได้ดี และไม่ค้างคาใจหลังการสูญเสีย

 

และในมุมมองของพระอาจารย์ไพศาล วิศาโล ได้ให้ความเห็นว่า

 

ความตาย ถึงที่สุดแล้ว จะก่อให้เกิด

๑.                          การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก  ครอบครัว ทรัพย์สมบัติ  หรือแม้กระทั่งชีวิต ฯลฯ  มีหลายคนที่ไม่มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีครอบครัวให้ห่วง แต่เขาอาจจะห่วงชีวิต...

นอกจากกลัวการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักแล้ว ยังกลัว...

๒.                           การประสบต่อสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ...นั่นคือ    ความเจ็บปวดทรมาน การตายที่โดดเดี่ยว  ถ้าคิดว่าเราหลับตาแล้วตายไปเลย หลายคนคงไม่กลัวตาย แต่กระบวนการตายมีมากกว่านั้น เช่น ความเจ็บปวดทรมานก่อนตายที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์

 ........ยังมีเรื่องราวดีๆ ติดตามต่อตอนที่ 3 นะคะ.....

หมายเลขบันทึก: 246682เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2009 12:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 10:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ยินดีด้วยกับการได้เรียนรู้เรื่อง ที่ทุกคนต้องไปถึง แต่ยังไม่ได้คิดไว้ วัน เวลาผ่านไปเร็วมาก เราควรเตรียมตัวตายก่อนตาย น่าจะดีที่สุดและเป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ

เห็นด้วยค่ะ กับข้อมูลดีดี ที่บ่งบอกความตั้งใจ มุ่งมั่นในการทำงานการดูแลผู้ป่วยวาระสุดท้ายของชีวิต ไม่มีโอกาสเข้ารับฟัง แต่จากการบอกเล่า และ อ่านข้อความนี้แล้ว เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างระวัง มีการเตรียมความพร้อมสำหรับวันนั้นของชีวิตตลอดเวลา

ขอบคุณมากครับ ที่นำเรื่องดีๆมีสาระมาให้อ่าน ความตายที่แท้จิงแล้วจะคิดว่าน่ากลัวก้อได้ ไม่น่ากลัวก้อดีนะ ครับ เนี่ย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท