ทำงานดี ? ทำงัยดี ชีวีมีสุข ?


จะทำงานอย่างไร จะอยู่อย่างไร จะคิดอย่างไร เพื่อให้ชีวิตของเรามีความสุข ทั้งเรื่องการงาน การเงิน และความรัก

T(uesday) Talk  สำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทรวันอังคารที่ 24  กุมภาพันธ์ 2552          

ชีวิตนี้ช่างวุ่นวายเสียจริงหนอ    เฮ้อ....... เหนื่อยและเบื่อจริงๆ อยากหนีไปไกลๆ  หลายคนอาจจะเคยรู้สึกแบบนี้ในบางวัน และรู้สึกว่า โลกนี้ช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน งานก็ไม่อยากทำ มองอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด แม้แต่ พี่เคน ธีรเดช ที่สุดแสนปลื้ม ก็ไม่น่าปลื้มแล้ว นั่งมองหน้าพี่เคนวันนี้ ทำไมไม่หล่อเลย วัยรุ่นเซ็ง...                ประเด็นการสนทนาของเราในวันนี้ จึงว่าด้วยเรื่อง จะทำงานอย่างไร จะอยู่อย่างไร จะคิดอย่างไร เพื่อให้ชีวิตของเรามีความสุข ทั้งเรื่องการงาน การเงิน และความรัก (เหมือนดูดวงเลยนะเนี่ย) แต่ที่นี่ไม่ต้องจ่ายตังค์ค่ะก่อนเริ่มสนทนา พี่แอน ผู้ดำเนินรายการ ได้แนะนำหนังสือ น่าอ่าน น่าคิด ของท่าน ว. วชิรเมธี เรื่อง

7 มหัศจรรย์แห่งชีวิต  และได้สรุปเนื้อหาจากหนังสือไว้ 7 ประการ ได้แก่   

1. คิดดี  ชีวีก็มีสุข  

2. ปัญญาดี แก้ปัญหาด้วยปัญญา เปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา  

3.เป็นคนดี ชีวิตของคนดี เป็นชีวิตที่มีความสุข  

4. ปฏิสัมพันธ์ดี เลือกคบแต่กัลยาณมิตร ไม่คบคนพาล  

5. ทำงานดี จงเป็นสุขขณะทำงาน อย่าเป็นทุกข์ขณะทำงาน   

6. มองโลกในแง่ดี โลกเป็นสีอะไร อยู่ที่เรามองอย่างไร  

7. ครอบครัวดี สมาชิกในครอบครัวเป็นคนดี ชีวีก็มีสุข    

จากการสนทนายามบ่ายของพี่น้องชาวห้องสมุด ขอสรุปเนื้อหาสาระการทำงาน และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจากประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน ดังนี้ 

พี่บูรณ์  ชีวิตเธอช่างแฮปปี้ซะเหลือเกิน ไม่มีวันไหนที่บูรณ์ไม่สวย ไม่มีวันไหนที่บูรณ์ไม่หัวเราะสดใส เธอทำได้อย่างไร คำตอบก็คือ เพราะรวยค่ะ (ไม่ใช่... ล้อเล่น) จริงๆ แล้ว เธอเป็นคนอารมณ์ดี ชอบสนุก และชอบเต้นแอโรบิก เพราะช่วยให้หุ่นดี สุขภาพดี อาการปวดหัวที่เคยเป็นก็หายไป ความอวบอ้วนเพื่อนเก่าก็จากลา และที่สำคัญต้องดูแลเรื่องอาหารให้เหมาะกับวัยด้วย ปัจจุบันนี้ชีวิตของเธอมีความสุข สดใส น่าอิจฉาจริงๆ….ลืมตัวค่ะ เราไม่ควรอิจฉาคนอื่นนะคะ เพราะจิตใจเราจะร้อนรุ่ม และชีวิตจะร้อนรนค่ะ

พี่หนึ่ง ท่านมหาของเรา  วันนี้ได้นำหลักธรรมะมาเทศน์หลายกัณฑ์ สรุปความได้ก็คือ ให้คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ให้ความเข้าใจเพื่อนร่วมงาน และต้องเข้าใจในงานที่ทำ  อยู่แบบประหยัด อยู่แบบพอดี ถึงไม่รวยก็มีความสุขได้ และในหนึ่งวันเราได้กำไรชีวิตหรือยัง หมายถึงเราได้ทำดี คิดดี พูดดีแล้วหรือยัง กำไรคือความสุขใจ ไม่ใช่เงินทองนะคะ และหากมีอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจเรา  ก็จงคิดว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง.... จำไว้นะโยม นอกจากนี้ท่านมหาได้ให้ความรู้ใหม่เรื่อง การนิพพานชั่วคราวด้วย คือ การพยายามระงับอารมณ์หรือความคิดที่ไม่ดี ให้หายไปในขณะที่เกิดอาการเหล่านั้น                 

พี่เรียม (เรียมเหลือทนแล้วนั่น) พี่เรียมผู้ไม่เคยโกรธใคร ไม่เคยนินทาว่าร้ายผู้ใด หน้าเธอจะแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆ อยู่เสมอ เคล็ดลับความสุขก็คือ ขณะที่โกรธใครสักคน ให้พยายามนึกถึงความดีของเขาคนนั้นไว้ในใจ เพื่อลบล้างความโมโหโกรธาในดวงจิต... จากความคิดเช่นนี้ เรียมจึงไม่เคยเหลือทนกับใครเลย และเป็นที่รักของเพื่อนๆ ทุกคน  ส่วนชีวิตครอบครัวเรียมใช้สุภาษิตในการครองเรือนคือ รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ  หมายถึง ถ้าไม่อยากทะเลาะกับสามี หรือภรรยา ก็จงนิ่งเสีย ตำลึงทอง อย่าต่อปากต่อคำ อย่าเถียง ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเดือดปุดๆ   

 ป้าปุก ผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเป็นที่รักของเพื่อนๆ  ถือคติว่า ต้องทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด สำหรับการใช้ชีวิตที่บ้าน ป้าปุกบอกว่า อย่าขึ้น เวลาอีกคนหนึ่งกำลังขึ้น ฟังแล้วงง ๆ หรือเปล่าคะ ขอสาธยายคำแหลงใต้ก็คือ อย่าต่อปากต่อคำ อย่าเถียง ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังโกรธ (เช่นเดียวกับเรียมค่ะ) และต้องปฏิบัติต่อญาติสามี หรือญาติภรรยาเช่นเดียวกับญาติของตนเอง    รู้สึกว่ายากนะ เรื่องนี้               

พี่ชูศรี  ก็มีคำคมมาฝากค่ะ (ยืมมาจากคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ) คือ สุขแท้มีแต่ในงาน ความหมายก็คือ ให้มีความรักในงานที่ทำ เอาใจใส่งาน ถ้าไม่เข้าใจก็ให้ศึกษาจนเกิดปัญญา เมื่อทำงานจนประสบความสำเร็จ จะก่อให้เกิดความสุขใจที่แท้จริง และ อย่าโง่กว่าเดิมในทุกๆ ปีที่ผ่านไป เป็นพรปีใหม่จากสวนโมกข์เช่นกัน คือให้หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตามกาลเวลาที่ผ่านไป ทั้งเรื่องการงาน และการเรียนรู้ชีวิต               

พี่โส  ผู้มีมธุรสวาจาในการพูดคุยกับทุกคน ให้ข้อคิดว่า ปากกับใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการทำให้ผู้อื่นและตนเองมีความสุข  จงพูดประโยคที่ผู้อื่นฟังแล้วมีความสุข และควรมีใจที่โอบอ้อมอารี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน               

พี่เบ็ญ  หัวหน้าฝ่ายบริการ บอกว่า ให้ รู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ปฏิบัติตามบทบาทและหน้าที่ให้ดีที่สุด  และควรให้เกียรติผู้อื่น ตำหนิในที่ลับ ชมเชยในที่แจ้ง  พี่เบ็ญ....ช่างเป็นหัวหน้าที่ดีจริงๆ ขอบอก               

น้องขวัญ  น้องใหม่วัยเบญจเพส  ผู้มีรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอ มีคติประจำใจคือ จงยิ้มรับกับทุกปัญหา และจงมอบรอยยิ้มให้กับทุกคนเมื่อมาถึงที่ทำงานในตอนเช้า ให้ความจริงใจกับเพื่อนร่วมงาน  และจงพูดแต่ความจริง เพราะคนพูดความจริง จะพูดกี่ครั้งก็เหมือนกัน นั่นก็คือความจริง โอ้....ช่างคม บาดลึกจริงๆ                

พี่สร้อย  แม่ชีแห่งเขาคิชกูฎ  ผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า  มีธรรมะ ดีๆ มาเตือนใจพวกเรา (ซึ่งยังหนาด้วยกิเลสนานัปการ)  ธรรมะที่ทุกคนควรปฏิบัติในการอยู่ร่วมกัน คือ พรหมวิหาร 4  ซึ่งพรหมวิหาร 4 เป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่ 1. เมตตา (ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข) 2.  กรุณา (ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์) 3. มุทิตา (ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี) 4. อุเบกขา (การรู้จักวางเฉย) และปิดท้ายด้วยสัจธรรมที่ว่า  ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจ....  สาธุ               

พี่เอียด  ทำทุกวันให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน และให้รู้สึกว่า ที่ทำงานเป็นบ้านของเรา เพื่อนร่วมงานเป็นคนในครอบครัวของเรา เมื่อมีปัญหา จงให้อภัย อย่าผูกใจเจ็บต่อกัน  พวกเราจะทำได้หรือเปล่าหนอ ?               

อุ๊  คนพูดน้อย ต่อยหนัก  คิดว่าทำทุกหน้าที่และทุกบทบาทของเราให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบทบาทภรรยา แม่  และเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะบทบาทภรรยาไม่ควรบกพร่อง จริงมั๊ยอุ๊                 

ป้าตาล  สาววัยทอง ชีวิตผ่องใส  แนะนำว่า   รับผิดชอบในหน้าที่การงาน ชีวิตเบิกบานด้วยการท่องเที่ยวเงินทองอย่าเก็บไว้อย่างเดียว ต่อไปจะแก่และเหี่ยว....ไร้เรี่ยวแรงเดินทาง  จึงไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า ทำไมคุณป้าเที่ยวไม่หยุด ทั้งแบบธรรมชาติสดใส และแบบมิดไนท์ค้างคาว    เหนื่อยมั้ยคะ คุณป้า?               

พี่กบ  ให้ข้อคิดว่า งานเป็นชีวิตของเรา เราอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเรามีงานทำ งานเลี้ยงชีวิตของเรา ฉะนั้น จงทำงานด้วยชีวิต ทุ่มเทให้เต็มกำลัง และไม่หวังสิ่งตอบแทน (หรือหวังสิ่งตอบแทนดีกว่า ก็คิดกันเอาเองนะคะ)

เป็นไงกันบ้างคะ ข้อคิดดีๆ ของชาวห้องสมุด ถ้าทำได้ครบทุกข้อ รับรองได้เลยว่า ชีวิตจะเป็นสุขและสันติ ไม่มีความขัดแย้งในที่ทำงาน ไม่มีความสับสนในจิตใจ และไม่มีความวุ่นวายในครอบครัว

สุดท้ายนี้ขอปิดท้ายด้วยคำคมของท่าน ว.วชิรเมธี ที่ว่า  ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่ชีวิตมนุษย์หอมได้ทุกคน  (ด้วยการเป็นคนดี จะทำให้ชีวีมีสุข) ขอให้ทุกท่านทำงานด้วยความสุข และสนุกในการทำความดีนะคะ  สวัสดีค่ะ

จารุวรรณ ....ผู้บันทึก 

หมายเลขบันทึก: 246496เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2009 14:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ suda ข้อมูลดีมาก ผมมีนิสัยแบบพี่เรียม ( คือไม่โกรธ ไม่นินทาว่าใคร คิดแต่ว่า อีกไม่เกิน๑๐๐ ปีทุกคนก็จากโลกนี้ไปหมดแล้ว มีบางคนถามว่าเป็นทุกข์แบบสุดๆๆ ผมตอบไม่เคย เพราะทุกข์ไปทำไม ทุกข์แล้วได้อะไร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท