วิธีบริหารนาย บทเรียนก่อนจะเป็นผู้บริหาร


วันนี้หลังจากไปเลือก ส.ว.แล้วดิฉันได้ฟังวิทยุจากอาจารย์ท่านหนึ่งคุยถึงเรื่องว่าเราจะทำอย่างไรถ้าเจอนายที่ (เราคิดว่า)ไม่มีวิสัยทัศน์   ทำงานแบบผู้จัดการแต่ชอบมาดูรายระเอียดเหมือนเสมียน    ชอบยุ่งทุกเรื่อง    หรือบริหารไม่ถูกใจเรา     คำถามคือเราจะทำอย่างไร           ดิฉันเคยอ่านของอาจารย์ท่านหนึ่งเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว    และจากการจำๆมาเลยมาเล่าให้ฟังค่ะ

1   เข้าใจนาย    เราคงต้องเข้าใจเจ้านายแต่ละคนว่าท่านเป็นคนอย่างไร   ชอบและมีวิธีทำงานอย่างไร    ทั้งนี้เพื่อให้มีโอกาศทำงานร่วมกัน     ถ้าคุณหนีไปไกลๆจะมีโอกาศทำงานได้อย่างไร

2   สร้างผลงานของคุณเพราะคุณสามารถทำงานได้ถึงแม้เจ้านายที่ทำงานแบบไม่มีวิสัยทัศน์ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะคิดอะไรดีๆไม่ได้    ผลงานที่คุณสร้างขึ้นอาจจะเป็นของเจ้านายคุณก็ได้ (ถ้าเจอเจ้านายที่ชอบมีผลงานเยอะๆ)  

3   ห้ามแสดงความเห็นที่ขัดแย้งเจ้านายต่อหน้าผู้อื่นเพราะเจ้านายบางคนอาจจะไม่ชอบให้ใครเก่งเกินตนเอง

4   หาทางบอกเจ้านายเช่นหาหนังสือให้อ่านโดยวิธีสื่อสารที่ไม่ทำให้รู้สึกว่า    นายนี่ช่างโง่จริงๆนะ   เอาหนังสือไปอ่านซะ (ทำอย่างไรน่าจะรู้นะคะ)

5   พัฒนาตนเองและเสนอไอเดียที่เจ้านายรู้สึกเหมือนว่านายคิดเอง

6   เรื่องที่เป็นปัญหาพยายามแก้ปัญหาให้เสร็จแล้วค่อยรายงานเพราะโดยปกตินายก็มีเรื่องมากพอแล้ว   

ใครนึกออกกรุณาเพิ่มเติมได้ค่ะ

ส่วนเรื่องบริหารลูกน้องดิฉันจะไม่เอ่ยถึงเพราะผลงานของเราส่วนใหญ่ลูกน้องต้องเป็นผู้ทำ          บริหารไม่เป็นก็ไม่มีผลงานค่ะ

ทั้งหมดนี้คงทำได้บ้างไม่ได้บ้าง     จริงบ้างไม่จริงบ้าง     อ่านแล้วใครอยากเป็นผู้บริหารลองพิจารณาดูนะคะ           เผื่อจะเป็นการคิดนอกกรอบของเรา     เวลาทำงานจะสุขขึ้นเยอะเลยค่ะ

หมายเลขบันทึก: 24560เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2006 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:10 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
ชอบมาก ขอบคุณผ.อ.ที่กรุณานำข้อความที่เป็นประโยชน์มาให้ได้ฉุกคิดบ้างก่อนที่จะหัวเสียไปตลอดกาล

เป็นความรู้ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปปฏิบัติ (ถึงแม้บางอย่างอาจจะปฏิบัติได้ยาก) และเป็นสิ่งเตือนใจในภาวะทุกข์จากการปฏิบัติงานได้อย่างดีมากๆ ค่ะ (ขอบพระคุณมากค่ะ)

อ่านแล้วเข้าใจเจ้านายมากขึ้นค่ะ สบายใจขึ้นด้วย ขอบคุณนะคะ

เพิ่มเติมให้ท่าน ผอ.นะคะ

ผู้นำและผู้บริหารงานควรหลีกจากทางพินาศ11 ประการนี้ฃะไม่แล้วจะพบกับความพินาศโดยมหันต์
1 - อวดฉลาด ทำตัวเป็นรู้ดีทุกอย่างบางครั้งตัวเองไม่รู้จริงก็แสดงเป็นผู้รู้ทุกอย่าง
2 - เจ้าอารมณ์ ชอบดุด่าลูกน้องต่อหน้าคนอื่น เพื่อแสดงอำนาจถือว่าตัวเองเป็นเจ้านายไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร
3 - เห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ตนเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
4 -เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ตั้งอยู่ในความยุติธรรมใครเป็นญาติพี่น้องตระ*ลเดียวกันก็สนับสนุน ถึงผิดก็ช่วยให้ถูกผลที่สุดก็ได้เพื่อนร่วมงานไม่ดี
5 - ชอบชี้นิ้ว ชอบออกคำสั่งแทนที่จะมอบหมายงานในลักษณะแนะนำ การออกคำสั่งตรงๆจะทำให้ผู้รับคำสั่งไม่ทำงานด้วยความเต็มใจแต่ทำด้วยความฝืนใจจะไม่อยากทำงาน
6 - ไม่รับผิด- รับแต่ชอบ ถ้าลูกน้องได้รับคำชมเชยมาก็แสดงออกหน้าออกตา ว่าเป็นลูกน้องของตนแต่ถ้าทำผิดจะไม่รับผิดชอบมีแต่โยนความผิดให้ลูกน้อง บางครั้งยังประณามอีก
7 - หูเบา เป็นคนหาหลักการแน่นอนไม่ได้ เชื่อโดยปราศจากเหตุผล ชอบฟังความข้างเดียว
8 - ไม่มอบหมายงาน ไม่รู้จักวิธีแบ่งงานและมอบหมายความรับผิดชอบให้เพื่อนร่วมงานคือไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวเอง ทำงานพอให้ผ่านไปวันๆเท่านั้น
9 - เผด็จการ ไม่ฟังความคิดเห็นใครเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าคัดค้านไม่เห็นด้วยจะไม่พอใจทันที่
10 -อาฆาตจองเวร ใครที่เสียงแข็งหรือขัดผลประโยชน์ของตัวเองทั้งที่เป็นส่วนรวมและส่วนตัวได้จังหวะเมื่อไรก็จะกลั่นแกล้งตอบทันที่ เพื่อแสดงอำนาจของตน ให้กลัวในเมื่อมีโอกาส
11 - อิจฉาริษยา พยายามกลีดกันและกลั่นแกล้งลูกน้องที่ทำดีในสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้และมันสมองไม่ถึง พยายามใส่ร้ายลูกน้องเพื่อให้คนอื่นเชื่อเสมอ
ถ้าคุณเป็นผู้นำจงพยายามหลีก 11 ข้อเหล่านี้ให้ได้ แล้ว ลูกน้องก็จะรักคุณเอง

  ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็พยายามปลงและหมั่นทำบุญและอธิษฐานขอให้ชาติหน้าอย่าได้พบกันอีก

ถูกครับพี่ ดีครับนาย ใช่ครับผม

โจทย์ของบุญ(กุศล)-อกุศล อดทน มีสติ ให้อภัยได้ เป็นบุญที่สุด 

อ่านข้อคิดเห็นของท่าน ผอ. แล้วนึกถึงทำวิกฤติให้เป็นโอกาสถ้ามีหัวหน้าที่ไม่อยู่ในSpec ของเราเราจะใช้วิทยายุทธในการอยู่ร่วมกัน(ทำงาน)กับหัวหน้าอย่างไร ก็คงต้องใช้มนต์คาถา "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง" และ "พูดไปเสียสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง" สุดท้ายยึดหลักธรรม เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก

การมีเจ้านายที่ไม่อยู่ในคุณธรรม ถือเป็นโอกาสในการพัฒนาจิตให้เข็มแข็ง
สาธุ สาธุ มือถือสาก ปากถือศิล

การเป็นเจ้านายที่ใช้ควมคิดตัวเองเป็นใหญ่  ไม่ฟังลูกน้อง จะไม่ได้ใจลูกน้องเลย ถ้าเป็นผู้บริหารแล้วไม่มีความยุติธรรม เอาแต่หลักการของกู คือ ความยุติธรรมอยู่ที่ความพอใจ ก็น่าสงสารลูกน้องจริงๆ ที่มีเจ้านายแบบนี้เป็นกรรมที่ต้องอดทน เป็นยุคมืดที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ณ.กาลต่อไปในภายภาคหน้า ผู้เป็นใหญ่ไม่ทรงความยุติธรรม ไม่ตั้งอยู่ความถูกต้อง เห็นผิดเป็นถูก เมื่อนั้นสังคมจะเกิดความวุ่นวายเดือดร้อน เหมือนเช่นอย่างทุกวันนี้ เรากำลังเผชิญอยู่แล้วในสังคมบำราศฯ ก็ขอให้ทุกคนอดทน ไม่มีใครอยู่คำฟ้า มันเป็นอนิจัง เดียวก็เสื่อมสลายไป ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นเพียงหัวโขนที่สวมใส่ อย่าไปหลุ่มหลงนักเลย อยู่กันอีกไม่กี่ปีเดียวก็ตายจากกันแล้ว ตอนมีชีวิตอยู่เราน่าจะให้สิ่งดีๆ แก่คนรอบข้าง ให้เขาคิดถึงเราบ้าง  ไม่ใช่ให้เขาสาปแช่ง สำหรับคนที่เป็นหัวหน้าคนนั้นน่าจะตระหนักให้มากๆ หัวหน้าที่ที่ดีนั้นต้องเสียสละ ให้อภัย มีเมตตา หรือถ้าใช้หลักพรหมวิหาร4 ได้ยิ่งดี ไม่ต้องทุกข้อก็ได้ ขอให้มีเมตตาธรรมในใจก็พอแล้ว

เมื่อก่อนดิฉันเคยรู้สึกเกลียดชังคนที่ให้ร้ายเรา ทำให้เราเสียใจ แต่ต่อมาไม่นานหลังความเสียใจ ดิฉันกลับนึกขอบคุณและให้อภัยกับความไม่น่าพึงพอใจทั้งหลาย เพราะดิฉันพบทางแห่งความสุขจากการรู้จักการให้อภัย ไม่ร้ายตอบ เพราะถ้าเรารู้ว่านั่นคือความเลวความร้าย เราต้องสงสารคนที่ทำเช่นนั้นเพราะเขาเหล่านั้นย่อมตกไปในที่มืด ความโลภทำให้คนตายแล้วไปเกิดเป็นเปรต ใช้กรรมจากเปรตเสร็จก็ยังต้องไปเป็นยาจก วณิพกไร้ที่อยู่ที่กิน จงอย่าตอบโต้ความชั่วทั้งหลายด้วยความชั่วเลยนะ อย่ามัวเสียใจให้ใจมันเสีย คนที่เขาได้เป็นหัวหน้าก็คือคนธรรมดา ที่ยังมีกิเลส ไม่ใช่ผู้ที่หลุดพ้นทุกข์เวทนาทั้งปวง ไม่ว่าปวดท้องอึ ปวดฉี่ เดินดิน เช่นเดียวกับเรานะคะ ทำได้ดังนี้แล้วทุกท่านจะเบาสบายตัวจริงๆค่ะ

ตกลงบำราศเปรตเยอะหรือเปล่านะ
ที่เยอะนั้นไม่ใช่เปรต แต่คือคนที่มีความรักและผูกพันธ์ในองค์กร คนที่มีขันติ(ความอดทน) ต่างหาก....ขอบอก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท