การจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา

ข้อ 1.  สารสนเทศที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาที่ประกอบด้วย

 ข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งของระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์การจัดการฐานข้อมูลจึงเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการบริหารองค์การให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยีข่าวสาร การจัดการและบริหารองค์การให้ประสบความสำเร็จนั้น การตัดสินใจที่ถูกต้อง รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ ถือเป็นหัวใจของการดำเนินการและบริหารองค์การในยุคปัจจุบัน ดังนั้นการจัดการฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง รวดเร็ว จะช่วยให้องค์การอยู่รอดได้และเกิดข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์

  การจัดเก็บและการบริหารจัดการข้อมูลของสถานศึกษา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและการออกแบบการจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากผู้บริหารเป็นผู้ที่ต้องใช้ข้อมูลจากทุกหน่วยงานในการตัดสินใจในการดำเนินงานและบริหารจัดการองค์การ

 

 

1).  ระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษา  ประกอบด้วยข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับภาพรวมของสถานศึกษา  สภาพเศรษฐกิจการเมือง  สังคม  ความต้องการของชุมชน  สภาพการบริหารและการจัดการตามโครงสร้างและภารกิจ  เช่น  ปฏิทินปฏิบัติงานของสถานศึกษา  กิจกรรมวันของสถานศึกษา  ระบบเอกสารที่จำเป็นในการศึกษา  เป็นต้น  เช่น  ที่ตั้ง  การคมนาคม  จำนวนพื้นที่สถานภาพของการศึกษา  ระดับการศึกษาที่เปิดสอน  จำนวนอาคารเรียน  จำนวนห้องเรียน  วัสดุ  ครุภัณฑ์  แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน  ( ห้องสมุด  ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์  ห้องปฏิบัติการศิลปะ  ห้องปฏิบัติการคหกรรม  พิพิธภัณฑ์โรงเรียน  สนามกีฬา )วิสัยทัศน์และแผนพัฒนาโรงเรียน  ฯลฯ  ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมลในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน  เพราะทำให้ทราบข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียนทั้งหมด  ซึ่งมีความจำเป็นมากในอันที่จะนำมาพัฒนาได้ตรงตามศักยภาพของโรงเรียน

 

           2).  ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับผู้เรียน

                ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับผู้เรียน  จะมีทะเบียนผู้เรียน  มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของผู้เรียนทุกคน  เช่น  ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน  ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียน  ความสนใจ  ความถนัด  ความประพฤติ        ลักษณะนิสัย  ฐานะทางเศรษฐกิจ  สภาพครอบครัว  ปัญหาด้านสุขภาพ  ปัญหาครอบครัว  รายได้ของผู้ปกครอง  สถานที่อยู่อาศัย  ฯลฯ 

 

โรงเรียนต้องมีการจัดทำขึ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินตนเอง  เพื่อรองรับการประเมินจากต้นสังกัด  โรงเรียนก็สามารถให้ข้อมูลจากสารสนเทศที่แสดงผลสัมฤทธิ์  ด้านสุขภาพ  ( น้ำหนักส่วนสูง )  ให้เห็นทุกตัวในฐานข้อมูล  เปรียบเทียบข้อมูล  นำผลไปแก้ปัญหาตลอดจน  โดยการเก็บข้อมูลเพื่อส่งผลกับการประเมินคุณภาพของผู้เรียน  ตามตัวชี้วัดคุณภาพ  บ่งบอกความก้าวหน้าของผู้เรียนหรือนำผลไปแก้ปัญหา

 

         

3).  ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ

                ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ  จะมีข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับหลักสูตร  การเรียนการสอน  แผนการเรียนการสอน  คู่มือ  สิ่งการเรียนรู้  ตารางสอน  ผลการเรียนของผู้เรียนทุกรายวิชา  การวัดและประเมินผล  การพัฒนากิจกรรมแนะแนว  การจักกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  และบทเรียนสำเร็จรูป  สามารถนำมาใช้ประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                ผู้บริหารสามารถนำสารสนเทศนี้  มาใช้พัฒนาการบริหารวิชาการให้บรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ  และยังเอื้ออำนวยความสะดวก  เช่น  การลงทะเบียนเรียน  โดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องไปลงทะเบียนที่สถานศึกษา  สามารถไปจ่ายเงินที่ธนาคารได้

 

                4).  ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ 

                ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ  เป็นระบบสารสนเทศที่จะสามารถบิหารได้ตั้งแต่งานธุรการ  งานการเงิน  งานบุคลากร  งานอาคารสถานที่  งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  งานพัฒนาแหล่งเรียนรู้  หรือทั้งหมดสารสนเทศประเภทนี้ต้องมีการประมวลผลรวม  มีการเปรียบเทียบข้อมูลอย่างถูกต้องและทันสมัยจึงมีความหมายต่อการจัดการและการบริหารงานอย่างเต็มประสิทธิภาพข้อมูลสารสนเทศมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการจัดการในสถานศึกษา  ซึ่งในการบริหารจัดการของแต่ละด้านหรือฝ่ายงานย่อมต้องการดำเนินการจัดระบบการบริหารและสารสนเทศให้เป็นระบบ  เป็นปัจจุบัน  ถูกต้อง  และต้องดำเนินการให้ครอบคลุมทุกบริบททุกด้านเพื่อเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา            

 

         

               

[กอก้าน>>>ก้านกอ]

สวัสดีค่ะ พี่สุภาภรณ์

อิอิ บันทึกนี้ทบทวนความรู้ใช่มั้ยค่ะ

                              ลองเล่นดูน่ะค่ะ

                   ได้ผลยังไงก็แจ้งให้ทราบหน่อย ^ ^

                       ขอให้มีความสุข กับทุกๆ วันค่ะ