ความคืบหน้าเกี่ยวกับ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
สืบเนื่องจากการที่ พ.ร.บ. ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2551 เป็นต้นมา ทำให้ต้องมีการแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ใหม่ดังกล่าว ซึ่งการจัดทำบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเครื่องแบบข้าราชการก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ ให้สอดคล้องด้วยเช่นกัน จึงขอนำผลการประชุมร่วมระหว่างผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการระบุตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญในบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อวันที่12 มกราคม 2552 ณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญพอสรุปได้มาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
การระบุตำแหน่งและระดับตำแหน่งในบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ตำแหน่งประเภทบริหาร ให้ระบุเฉพาะชื่อตำแหน่ง
ในการบริหาร เช่น ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี รองอธิบดี โดยไม่ต้องระบุกระทรวง หรือ กรมต่อท้าย
ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ให้ระบุ เช่น ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการกอง โดยไม่ต้องระบุชื่อสำนัก หรือชื่อกอง/ตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค ที่มีทั้งระดับ 8 และระดับ 9 เดิม ให้ระบุเฉพาะชื่อตำแหน่งในการบริหาร เช่น คลังจังหวัด เท่านั้น โดยไม่ต้องระบุจังหวัดและระดับ ว่าเป็นอำนวยการระดับต้น หรือระดับสูง
แต่เนื่องจากขณะนี้สำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่าง การดำเนินการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องแบบข้าราชการ และยังไม่ประกาศใช้บังคับ จึงกำหนดให้ส่วนราชการจัดทำบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับแต่กฎหมายนี้ประกาศและมีผลบังคับใช้ ซึ่งคงต้องรอกฎหมายฉบับนี้ไปก่อน
ตำแหน่งประเภทวิชาการและประเภททั่วไป ให้ระบุชื่อตำแหน่งในสายงานและระดับตำแหน่งติดกัน และ “ไม่ต้องใส่คำว่า ระดับ ลงไป” เช่น นิติกรปฏิบัติการ นิติกรชำนาญการ นิติกรชำนาญการพิเศษ หรือเจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน เป็นต้น
แต่เนื่องจากขณะนี้สำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่าง การดำเนินการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องแบบข้าราชการ และยังไม่ประกาศใช้บังคับ จึงกำหนดให้ส่วนราชการจัดทำบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับแต่กฎหมายนี้ประกาศและมีผลบังคับใช้ ซึ่งคงต้องรอกฎหมายฉบับนี้ไปก่อน
ที่มา :จุลสารกรมบัญชีกลางปีที่ 3 ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม 2552
ไม่มีความเห็น