สวัสดีครับ หายหน้าไป(ตามเคย) หลายวัน
รอบนี้ไม่เหมือนเคยครับ คือ ไปนอนโรงพยาบาลเสียสิบกว่าวันครับ วันนี้เลยขอนอกเรื่อง เอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าให้ฟังนะครับ เป็นการเล่าสู่กันฟัง
วันศุกร์ที่ 6 ระิหว่างที่กำลังจัดเตรียมข้าวของ จะเตรียมไปดูงาน Lean management ที่สิงคโปร์ ได้ยินแฟนบ่นว่า มีรังนกเน่าๆ (ลูกนกตายยกรัง) อยู่ตรงชายคาบ้านชั้นสองติดห้องนอน ก็เลยนึกว่าน่าจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
ว่าแล้วก็ไปเอาบันไดพับอลูมิเนียม มากางพาดไปถึงชั้นสอง แล้วก็ปีนขึ้นไป ซึ่งปกติก็เป็นเรื่องธรรมดาของผมที่จะปีนป่ายเป็นประจำอยู่แล้ว ไอ้ความรู้สึกที่ว่าเป็นธรรมดานี่แหละที่ไม่ธรรมดา มันก่อให้เกิดความประมาทอย่างยิ่งเลยครับ
หลังจากเก็บกวาดได้สักครึ่งชั่วโมง ก็ตัดสินใจลงมาพักสักครู่ ไม่ได้คิดเลยว่าการจะลงมาพักสักครู่จะทำให้ต้องพักยาวหลายเดือน
ปีนลงมาได้ครึ่งทางสูงจากพื้นในราวเกือบสามเมตร ก็ได้ยินเสียงดัง เป๊าะ แวบเดียวของความคิดในระหว่างที่บันไดกำลังพับตัวเองลงมา เมื่อเหล็กยึดบันไดทั้งสองข้างหลุดจากขอเกี่ยวพร้อมๆกัน อย่างไม่น่าเป็นไปได้ แวบเดียวที่คิดในใจว่า แย่แล้วเจ็บตัวแน่ๆ
จำได้ว่าเมื่อครั้งซื้อบันไดนี้มาใหม่ๆ เวลาจะใช้จะตรวจดู และระมัดระวังเวลาปีนป่ายอยู่เสมอ ผ่านมาห้าปีความเคยชิน ทำให้ไม่ตระหนักอีกเลยว่า ขอเกี่ยวสองอันที่ยึดไม่ให้บันไดหักพับเข้าหากัน มันเป็นตัวค้ำชูชีวิตที่กำลังเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา และไม่ควรวางใจมันเลยจริงๆ
บทเรียนแรกที่จะต้องจำไปแสนนาน คือ อะไรที่เราทำอยู่ทุกวัน ไม่เคยมีปัญหา ไม่ได้แปลว่าจะไม่เกิดปัญหา ยิ่งคิดว่ามันแสนจะธรรมดา ทำอยู่ทุกวี่ทุกวัน ก็ยิ่งทำให้เราห่างไกลออกจากความตระหนักและระมัดระวัง
(ยังมีต่อครับ ขอนอนพักสักเดี๋ยวนะครับ)
สวัสดีค่ะ อาจารย์
ความเสี่ยงเกิดได้ทุกเวลา ค่ะ เป็นตัวอย่างที่ดีมากค่ะ อิอิ รักาตัวให้หายไวๆๆนะคะ สู้ๆๆๆค่ะ