มีงานวิจัยของเพื่อนครูที่ผมช่วยดูแลและให้คำแนะนำ มาฝาก


วิจัยในชั้นเรียน วิชาดนตรีสากล

ชื่อเรื่อง                                  รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากล

                                         ด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2

ผู้ศึกษา                                  นายวสันต์ชัย   จาติกานนท์

ครู  วิทยฐานะชำนาญการ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

โรงเรียนวังน้อย(พนมยงค์วิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่พระนครศรีอยุธยา เขต 1          

ปีการศึกษา                           2551

บทคัดย่อ

 

          การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2

โรงเรียนวังน้อย(พนมยงค์วิทยา) ให้ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์  80/80    2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต   กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่   2   โรงเรียนวังน้อย(พนมยงค์วิทยา)  ภาคเรียนที่  1  ปีการศึกษา  2550  ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง    จำนวน  80  คน   เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย  แบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต   แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต   แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต    วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ( )                       ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)   การทดสอบค่าทีสำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test              for dependent) ผลการศึกษา  พบว่า 

1.  การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ตมีประสิทธิภาพ   82.96/80.44  สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2.  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต  สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.  นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการเป่ารีคอร์เดอร์โดยใช้โน้ตสากลด้วยวิธีการผสมผสานการอ่านโน้ตกับการร้องโน้ต อยู่ในระดับมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  โดยมีค่าเฉลี่ย ( )  เท่ากับ 4.15 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.43  เมื่อเทียบกับเกณฑ์

หมายเลขบันทึก: 242644เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2009 23:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

เป็นงานที่น่าสนใจมากเลยครับ

ไม่ทราบว่าจะติดต่อกับอาจารย์ได้อย่างไร

อยากขอดูเป็นตัวอย่าง กำลังจะทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน

แต่ผมสอนอยู่ชั้น ม.3

ช่วยติดต่อกลับด้วยนะครับทางอีเมลล์

ขอบคุณมากครับ

ยอดเยี่ยม น่าสนใจ น่านำไปใช้ในการสอน

  • ดีค่ะ
  • ชื่นชม
  • เป็นกำลังใจ

สวัสดีค่ะ ดิฉันน้องสาวของอาจารย์วสันต์ชัยค่ะ

รบกวนฝากถึงอาจารย์วสันต์ชัยว่า งานวิจัยหัวข้อการวิจัยน่าสนใจค่ะ

แต่รบกวนขอรายละเอียดเพิ่มเติมอีกค่ะ เพราะจะนำ

ลงเผยแพร่ที่เวปบอร์ด ของดิฉันด้วยค่ะที่

www.abhakara.com/webboard/index.php

ขอบพระคุณค่ะ

งานวิจัยของอาจารย์ ให้ความรู้ดีนะคะ และน่าสนใจมาก ควรนำมาเผยแพร่ให้มากๆค่ะ

น่าสนใจมากค่ะ นักเรียนจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเรียนมากยิ่งขึ้นนะคะ

ดนตรีเพื่อพัฒนาสมองค่ะ

เป็นการเรียนการสอนที่จะทำให้นักเรียนหันมาสนใจการเรียนมากขึ้นค่ะ เพราะไม่น่าเบื่อน่านำไปสอนนักเรียนยุคปัจจุบันค่ะ เป็นกำลังใจให้งานวิจัยชิ้นนี้สำเร็จนะคะ เด็กจะได้รับประโยชน์ในด้านการเรียนรู้ค่ะ

งานวิจัยด้านการเรียนรู้เรื่องของการฝึกดนตรีของนักเรียนของอาจารย์น่าสนใจดี

อยากให้นำเสนอเป็นการเรียนการสอนในบทเรียนสำหรับเด็กเพื่อพัฒนาฝีมือด้านการดนตรี

น่าสนใจมากค่ะ อยากนำไปสอนให้เด็กได้ฝึกดนตรีอย่างมีความสุข จะติดต่ออาจารย์ได้

อย่างไรค่ะ รบกวนอาจารย์ติดต่อทางเมลดิฉันได้ค่ะ

งานวิจัยของอาจารย์น่าสนใจมาก เป็นความรู้ดีครับ อยากให้เผยแพร่เยอะๆ

งานวิจัยดีค่ะ ทำให้การเรียนการสอนพัฒนาไปในแนวทางที่ดี เด็กก็เรียนเข้าใจมากขึ้น

ดีค่ะ น่าสนใจ เอาใจช่วยอาจารย์นะคะ เพราะเด็กจะได้เรียนรู้เรื่องและสนุกกับการเรียนการสอน

ผลงานวิจัยน่าสนใจแต่ขอให้ทำรายละเอียดมากกว่านี้ อยากทราบข้อมูลเพิ่มคร้าบอาจารย์

เห็นดีด้วยกับงานวิจัยการเรียนการสอนของอาจารย์ค่ะ เป็นประโยชน์สำหรับเด็กมากค่ะ

มีข้อมูลมากกว่านี้ไหมค่ะ

รายละเอียดน้อยไปหน่อยนะครับอาจารย์ แต่ข้อมูลน่าสนใจมากเพื่อเด็กไทยสู้สู้นะครับอาจารย์

ผมหวังว่าเด็กคงสนุกกับการเรียนมากขึ้นนะครับอาจารย์

ถ้างานวิจัยมีรูปภาพประกอบด้วยน่าจะมีความน่าสนใจมากขึ้นนะคะ

จะได้ไม่น่าเบื่อในการอ่านค่ะ

พัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก อยู่ที่อาจารย์พัฒนาการสอนนะคร้าบ

ดีครับ เด็กฉลาด ชาติเจริญ

ดีค่ะอาจารย์

เป็นข้อมูลที่ดี

แต่รายละเอียดน้อยไปหน่อย

งานวิจัยการเรียนการสอนของอาจารย์ดีนะคะ ดิฉันเห็นด้วย

ที่การเรียนการสอนต้องทำให้เด็กที่เรียนต้องสนุกที่จะเรียนและมี

ความสุขที่จะศึกษาค้นคว้าต่อไป

ดีครับ สามารถนำทักษะฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ น่าสนใจ

งานวิจัยดีมากค่ะ ทำให้เด็กมีทักษะในการเรียนและนำไปใช้ในการเรียนรู้วิชาอื่นๆได้อีกด้วยค่ะ

ได้ความรู้ดีมาก เป็นประโยชน์ดีจริงๆค่ะ

น่าสนใจ ดีใจค่ะที่มีผลงานวิจัยแบบนี้ น้องๆนักเรียนจะนำทักษะไปปฎิบัติได้ค่ะ

ดีคับ เด็กๆได้นำไปเป็นเป็นบทเรียนนอกห้องได้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาอื่นได้อีก มีประโยชน์จริงๆคับ เอาใจช่วยนะคับอาจารย์

ดีครับ....สามารถพัฒนาเด็กนักเรียนได้ดี

ทองจันทร์ บุญชมภู

ผลงานวิจัยดีค่ะ เป็นงานที่ทำให้นักเรียนได้พัฒนาการเรียนมากขึ้นค่ะ เพราะสามารถนำไปฝึกเองที่บ้านได้ ทำให้เด็กเก่งขึ้น

น่าสนใจดีมากค่ะ

การเรียนคงสนุกมากขึ้น

เด็กๆก็เรียนดีขึ้น

มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น

สำหรับการเรียนของนักเรียน

ดีใจจัง

ที่มีงานวิจัยตัวนี้ค่ะ

เอาใจช่วยค่ะ

อาจารย์

อ่านแล้วให้ความรู้ดีค่ะ เป็นแนวทางในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

อยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ค่ะ

น่าสนใจครับ ถ้าเรามีแบบฝึกที่วิจัยแล้วว่าดีมาให้เด็กฝึกก็จะพัฒนาเด็กได้เร็วขึ้น

ขอตัวเต็มได้ไหมครับจะเอาไปเผยแพร่ และเป็นแบบแผนในการพัฒนาเครื่องดนตรีอื่นต่อ สอนดนตรีอยู่ครับ ขอบคุณดรับ [email protected]

http://gotoknow.org/portal/bung_luead

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท