นกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่า เป็นประโยคที่คนไทยคุ้นเคย อันที่จริง นกเอี้ยงไม่ได้เลี้ยงควาย แต่นกเอี้ยง "พึ่งพิง"ควายต่างหาก เรื่องของเรื่องก็คือ บนหลังควายนั้น "มี"สิ่งที่นกเอี้ยงต้องการอาศรัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น พวกหนอน พวกแมลง พวกปลิง พวกทาก พวกแมลงวัน แมงหวี่ แมลงปอ ยุง ฯลฯ "สิ่ง"เหล่านี้ นก "ต้องการ" คือ เป็น "ผลประโยชน์"ของนก
นกจึง "เกาะบนหลังควาย" เพื่อจิกกินอาหารเหล่านั้น
หาใช่มันจะเลี้ยงควายไม่ แต่ควายเลี้ยงมันต่างหาก มันเป็นผู้ติดสอยห้อยตาม เป็นผู้ตามไปทุกหนทุกแห่งเพื่อหวังผลประโยชน์ดังกล่าว
ต้นไม้บางต้น เมื่อมีผลมาก และสุกน่ากิน จึงดึงดูดให้นกจากสารทิศบินมาเกาะกินเต็มไปหมด และเป็นอยู่เช่นนั้นจนกว่าจะหมดต้น
ในทะเลก็มีปลาบางชะนิดที่ลำตัวของมัน มีอาหารอันเป็นผลประโยชน์ของลูกปลาเล็ก ทำให้ปลาเล็กๆเหล่านั้นว่ายตามมันไปทุกหนทุกแห่งเพื่อหวังจะกินเศษอาหารเหล่านั้น
ผลประโยชน์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ผลประโยชน์"มีอำนาจ"ดึงดูดผู้ที่ต้องการมัน
ทำให้"ผู้ที่เป็นเจ้าของผลประโยชน์" มี "อำนาจ" ไปด้วย เช่น ควาย"มีอำนาจ"ทำให้นก "ติดตาม"ควาย, ต้นไม้"มีอำนาจ"ทำให้นก"บินไปหาหรือพึ่งพิง"ต้นไม้, ปลาใหญ่"มีอำนาจ"ทำให้ปลาเล็กๆว่ายน้ำติดตาม
การที่สัตว์ผู้ตามเหล่านี้ติดตามแหล่งผลประโยชน์ไปนั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากความต้องการทางกายของสัตว์ผู้ตาม จึงเป็นเรื่องของ "โลกทายกาย"
เมื่อหยิบอะไรมาพิจารณา ก็มักจะพบเรื่องที่เกี่ยวกับโลกทางกายเป็นส่วนใหญ่
เราจึงอาจจะลงสรุปได้ว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ น่าจะเป็นเรื่องของโลกทางกาย"
และน่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนชั่วนิรันดร
สวัสดีคุณครูค่ะ
สวัสดีครับ คุณอิน
ขออวยพรอันเนื่องในวันครู ให้คุณครูอินจงมีแต่ความสุข ความเจริญ จงอย่าให้โรคภัยมาใกล้กาย ตลอดไป
ดร.ไสว เลี่ยมแก้ว