Dr. Steven Aufrecht กลับมาเยือนถิ่นเก่า


Dr. Steven Aufrecht กลับมาเยือนถิ่นเก่า

 

 Dr. Steven Aufrecht กลับมาเยือนถิ่นเก่า 

         ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ได้มีโอกาสต้อนรับ Dr.Steven  Aufrecht ( Steve) อดีตครูสอนภาษาอังกฤษที่นี่เมื่อปี 1968-1969   พบครั้งแรกเมื่อ ปี 2547 ครั้งที่ 2 ปี 2551 และครั้งที่  3 ก็คือวันนี้ 12 กุมภาพันธ์ 2552  .ทรงวุฒิอดีตคุณครูภาษาอังกฤษและลูกศิษย์ Dr.Steve  โทรฯติดต่อมาว่าช่วยหาห้องให้ Dr.Steve  พบนักเรียนหน่อย  มีเวลาแค่หนึ่งวัน  วันนี้มีกิจกรรมพิเศษคืองานปัจฉิมนิเทศ นักเรียนชั้น ม 6  เริ่มกิจกรรมตั้งแต่เช้าส่งผลให้นักเรียนที่รักการเรียนน้อยกว่ารักการทำกิจกรรมจิตใจกระเจิดกระเจิง วุ่นวายกับการสั่งช่อดอกไม้ หาของขวัญและ Action   ถ่ายรูปจนแอร่มไปเลย    นัดหมายเวลา 9 โมงกว่าๆ  หลังจากแวะทักทายท่านผู้อำนวยการฯพาลัดเลาะขึ้นอาคาร….มองเข้าไปในห้องเรียนเป็นอันต้องใจหาย  ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า นักเรียนอยู่สักคน  ปรากฏว่า นร ชั้น ม 5 ไปตั้งโต๊ะขายของที่ระลึกกันเกือบหมด  ไหว้วาน นร คนอื่นไปตรวจสอบห้องของคุณครูอีกท่านหนึ่งมีนักเรียนอยู่ 10 กว่าคน รีบพา Dr.Steve ขึ้นไปพบแบบเร่งด่วน  Dr.Steve  ออกตัวว่าไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้ารู้สึกกังวลว่าจะทำไม่ดี  ปัทโธ่  ระดับ Dr. Professor แห่ง Alaska และประสบการณ์เพียบขนาดนั้นไม่ต้องบรรยายสรรพคุณก็คงนึกกันออก  ขนาดเป็นช่วงสั้นๆ แต่นักเรียนก็ได้รับความรู้มากมาย เช่นสำนวนว่า Saved by the bell  เฮ้อออออ  ทำอย่างไรจะได้ครูภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพแบบนี้มาสอนบ้างน๊า  ช่วงนี้   Dr.Steve  มาทำงานกับองค์กรที่ช่วยเหลือชาวนา ที่ จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งพาไปเรียกร้องความเป็นธรรมที่ทำเนียบรัฐบาลมาหมาดๆ  มีเวลาพักอยู่ 55 นาที  Dr.Steve ขอ write DVD เพื่อนำเสนอในคาบเรียนต่อไป   เดินผ่านนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย แอบกระซิบด้วยเสียงเว้าวอนว่า  ช่วยขึ้นห้องไปเรียนกันทีเถอะ  นะนะ  จะให้คะแนนพิเศษ นักเรียนต่อรองว่า ก็เพื่อนๆเขาต้องไปขายของ  หากพวกหนูขึ้นเรียนเพื่อนก็จะว่าได้   ครูตอบว่า  ช่างเถอะน่า  ปล่อยพวกนั้นไปเถอะ  ขอให้กลุ่มเธอขึ้นไปก็แล้วกัน  นำขนมไปบริการ Dr.Steve  บอกเป็นภาษาไทยชัดเจนว่า มันอร่อยเกินไป (เลยกินเกือบหมด)  เสียงออดดังบ่งบอกสัญญาณว่าหมดเวลาแล้ว เริ่มคาบเรียนใหม่  แต่ DVD ยังไม่เสร็จ Dr.Steve เอ่ยว่า  เขาจะขึ้นไปห้องเรียนพร้อมกันก่อนแล้วค่อยย้อนมานำอุปกรณ์ขึ้นไป  ก็ได้   ขณะเดินผ่านกลุ่มนักเรียนเราก็ส่งสายตาจิกให้ขึ้นห้อง  ทำสัญญาณว่า เร็วๆหน่อย   นักเรียนต่อรองอีกครั้งว่า  อาจารย์ไม่ต้องให้คะแนนพิเศษพวกหนูหร็อกเพราะเพื่อนๆที่ไม่ขึ้นเขาจะไม่ได้คะแนน  แต่พวกหนูจะขึ้นไปเรียน แม่คุณเอ๋ย  จะเอาอย่างไรก็เอาแต่ช่วยขึ้นไปรักษาหน้าครูหน่อยแล้วกัน     Dr. Steve กล่าวว่า หากจัดกิจกรรมให้น่าสนใจนักเรียนต้องอยากขึ้นไปเรียนอยู่แล้ว    ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ห้องนี้สุดยอดจริงๆใช้ทั้งจิตวิทยาและกลยุทธ์ทุกกระบวนท่าเกือบหมดแล้ว  มีตั้งใจเรียนสัก 30 % นอกนั้นประเภทไม่อยากจะรับรู้  ไม่สนใจแม้แต่ตนเอง  Dr.Steve  ใช้เวลาพูดคุยเลยเวลาไปเกือบ 10 นาที  นักเรียนหลายคนหมดสภาพ ครูต้องคอยให้กำลังใจ  ทนอีกนิดนะนะ นักเรียนหลายๆคนสมาธิสั้นมาก  เรียกว่าเวลาสอนจะต้องคอยเปลี่ยนกิจกรรมทุก 15 นาที   กระตุ้นให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมตลอดเวลา และห้ามวิชาการมากเกินด้วย  Dr.Steve  ได้นำเสนอการใช้คำ Used to beและให้นักเรียนฝึกใช้ด้วย

    กว่าจะพา Dr.Steve ไปทานอาหารกลางวันก็ล่าช่าไปเกือบครึ่งชั่วโมง  เพราะ Dr.Steve หยุดทักทายและพูดคุยกับนักเรียนเป็นระยะๆ  ตามประสาคุณครูที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างแท้จริง  Dr.Steve   เอร็ดอร่อยกับรสชาติของบะหมี่ชากังราว รวม 2 ชามและข้าวเหนียวมะม่วงอีก 1 จาน   แถมสั่งเส้นบะหมี่ไปฝากเพื่อนๆที่สำนักงานที่เชียงใหม่อีก 12 ก้อน  นี่ไงนิสัยคนไทยเป๊ะเลยมีน้ำใจไงคะ   คุณครูละเอียด ศิษย์รักสั่งบะหมี่ใส่ถุงให้อีก 2  ถุง  หิ้วกลับไปเชียงใหม่ด้วย Dr. Steve  เปรยว่าอยากซื้อต้นไม้ไปปลูกที่เชียงใหม่ เมื่อสักครู่นั่งรถผ่านงานประเพณีนบพระเล่นเพลง มีต้นกล้วยไม้แขวนขายไว้มากมาย ทุกคนแย้งว่าให้ไปซื้อที่เชียงใหม่ดีกว่ามีให้เลือกเยอะแยะ แต่ Dr.Steve กล่าวว่าเชียงใหม่มันกว้างเกินไม่รู้จะซื้อที่ไหน  อ สุทินเพื่อนเก่าสมัยโน้นหยอกล้อว่า ไม่ต้องซื้อต้นไม้ติดมือไปกินหร็อก กินบะหมี่ 2 ถุงนี่ดีกว่า  ช่วงบ่าย อ สุทิน ขอพา Dr.Steve ไปพบลูกศิษย์ 2 คนที่สอนอยู่อีกโรงเรียนหนึ่ง  เรารีบสนับสนุนเพราะช่วงบ่ายมีกิจกรรมพิเศษคงหานักเรียนมาเรียนด้วยไม่ได้แน่  เมื่อปีที่แล้ว Dr.Steve นำ CD ภาพ และเอกสารประกอบการสอนเมื่อ 40 ปีที่แล้วมามอบให้และฝาก Copy ให้ลูกศิษย์ท่านด้วย  เมื่อวานต้องรีบ Xerox เอกสารแล้วนำไปให้อย่างเร่งด่วน   นี่ถ้าไม่จวนตัวขนาดนี้ก็คงดองเค็มต่อไป  ก็ไม่ว่างไง

        ช่วง Dr.Steve รอ Write  DVD  หยิบหนังสือภาษาอังกฤษที่เราวางไว้บริเวณโต๊ะทำงานมาเปิดดู  พอเรากลับมาที่โต๊ะก็วิจารณ์ให้ฟังว่า เนื้อหาของตัวภาษาดีมาก แต่ Reading กับ dialogue มันไปคนละทางกัน เวลาสอนนักเรียนควรจัดเนื้อหาให้มันเอื้อกัน เชื่อมต่อกัน  และมีประโยคที่เป็น Sentence Pattern ที่ใช้ด้วยกันได้   Dr.Steve คงไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้เราหยิบยืมเด็กมหาวิทยาลัยมาใช้คือเลือกใช้เพียงบางส่วนเท่านั้น  ท่านยังเสริมอีกว่าการสอนภาษาอังกฤษต้องให้เด็กเรียนรู้แบบธรรมชาติไม่ใช่สอนแต่เนื้อหาและตัวภาษาแต่ขาดกระบวนการฝึกฝนและนำไปใช้จริง   
ต้องขอบคุณ Dr.Steve ที่ได้ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์และเกร็ดความรู้ให้แก่นักเรียนและครู รวมทั้งแนวคิดเรื่องการสอนมา ณ โอกาสนี้ ค่ะ

      

      

      

      

     

 

 

หมายเลขบันทึก: 241725เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2009 02:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท