เมื่อความรักมาถึงเลข 7 (ปี)
หายหน้าหายตาไปจากวงการ blog เป็นเวลายาวนาน ด้วยภาระหน้าที่อันพัลวัน (อ้างไปอย่างนั้น) ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครจำได้หรือไม่ แต่ไม่เป็นไร วันนี้อารมณ์ดี นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ บวกกับอาการไม่ค่อยจะดีของสุขภาพ ไปหาหมอมาเรียบร้อย ภูมิแพ้กำเริบซะงั้น แต่ก็ยังหอบสังขารอันบึกบึนมานั่งปั่น blog ก่อนร่ายยาวมาก็เยอะแล้ว เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ
ช่วงเดือนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น วันวาเลนไทน์ นั่นแน่! คนมีคู่อ่านไปก็นั่งยิ้ม เห็นอะไรก็เป็นสีชมพู ส่วนคนไม่มีคู่ก็นั่งมองหา เมื่อไรจะมาสักที ^ ^
ความรักเกิดมาเป็นปุถุชน ก็ย่อมอยากมีเป็นธรรมดา แต่เมื่อมีรัก มักจะมีทุกข์ มันเป็นของคู่กัน โบราณเค้าว่าไว้ (อ้างอีกแล้ว) ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เป็นเรื่องของคนสองคนที่มีให้กัน หรือเป็นเรื่องของคนหนึ่งคนที่มอบให้กับหลาย ๆ คน ความรัก ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนหนุ่มสาว แต่เกิดขึ้นได้
กับทุกเพศ ทุกวัย สุดแท้แต่รักนั้นจะแสดงออกมาเป็นรักแบบไหน (รักออกแบบได้นะ)...รักจากพ่อ แม่ ที่มีให้กับลูกเค้าว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ความรักที่เพื่อนมีให้กับเพื่อน เป็นรักที่บวกกับมิตรภาพ แล้วความรักของคนหนุ่ม-สาว ล่ะ ทำไมถึงมีหลายรสชาดเสียเหลือเกิน
ยิ่งยุคสมัยนี้มีให้เห็นตามหน้าจอทีวี ตัวอย่างง่าย ๆ ดารา นักแสดง รัก ๆ เลิก ๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เค้าว่ากันว่า คบกัน 7 ปี มันมีอาถรรพ์ ความรักที่บอกว่า 7 ปี มันเป็นอาถรรพ์นั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 ศาสตร์ คือ ทางจิตวิทยาและสถิติ คือในทางสถิติ 100 คู่รัก อาจจะมีประมาณ 2 คู่ ที่รอดจากอาถรรพ์แล้วรัก
กันยาวนาน บางคนบอกว่าปีที่ 3 และที่ 5 ก็มีโอกาสเลิกกันสูงเหมือนกัน เพราะอะไรล่ะ ??? โดยส่วนใหญ่
ปีแรก คือช่วงเรียนรู้ หรือภาษาวัยรุ่นเรียกว่า ช่วงโปรโมชั่น ทำอะไรก็น่ารัก ดูดี
ปีที่สอง คู่รักก็จะมาเริ่มถามกันว่าเราจะคบกันต่อเพื่อเรียนรู้กันอีกมั้ย เพราะเราก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกแล้ว
ปีที่สาม เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อย ๆ
แต่พอปีที่ 5 หรือ ปีที่ 7 ก็จะเป็นจุดสูงสุดของการเป็นแฟน ว่าฉันมีเธอแล้วรู้สึกไม่เติมเต็ม มีกันไปวัน ๆ ที่ยังคบเธอเพราะฉันกลัวเหงา ยิ่งถ้าครบ 5 ปี 7 ปีตอนที่ผู้หญิงอายุ 30 แล้วละก็ ผู้หญิงจะคิดว่าเขาจะแต่งงานกับฉันมั้ย ต้องสร้างเนื้อสร้างตัว ผู้หญิงอาจดูแลเรื่องความรู้สึก ส่วนฝ่ายชายถ้าฐานะดีกว่าอาจจะดูแล
เรื่องเงินทองไปต้องแชร์กันทุกเรื่อง แต่พอไม่ได้ตามที่คาดหวังก็อยากจะหาคนใหม่ที่พร้อมกันจริง ๆ ไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป ถ้ายังเครียดจะทำให้หดหู่ทนต่อไปไม่ไหวก็เลิกกัน เลยเป็นอาถรรพ์เลข 7 แต่อีกแง่เลข 7 คือความแปรผัน ไม่แน่นอน ในปีที่ 7 จึงเหมือนกับว่าคุณผ่านทุกอย่างไม่ว่าจะร้อน หนาว เหงา
เศร้า มีความสุข ดังนั้น รอดก็คือรอด ไม่รอดก็คือเลิก หรือไม่ก็ไม่แต่งงานไปเลย ไม่ต้องกลัวโสดอีกต่อไป
เลข 7 นี่มันร้ายแรงมากขนาดนี้เชียวหรือนี่ แต่ถ้าใครไม่เจอกับตัวก็อาจจะไม่รู้ว่ามันทรมานขนาดไหน แต่ผู้เขียนยังไม่เจอหรอก แต่เคยใกล้ชิด
กับคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้แบบระยะเผาขนเลยเชียวหละ
วาเลนไทน์นี้ขอให้ความรัก จงเจริญ .......
ความเห็น (6)
อาถรรพ์หมายเลข 7 เหรอคะ ครูแป๋มไม่กลัวหรอกค่ะ เพราะไม่เคยมีใครจะทำให้รู้สึกแบบนี้ได้เลย เอ่อ..ที่จริงก็อยากรู้สึกหวาดผวากับอาถรรพ์หมายเลข 7 ดูนะคะ อิอิ....คงจะสนุกพิลึกนะคะ.
โอ้ เจอสาวกล้าซะแล้ว สาวแป๋มไม่กลัวเลข 7 คิๆ
"เพราะไม่เคยมีใครจะทำให้รู้สึกแบบนี้ได้เลย" ง้นเรามาลองคบกันดีม่ะ พอครบ 7 ปีแล้วจะได้รู้ คิๆ
- นึกว่าสาวที่ไหนนะเนี่ย อิอิ นู๋จินี่เอง
- ไม่เคยสัมผัสอาถรรพ์เลข 7 เพราะมักเจอแบบแวบเดียว เหมือนพลุบนท้องฟ้า 555
- ยังไงก็ขอให้เจอรักแท้นะจ๊ะ สำหรับคนที่ยังไม่เจอ ส่วนคนที่มีแล้ว ก็ขอให้รักกันนานๆ Happy Valentines ล่วงหน้าจ้า ^-^
ห่างหายจากวงการไปซะนาน ขอต้อนรับน้องใหม่ ที่เก่าแล้วครับ
ไม่นะ ก็เราอ่ะเบอร์ 7
มันต้องเป็นเลขดีสิ อิอิ
เอาเป็นความรักอยู่หรือไปใช้ใจเป็นเกณฑ์ เวลาก็ไม่สำคัญเท่าใจ
เค้าบอกว่ายิ่งคบกันนานๆยิ่งผูกพัน แต่ ความผูกพันมันก็ซื้อความรักไม่ได้อีกนั่นแหละ
เฮ้อ... เข้าใจยากจัง
ปานทิพย์
เราคิดว่ามันน่าจะอยุ่ทีคนสองคนมากกว่าพอรุ้จักกันไปนานๆๆอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรที่น่าสนใจเริ่มเบื่อ นั่นคือความอดทนมันอิ่มตัวนะกับสิ่งเดิมๆๆ เราคิดว่ากว่าจะคบและรุ้จักกันดีเท่ามีมันใช้เวลาเกือบ7ปีเชียว เราก็ชั่งน้ำหนักส่วนดีกับไม่ดี แล้วถามตัวเราเองว่าถ้าเลิกคบกันเราจะรุ้สึกอย่างไร ตอนนี้คุ่ของเราก็ 7 ปีพอดี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ถ้าอยุ่แล้วยังมีความสุขก็อยุ่ต่อไปถ้าไม่มีความสุขก็อย่าฝืน
โชคดีคะทุกคน