13. ไร่พริก และคมขวาน


ขวานเพียงเล่มเล็กๆ หรือจะทำลายป่าอันกว้างใหญ่ได้

      เหรียญกับผม เราออกจากหมู่บ้านคำบากหลังจากกินข้าวเช้าแล้ว บนบ่าซ้ายของเหรียญคล้องผ้าขาวม้าที่ทำเป็นถุงใส่ห่อข้าว บ่าขวาแบกขวานหงอนสำหรับตัดต้นไม้ ส่วนผมแบกปืนแก๊ปและที่เอวคาดขวดดินปืนและถุงลูกปืน

       เราเดินออกทางด้านหลังอาคารเรียน พอพ้นเขตโรงเรียนก็เป็นลำห้วยเล็กๆ แต่ตลิ่งค่อนข้างสูง เราลุยน้ำซึ่งลึกเพียงหน้าแข้ง น้ำใสและค่อนข้างเย็น จากลำห้วยเป็นป่าโปร่งทางเดินแคบๆ เราเดินกันเงียบๆ ผมตื่นเต้นกับการเดินครั้งนี้มาก ตามองสองข้างทาง มือซ้ายจับพานท้ายปืนแก๊ปที่วางอยู่บนบ่าพอหลวมๆ ใจคิดว่าขอให้เจอสัตว์ป่าสักตัวทีเถอะ จะขอยิงเป็นครั้งแรกของชีวิต แต่เวลาผ่านไปจนเกือบชั่วโมงผมก็ยังไม่เจอสัตว์ที่พอจะยิงได้ มีเพียงผีเสื้อ กิ้งก่า และนกตัวเล็กๆ นกตัวใหญ่หน่อยก็อยู่สูงหรือไม่ก็ไกลเกินไป

      เราเดินไม่หยุดตามทางแคบๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ คะเนระยะทางจากหมู่บ้านประมาณสี่กิโลเมตร ผมพยายามมองหาภูเขา แต่..มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ปกคลุมทางที่เราเดินให้ร่มคลึ้ม แสงแดดแทบจะส่องไม่ถึงพื้นดิน ทำให้อากาศเมื่อใกล้เที่ยงวันยังเย็นสบาย แต่ผมเริ่มมีเหงื่อออกตามศรีษะและคิดว่าเมื่อไหร่จะถึงภูเขาสักที สักพักสังเกตเห็นว่าทางเริ่มจะลาดชันขึ้น รู้สึกตัวเองเดินช้าลง ปืนที่แบกบนบ่าหนักขึ้นกว่าเดิม ระยะห่างระหว่างผมกับเหรียญยาวขึ้น เขายังเดินสบายๆ ทั้งๆ ที่สองบ่าค่อนข้างหนัก

      "เหนื่อยไหมครู" เหรียญถามโดยไม่หันมามองผม ความจริงผมเหนื่อยและอยากจะพักสักครู่ กำลังจะบอกขอพักเหรียญก็พูดต่อว่า "ทนเอาหน่อยนะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ขึ้นเขาอีกหน่อยเดียว"

      หา...ขึ้นเขาแล้วเหรอ ผมคิดและหันกลับมองดูด้านหลัง พอดีช่วงนั้นต้นไม้ไม่มากนัก เบื้องหน้าผมเป็นยอดไม้ ไกลออกไปเป็นผืนพรมสีเขียวขจีกว้างยาวสุดสายตา ใช่แล้ว..ผมได้ขึ้นมาบนภูเขาแล้ว โดยไม่รู้ตัว

     แต่..ผมมีเวลาชื่นชมกับธรรมชาติไม่นานก็ต้องรีบหันกลับ เพราะเหรียญเดินไปไกลมากแล้ว หากผมยังเดินคงไปไม่ทันแน่ จึงรีบวิ่งเหยาะๆ ตามไป เล่นเอาหอบผมจึงตามเหรียญท้น

      "นั่นไง...ไร่พริกของผม" เหรียญหยุดเดินและชี้ให้ดูไหล่เขาข้างหน้าไม่ไกลนัก มันเป็นแปลงพริกขี้หนูเนื้อที่ประมาณสามงาน ต้นพริกขึ้นอัดกันแน่น แต่ละต้นมีพริกสีเขียวอ่อนเต็มไปหมด แทบมองไม่เห็นใบ

      "โอ้ โฮ ดกมาก" ผมอุทาน "ทำไมมาปลูกไกลขนาดนี้ล่ะ แล้วเวลาเก็บจะเอากลับยังไง" ผมสงสัย

      "ปลูกใกล้บ้านมันจะดกขนาดนี้รึ" เหรียญตอบคำถามแรก แล้ววางขวานหงอนลงที่พื้น เอาผ้าขาวม้าที่ทำเป็นย่ามใส่ข้าว ห้อยไว้ที่กิ่งไม้ใกล้ๆ ตัว

      "เวลาพริกมันแก่ก็ให้แม่กับไอ้หลินมาหาบเอากลับบ้าน" เหรียญบอก ไอ้หลินก็คือน้องสาวของเหรียญนั่นเอง

      เหรียญหักกิ่งไม้ที่มีใบใหญ่และหนาปูลงพื้น แล้วนั่งลงบนกิ่งไม้นั้นพร้อมกับล้วงถุงพลาสติกใส่ยาเส้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จัดการมวนและจุดไฟสูบอย่างมีความสุข

      "อ้าว...พักที่นี่รึ" ผมถาม เหรียญพยักหน้าและพูดว่า "จะฟันป่าแถวนี้ทำเป็นไร่ข้าว"

        ผมจึงไปหักกิ่งไม้ต้นเดียวกับที่เหรียญหัก ปูห่างจากเหรียญเล็กน้อย เอาปืนแก๊ปพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆ แล้วนั่งลงเอาผ้าขาวม้าที่มัดเอวขึ้นเช็ดเหงื่อที่เต็มใบหน้า สัมผัสได้ขณะนั้นคืออากาศที่ค่อนข้างเย็น ลมพัดเอื่อยๆ และเสียงนกร้องเป็นหมู่ไม่ไกลนัก อีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวเจอกัน ผมคิดในใจ

      เมื่อยาเส้นหมดมวน เหรียญก็ลุกขึ้นหยิบขวานหงอนเดินไปที่ต้นไม้ขนาดลำตัวคน แล้วเหวี่ยงคมขวานลงที่ต้นไม้นั้น คมขวานกระทบต้นไม้เสียงดัง "ฉึกๆ" ผมเห็นเปลือกไม้กระเด็นออกมา มองขึ้นไปบนยอดไม้เห็นกิ่งไม้และใบไม้กระเทือนสั่นไหว

       ในคราวนั้นผมไม่ได้คิดเลยว่าขวานเพียงเล่มเล็กๆ จะทำลายป่าที่กว้างใหญ่ได้ ผมคิดเพียงว่า ได้เวลาการล่าสัตว์ของผมแล้ว

อ่านต่อ ตอน 14. นกน้อยถึงฆาต

หมายเลขบันทึก: 241119เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2009 01:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2018 12:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • สวัสดีอาจารย์
  • ความพยามอยู่ที่ไหน ขวานเล็กฟันต้นไม้ใหญ่ขาดฉันนั้น
  • ขอบคุณ
  • เดินเก่งจังนะคะตั้งสี่กิโล ไม่เคยได้เดินไกลขนาดนี้เล้ย  เดี๋ยวนี้ได้เดินนิ๊ดเดียว
  • น่าสนุกจัง  เดินเที่ยวได้เห็นอะไรเยอะแยะเลยค่ะ
  • อาจารย์เปลวเทียนทำตัวเหมือนชาวบ้านเลยนะคะแทบไม่ทราบว่าเป็นครู ดูกลมกลืนกับคนในบ้านแล้วอ่ะ
  • แต่ดูมีความสุขดีนะคะไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากมาย
  • สวัสดีค่ะ
  • อ่านแล้วเห็นภาพเลยนะคะ
  • บันทึกเสร็จ สงสัยรวมเล่มได้เลย

            คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดีครับ ท่านศรีกมล

ผมพยายามจะสื่อว่า สิ่งที่ตามองเห็นว่าไม่มีอะไร มันอาจซ่อนความโหดร้ายอยู่ภายใน เหมือนผู้หญิงที่ดูอ่อนหวานอ่อนแอ แต่เวลาเธอโมโห.....บางคนบอกว่า...เธอร้ายยิ่งกว่า..เสือ..เสียอีก

ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ

คุณดุจดาวครับ

เมื่อก่อนก็เดินได้ แต่เดี๋ยวนี้ขึ้นชั้นสามยังไม่อยากขึ้นเลย (แล้วสำนักงานก็มีสามชั้นเสียด้วย)

ผมเป็นคนเฮไหนฮานั่นครับ ความจริงก็คือ..ชาวบ้านเขาก็ดี แล้วผมก็วันหยุดไม่รู้จะทำอะไร จะเข้าเมืองก็ต้องเดิน ยิ่งหน้าฝนนะครับ เดินตลอด 28 กิโลเมตร ครับ กว่าจะถึงตัวเมือง แล้วนั่งรถจี๊ปใหญ่ ชนิดที่เวลาติดเครื่องต้องใช้เหล็กหมุนมอเตอร์ เหมือนรถอี่แต๋นหรือเครื่องสูบน้ำนั่นแหละครับ ถ้าออกจากบ้านคำบากเช้ามืดวันเสาร์ บางทีเที่ยงวันอาทิตย์จึงจะถึงบ้านวารินชำราบ ก็เลยไปเที่ยวกับชาวบ้านดีกว่า

การเที่ยวป่าของผมเพิ่งเริ่มต้นนะครับ จะมีรายการยิงหมูป่า ยิงหมี ยิงเก้ง ยิงลิง โอ้ย...ผมทำบาปมาเยอะครับ (เขียน...เพื่อสารภาพบาปไปด้วยนะครับ)

สวัสดีครับ พี่แดง ก็คิดอย่างนั้นแหละครับ ฮ่า ฮ่า รวมเล่มแล้วส่งสำนักพิมพ์ แล้วก็รอ...ร้องเพลงรอ....รอ....สุดท้ายหายไปกับความชราของตัวเอง....... ผมตั้งใจไว้นานแล้ว..ว่าจะเขียนให้ลูกอ่านครับ....ตอนนี้ก็บอกเขาให้อ่านไปเรื่อยๆ ...บอกเขาแล้ว...ก็ไม่ได้ถามนะครับว่า เขาจะอ่านไหม...ก็คงอ่านเพราะลูกผม มันก็บ้าอ่านพอได้อยู่ ขอบคุณสำหรับ การ์ด วาเลนไทน์ ด้วยครับ

Deedeejang-com-01d

"รักกัน.....ดีที่สุดครับ"

ผมพยายามจะสื่อว่า สิ่งที่ตามองเห็นว่าไม่มีอะไร มันอาจซ่อนความโหดร้ายอยู่ภายใน เหมือนผู้หญิงที่ดูอ่อนหวานอ่อนแอ แต่เวลาเธอโมโห.....บางคน   บอกว่า   เธอร้ายยิ่งกว่า..เสือ..เสียอีก

แต่อยากถามนะ  อะไรที่ร้ายกว่าเสือ  ติกตอก ติดตอก

เคยเห็น เสือ สิงห์  กระทิง  แรด  อยู่ในตัวเดียวกันไหมคะ ถ้าเห็นก็ตัวใครตัวมัน หละคะ  หมายถึงผู้หญิงนะคะ

 

การเที่ยวป่าของผมเพิ่งเริ่มต้นนะครับ จะมีรายการยิงหมูป่า ยิงหมี ยิงเก้ง ยิงลิง โอ้ย...ผมทำบาปมาเยอะครับ (เขียน...เพื่อสารภาพบาปไปด้วยนะครับ)

 

ถ้าบาปอภัยกันได้  ใครๆก็คงทำแต่บาป แล้วก็มาสารภาพบาปแล้วก็พ้นบาปชาตินี้ คงจะมีแต่คนไม่มีบาปเพราะสารภาพกันหมดแล้ว (ตอบกวนเฉยๆดอก)สวรรค์คงแน่นเอี๊ยด  เพราะมีแต่คนกลับใจ เป็นคนดีหมด

 

สมัยก่อนป่าก็เยอะ สัตว์ป่าก็แยะ  บ้านไหนมีพ่อบ้านหากินเก่ง ลูกเมียไม่อดตาย หาได้มากก็แบ่งให้ญาติแบ่งกันกิน ไม่ใช่แย่งกันกินเช่นทุกวันนี้ แมนบอ

 

ชีวิตครูในสมัยก่อน ก็ช่างสบาย มีเวลาได้ออกเดินป่า ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติชีวิตตอนนั้นคงจะมีความสุขมากนะคะ ไม่ต้องดิ้นรนมาก  ถึงแม้เงินเดือนจะน้อย แต่คิดว่าแทบจะไม่ได้ใช้เลย เพราะอาหารการกินเข้าป่าก็จะมีสิ่งติดไม้ติดมือกลับมาแล้ว   ต่างกับทุกวันนี้ เงินเดือนมากก็ไม่พอใช้ (บางคนบอก ไม่พอแจก) เห็นไหม ต่างกันขนาดไหน  ชีวิตครูสมัยก่อน กับสมัยนี้ (ดีที่มีอุดมการณ์  ทุกวันนี้บอกอีก  อุดมการณ์กินไม่ได้แล้ว จะพากันเออรี่ ว่าไป๊ ว่าไป)

 

ปลูกพริกก็ไปปลูกไกลลิบลับ กันขโมย ทุกวันนี้ไกลป่านนั้น ช่างหัวมันเถอะ ไกลแล้วยังไม่ได้ราคาอีก

แต่ที่อ่านมาแล้ว  อยากไปอยู่ใช้ชีวิตแบบนั้น ในบั้นปลายจริงๆ  จะไหวไหมคะ ต้องเข้าป่าหากิน  หาได้ก็ได้กิน  หาไม่ได้ก็ซื้อเอา เกรงว่าจะซื้อเอามากกว่า คงลำบากแล้วหละ  อย่าไปเลยนะ  ปู่เทียน อีกหน่อยปู่เทียนสายตาไม่ดี ยิงนกพลาด ย่าอดตายแน่ เลย  คริ  คริ  ขำวันละนิด จิตแจ่มใส

แต่อยากถามนะ  อะไรที่ร้ายกว่าเสือ  ติกตอก ติดตอก

ยุงครับ..ร้ายกว่าเสือ ถูกไหมเอ่ย...

ผมก็เปิดแน่บเหมือนกันครับ ตัวเดียวก็โหดแล้ว นี่มาตั้งสี่ตัว บรื้ออออ

พูดถึงเออรี่ ผมว่าดีนะครับ จะได้ถ่ายน้ำใหม่ เอาคนใหม่เข้ามาแทน เขาอาจขยันกว่าคนแก่ๆ หงำเหงือก หุหุ

อ๋อ... ที่ปลูกไกล ไม่เกี่ยวขโมยครับ ดินภูเขาจะเหมาะปลูกพริก งาม ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องรดน้ำใส่ปุ๋ย ที่ดีมากๆ คือ เผ็ดถึงใจ

ปู่เทียนยิงนกไม่ได้ ย่าไม่อดตายหรอกครับ ปู่รักย่า ต้องหากับข้าวตลาดอร่อยๆ ให้ย่ากิน แน่นอน

แล้ว ย่า จะไปอยู่ป่าไหมละครับ ฮ่า ฮ่า

ขำกลิ้ง เลยปู่เอ้ย เอิ๊ก เอิ๊ก ฟันปลอมย่าไปไหนแล้วหละปู่ ตาไม่ดีแล้ว หาที

อ้าว...อ้าว.... น้ำลาย.. น้ำหมาก..กระเด็นด้วย

เลอะหมดแล้ว ย่าเอ๊ย... มา มา ปู่จะเช็ดให้ด้วยผ้าขาวม้าสีหม่น ฮ่า ฮ่า   

ย้อนรอยมาขำ  ฟันปลอมย่ามันลงคอ แล้ว รู้ไหม เอิ๊ก  เอิ๊ก

ดีนะ ที่ซี่เล็ก ไม่งั้นติดคอ ตามหมอไม่ทันแน่ ฮิฮิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท