ภารกิจหลังการฝึกงาน


หลังจากการหาประสบการณ์ 3 เดือนจากการฝึกงานสิ้นสุดลง ภารกิจที่ต้องรีบทำให้เร็วที่สุดนั่นก็คือการ หางานทำนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภารกิจหลังการฝึกงาน

 

 

 

            หลังจากการหาประสบการณ์ 3 เดือนจากการฝึกงานสิ้นสุดลง  ภารกิจที่ต้องรีบทำให้เร็วที่สุดนั่นก็คือการ  หางานทำนั่นเอง

 

            ฟังดูแล้วเหมือนว่างานช่างหาง่ายดายซะเหลือเกิน  แต่ฉันเชื่ออย่างหนึ่งนะว่า ไม่เลือกงานไม่ยากจนก็คงจะจริง   ตั้งแต่ฝึกงานเสร็จฉันก็รีบหางาน สมัครงานไปหมดแหละ

ไปโดยไม่รู้ว่าเค้าจะรับเราเข้าทำงานหรือเปล่า..... แต่แค่ขอได้ยื่นใบสมัครไปก่อนก็พอ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

 

            อย่างน้อยๆเราก็มีความกล้า  กล้าที่จะเดินไปหางาน ...... วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไปสมัครงานและได้สัมภาษณ์งาน เค้าถามรายละเอียดมากมาย เราก็ตอบไปอย่างไม่ประหม่าเลย  ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าทำไมเราไม่เกรงในการตอบเลย (สงสัยตั้งแต่ไปเป็นดี.เจ มาฝีปากจะกล้ากว่าเดิม)

 

            วันนี้ไปสมัครที่บริษัทเกี่ยวกับการทำหนังสือท่องเที่ยว ฉันไปกะเพื่อนด้วยกัน 2 คน โชคดีที่เราไปฝึกงานด้านนี้มา  เค้าถามอะไรก็ตอบเค้าไปหมดเลย  แต่พลาดภาษาอังกฤษนี่แหละ  เง้อ.......

               ก็เราไม่เก่งอังกฤษนี่นา  แต่ถ้าได้ฝึกฝนอีกหน่อยก็คงจะเก่ง   เรื่องใจกล้าหน้าด้านพูดคุยผู้คนนี่ชอบอยู่แล้วล่ะ อิอิ!!  เค้าถามว่าจบสาขาอะไรมา  ก็บอกไปว่าจบเอกภาษาไทย  วิชาโทภาษาญี่ปุ่น  เค้าก็ถามว่าแล้วตอนฝึกงานทำอะไรมาบ้าง   จากนั้นเราก็โม้ใหญ่ว่าทำไรมาบ้าง.........

 

            ก็บอกเค้าไปว่าฝึกงานที่บริษัทเฉียบ มีเดีย จำกัด เป็นบริษัททำนิตยสารเกี่ยวกับโฆษณา ได้ทำหน้าที่เขียนคอลัมน์ การตลาดบ้าง    ทำสัญญาโฆษณากับลูกค้าวางบิลลูกค้า เก็บเงินลูกค้า แล้วก็ด้านวิทยุเป็นนักจัดรายการวิทยุด้วย แล้วก็ทำโฆษณาวิทยุด้วย เค้าก็สนใจนะเพราะว่างานมันคล้ายๆกันกับบริษัทนี้

 

            เค้าบอกว่าถ้าเค้าเลือก1ใน2คนนี้เข้าทำงานจะรู้สึกยังไง???

ก็ไม่รู้สึกอะไร ถ้าเพื่อนได้เราก็ยินดีไป  เพราะเราไม่มีสิทธ์เลือก เรามีหน้าที่มาขายสินค้านั่นคือตัวเราเอง อย่างน้อยเราก็กล้าที่มาสมัครงาน และเดินหางานไม่ใช่อยู่เฉยๆรองานมาหา 

 เพราะแต่ละคนนั้นก็มีความโดดเด่นไม่เหมือนกัน และบริษัทมีสิทธิ์ในการเลือกคนเข้าทำงาน ถ้าเพื่อนงานได้เราก็ยินดีกับเพื่อนด้วยเพราะเข้าใจว่าการทำงานต้องอยู่คนเดียวได้

 

 เค้าถามต่อว่าการโฆษณาเปรียบเหมือนอะไร???

เราก็ตอบซื่อๆตามความคิดเราไปเลยว่า  เหมือนอากาศ เพราะเวลาเราไปขายโฆษณาเหมือนเราขายอากาศ   ลูกค้าต้องจ่ายเงินซื้ออากาศนั่นคือโฆษณาที่เราจะลงให้ในหนังสือของเรา

โดยที่ลูกค้าก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลตอบรับกลับมามากน้อยแค่ไหน   ดังนั้นเราจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามั่นใจและเชื่อใจในการซื้ออากาศของเรานั่นเอง ฉันว่าฉันชอบงานอย่างนี้นะมันสนุกดี มันลุ้นด้วย....ยังไงก็อยากได้งาน

           

              เวลานี้  ฉันตั้งใจว่าจะสมัครงานไปเรื่อยๆมันต้องมีซักที่แหละน่า..........  ที่เค้าจารับเราเข้าทำงาน  ถ้าเราไม่ท้อซะก่อน  สู้ๆๆๆ

             

              เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่กำลังเรียนจบ และกำลังหางานเหมือนกับฉันตอนนี้นะ   งานมันอาจจะหายากสักหน่อย  แต่เราต้องไม่ท้อ สู้ๆๆๆๆ............กล้าไปหางาน  ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันทีหลังอย่างน้อยเราก็เดินไปหางาน  ไม่ใช่ว่าเราอยู่นิ่งเฉยๆแล้วรองานเดินมาหามันคงเป็นไปได้ยาก..................

 

 

หมายเลขบันทึก: 241052เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2009 19:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 18:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อย่าเพิ่งท้อนะครับ สู้ ๆ สู้ สู้ ตาย

ขอแค่มีความกล้าที่จะพูด ตอบคำถาม แล้วบวกกับไหวพริบอันชาญฉลาด ก็ถือว่าเก่งเเล้ว ไม่ได้งานก็ถือว่าเค้าตาไม่ถึงที่จะรับคุณนะค่ะ ยังไงโฆษณาที่เหมือนอากาศ ของคุณ มันเจ๋งมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท