ดรรชนี (Index) เป็นหนังสืออ้างอิงที่ชี้แหล่งข้อมูล เป็นหนังสืออ้างอิงประเภทที่บอกให้ทราบว่าจะหาสารสนเทศจากแหล่งใด และจะไม่มีสารสนเทศที่ต้องการทันที แต่จะบอกแหล่งที่ให้บริการว่าสามารถสืบค้นสารสนเทศได้จากที่ใด
ดรรชนี (Index) คือ หนังสือที่รวบรวมรายการ หัวข้อเรื่องหรือบทความในวารสาร ในหนังสือพิมพ์ในหนังสือและวัสดุสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่ได้รับการเรียบเรียงอย่างมีระเบียบ เพื่อช่วยในการค้นคว้าและสืบหาข้อความสำคัญ หัวข้อเรื่อง หรือบทความที่ต้องการว่าอยู่ในวารสาร หนังสือพิมพ์ หรือหนังสือชื่อใด ใครเป็นผู้แต่ง แต่งไว้ตั้งแต่เมื่อไร และปรากฏอยู่หน้าใดของสิ่งพิมพ์ดังกล่าว
ดรรชนี หมายถึง สิ่งที่บ่งชี้ไปยังแหล่งข้อมูล ซึ่งดรรชนีนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง ของหนังสือหรือหนังสือที่ให้รายการอันมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อ หัวข้อ คำศัพท์ หัวเรื่อง ชื่อเรื่อง ชื่อผู้แต่ง ชื่อคน ชื่อสถานที่ หรือรายการอื่น ๆ ที่มีความสำคัญว่าอยู่หน้าในหนังสือเล่มเดียวกัน หรืออยู่ในหนังสือเล่มใด หน้าใดในหนังสือวารสาร หรือสิ่งพิมพ์อื่น ๆ เป็นต้น
1) ช่วยให้ผู้ใช้สารนิเทศค้นเรื่องเฉพาะเจาะจง ซึ่งมักเป็นเรื่องทันสมัย
2) นอกจากค้นหาเรื่องที่ต้องการแล้ว ยังสามารถใช้สำรวจเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3) ช่วยประหวัดเวลาและแรงงานในการศึกษาวิจัยเพราะช่วยให้ผู้ใช้ค้นเรื่องได้ ตรงประเด็นและรวดเร็ว
4) ช่วยขจัดความซ้ำซ้อนในการศึกษาวิจัย เพราะดรรชนีจะช่วยให้ทราบได้ทันทีว่าผู้ใดทำงานวิจัยเรื่องใดไว้บ้างแล้ว ทั้งทำให้ได้แนวคิดจากเรื่องที่มีผู้ศึกษาวิจัยไว้แล้ว หรือนำเอาผลวิจัยนั้นมาศึกษาต่อให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไป
5) เป็นสื่อระหว่างทรัพยากรสารนิเทศและผู้ใช้ และทำให้ทราบความสัมพันธ์ของรายการดรรชนี
6) ทำให้ทราบถึงแนวโน้มหรือสะท้อนถึงความคิดเห็นในสาขาวิชา
หนังสือดรรชนี คือ หนังสือที่รวบรวมรายการ หัวข้อเรื่องหรือบทความในวารสาร ในหนังสือพิมพ์ ในหนังสือและวัสดุสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่ได้รับการเรียบเรียงอย่างมีระเบียบ เพื่อช่วยในการค้นคว้าและสืบหาข้อความสำคัญ หัวข้อเรื่อง หรือบทความที่ต้องการว่าอยู่ในวารสาร หนังสือพิมพ์ หรือหนังสือชื่อใด ใครเป็นผู้แต่ง แต่งไว้ตั้งแต่เมื่อไร และปรากฏอยู่หน้าใดของสิ่งพิมพ์ดังกล่าว
หนังสือดรรชนีเป็นคู่มือค้นหาสารนิเทศจากหนังสือ บทความในหนังสือ บทความในวารสาร บทความในหนังสือพิมพ์และสาระสังเขป หนังสือดรรชนีมีความสำคัญช่วยให้ค้นหาสารนิเทศได้สะดวกและรวดเร็วทันกับความต้องการที่จะใช้ เพื่อประโยชน์ของบุคคลในทุกวงการ ถ้าหากไม่มีหนังสือดรรชนีแล้วการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ต้องใช้เวลานาน ทำให้การปฏิบัติงานทุกอย่างล่าช้า ดรรชนีช่วยชี้แนะให้สามารถค้นหาสารนิเทศที่กระจายอยู่ในที่ต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง เพราะดรรชนีแสดงถึงความสัมพันธ์ของทรัพยากรสารนิเทศที่นำมาทำดรรชนี นอกจากนี้หนังสือดรรชนี ยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นเครื่องป้องกันมิให้สารนิเทศบางเรื่องถูกละเลยโดยไม่มีการนำมาใช้อีกด้วย
การใช้หนังสือดรรชนีวารสาร หนังสือดรรชนีหนังสือพิมพ์ และหนังสือดรรชนีหนังสือ ก็เช่นเดียวกับการใช้ดรรชนีในหนังสือสารานุกรม ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเปิดค้นที่หัวเรื่อง บางครั้งถ้าผู้ใช้จำชื่อผู้แต่งได้อาจจะค้นได้ภายใต้ชื่อผู้แต่ง สำหรับวิธีการใช้หนังสือดรรชนี โดยทั่วไปสรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
1) พิจารณาดูว่าข้อเท็จจริงที่ต้องการเป็นบทความในวารสาร หนังสือพิมพ์หรือหนังสือ เลือกใช้ดรรชนีให้ตรงกับข้อมูลที่ต้องการ
2) ข้อมูลที่มีอยู่เป็นข้อมูลลักษณะใด ชื่อผู้เขียนหรือชื่อบทความ เลือกใช้ดรรชนีให้ตรงกับข้อมูลที่มีอยู่
3) ก่อนใช้ดรรชนีแต่ละชื่อเรื่อง ควรอ่านคำแนะนำการใช้เป็นลำดับแรก
4) เมื่อได้ข้อเท็จจริงที่ต้องการแล้ว พิจารณาแต่ละข้อความว่าหมายถึงอะไร แล้วจึงดำเนินการค้นหาบทความที่ต้องการ
1. ดรรชนีวารสาร เป็นเครื่องมือช่วยค้นบทความในวารสาร แต่ละรายการประกอบด้วย ชื่อผู้เขียนบทความ ชื่อบทความ ชื่อวารสาร ปีที่ ฉบับที่ เดือน ปี และเลขหน้าของบทความ พร้อมทั้งจัดเรียงให้ค้นหาบทความได้สะดวกรวดเร็ว ด้วยการแยกเป็น ดรรชนีหัวเรื่อง ดรรชนีชื่อเรื่อง และดรรชนีผู้เขียนบทความ
2. ดรรชนีหนังสือพิมพ์ เป็นหนังสือที่ให้รายละเอียดว่าบทความ เรื่องราว หรือข่าวสำคัญที่ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นั้น อยู่ในหนังสือพิมพ์ฉบับใด พิมพ์ออกเมื่อใด อยู่หน้าหรือคอลัมน์ไหน รายละเอียดในการช่วยสืบค้นจากหนังสือพิมพ์ ผู้จัดทำจะรวบรวมไว้โดยกำหนดหัวเรื่องหรือชื่อบทความเรียงตามลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง
3. ดรรชนีหนังสือ ส่วนใหญ่จะอยู่ท้ายเล่มของหนังสือ เพื่อช่วยให้ค้นหาหัวข้อสำคัญ หรือรายการสำคัญในหนังสือได้สะดวกและรวดเร็ว
1. ดรรชนีวารสารไทย โดย สำนักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
2. ดรรชนีวารสารการศึกษาแห่งชาติ โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
3. ดรรชนีวารสารทางการศึกษา โดย อนันต์ ส่งอำไพ
หนังสือดรรชนี ประกอบด้วยรายการที่มีการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบส่วนมาก เรียงตามลำดับอักษรง่ายแก่ผู้ใช้จะใช้ค้นหาข้อมูล ปัจจุบันการจัดทำดรรชนีได้มีการนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย หนังสือดรรชนีแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้แก่ หนังสือดรรชนีวารสาร หนังสือดรรชนีหนังสือพิมพ์ และหนังสือดรรชนีหนังสือ เป็นต้น หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกคุณภาพของหนังสือดรรชนีต้องดูที่ผู้จัดพิมพ์ขอบเขต รูปแบบ หัวเรื่อง ความทันสมัยและการลงรายการ
นันทา วิทวุฒิศักดิ์. สารนิเทศและการศึกษาค้นคว้า.
พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ดี.ดี.บุ๊คสโตร์, 2536.
สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์. การใช้บริการห้องสมุดและการเขียนรายงานการค้นคว้า. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, 2535.
สุนิตย์ เย็นสบาย. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหนังสืออ้างอิง.
พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 2543.
_____ . สารนิเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า. กรุงเทพฯ : ภาควิชา
บรรณารักษศาสตร์ คณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบัน
ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 2539.
ขอบคุณมากกๆนะคะที่ให้ความรู้ ช่วยหนูได้เยอะเลยคะ
ยังไงก็เอามาฝากอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
เท่านี้หนูเรียนสารสนเทศมาเนี่ย รู้สึกว่าอะไรที่เกี่ยวกับห้องสมุดมันจะยากมากเลยค่ะ
หนูน่ะผ่านวิชาพวกที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาหมดแล้ว เหลือก็แต่เรื่องที่เกี่ยวกับห้องสุดนี่แหละที่ยังไม่ผ่าน
ยากมากกกกกกก แบบว่า มีอะไรมากมายอ่ะ ที่เราจะต้องมี ต้องเป็นคนที่เก่งจิงๆนะ ถึงจะจัดการทุกอย่างภายในห้องสมุดได้
แบบว่า...เก่งรอบด้านเลยก็ว่าได้ ไม่อย่างนั้นการจัดสารสนเทศต่างๆให้เข้าถึงผู้ใช้ที่ต้องการค้นคว้านั้นก็จะได้สะดวกและรวดเร็ว
ซึ่งนั่นก็หมายถึง...ผู้ประกอบการจะต้องวิเคราะห็ได้เก่งมากๆจับใจความสำคัญของเนื้อหาออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แล้วนำมาจัดลำดับให้ผู้ใช้บริการได้ค้นคว้า ดังนั้นจะเห็นได้ว่า...บรรณารักษ์มีบทบทาที่สำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าใครที่ต้องการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมก็ยังต้องพึ่งพาบรรณรักษ์อยู่ดี....
ขอบคุณจิงๆนะคะ....^_^
ขอบคุณมากคับที่ให้ผมได้รุ้อะไรเยอะขึ้นอีกมาก