ขอกราบนมัสการ "รอยพระพุทธบาท" ด้วยคนครับ
รูปแบบสำคัญฉันใด เนื้อหานั้นไซร้สำคัญกว่า
เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนาวันมาฆบูชาที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 เกิดจิตตั้งมั่นว่าจะไปไหว้พระที่เขาคิชกูฎ จันทบุรี เพราะเคยได้ยินคุณแม่บอกว่าในชีวิตครั้งหนึ่งควรเดินทางไปไหว้พระขอพรรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชกูฎ
ผู้เขียนจึงตัดสินใจจะไปในที่ที่คุณแม่เคยไป แต่ผู้เขียนไม่เคยได้ไปด้วย ...ในเช้าวันนี้ 8 กุมภาพันธ์ 2552 10.30 น. โทรจองห้องพักรีสอร์ทกระทันหันแล้ว จากนั้นก็ออกเดินทางตอน 12.30 ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เหตุผลที่ผู้เขียนไปครั้งนี้ขอตอบสั้น ๆ ในเบื้องต้นก่อนเข้าสู่เส้นทางตามรอยเขาคิชกูฎ “ไปไหว้พระ ชมศิลา เข้าหาธรรมชาติ”
ก่อนเข้าที่พัก ได้เดินทางไปไหว้ผู้ใหญ่ที่นับถือ ถึงที่พักประมาณ 21.40 น. เตรียมตัวไปขึ้นเขาคิชกูฎเวลาใกล้เที่ยงคืน เวลานี้เป็นเวลาที่ผู้คนจำนวนมากทะยอยออกจากวัด…คนที่เข้าไปขึ้นเขาในช่วงนี้มีจำนวนไม่มากไม่น้อย เดินสวนกันไม่เบียดเสียดเหมือนช่วงกลางวัน แต่ข้อเสียก็มีคือมืดจนมองไม่เห็นธรรมชาติที่ล้อมรอบชัดเจน อย่างไรก็ตามตอนกลางวัน ก็อาจจะเห็นไม่ชัดเจนเช่นกัน หากฝูงชนบังตาจนเห็นแต่แผ่นหลังคนข้างหน้า
คำบอกเล่าของผู้ศรัทธาคือว่าขณะเดินขึ้นเขาให้อธิษฐานจิตตลอดทางที่เดินขึ้นไป เพียงข้อเดียว จนถึงรอยพระพุทธบาท แล้วสวดมนต์ไหว้พระตามคาถาที่มีไว้ให้ ลงท้ายด้วยขอพรข้อเดียวที่ขอมาตลอดทางนั้นอีกครั้งหนึ่ง...
เรามาเริ่มการเดินทางขึ้นเขากัน....
ผู้เขียนไปถึงบริเวณทางขึ้นเขา...เห็นวัดพลวง...ต้องหาที่จอดรถให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถกระบะเพื่อขึ้นเขา ซึ่งแบ่งเป็นสองช่วงตอน ค่าเดินทางโดยสารต่อคนไป-กลับสองช่วงสองร้อย...เสียงคนคุมคิวรถบอกว่ารถคันไหนว่างก็กระโดดขึ้นได้เลย...ต้องบอกว่าผู้เขียนโชคดีที่ไปกันแค่สองคน ขณะที่คนอื่นเขาไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ จะขึ้นรถคันไหนก็ต้องรอให้คนกลุ่มตัวเองครบก่อน รอกันไปรอกันมา..หรือบางทีมีรถมาแต่มีบางคนอื่นกระโดดขึ้นไปนั่งก่อน คนกลุ่มใหญ่เห็นว่าที่ไม่พอพวกตัวเองจะนั่งก็ไม่ยอมขึ้นนั่ง...
ผู้เขียนชื่นชมความสามัคคีของพวกท่านเหล่านั้นที่รอกันอยู่อย่างนั้น อีกทั้งหันมาบอกผู้เขียน (ที่มายืนรอรถทีหลัง) ให้ขึ้นก่อนได้เลย...เป็นการแซงคิวที่ได้รับเกียรติโดยผู้มาก่อน win...win อย่างแท้จริง
ตลอดเส้นทาง จะเห็นพระพุทธรูปและผู้คนมากมายเคารพกราบไหว้บูชา...ภาพยามเที่ยงคืนดูมืด ๆ มัว ๆ เช่นนี้
พุทธศาสนิกชนนำธูปมาปักไว้ ตามศิลาดังภาพ
พระนอน เหลืองอร่าม
ระฆังระหว่างทางขึ้นเขา
ป้ายบอกก่อนจะถึงยอดเขาที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทว่า "ทางไปสวรรค์"
ประตูสวรรค์ ... เห็นป้ายนี้ ใจชื้นขึ้นมาว่าอีกนิดเดียวจริง ๆ จะถึงยอดเขาที่หมายแล้ว
ผู้เขียนได้ยินพระประกาศออกไมค์เกี่ยวกับรายชื่อของผู้ทำบุญ...และมีคำพูดหนึ่งที่บอกว่า "ไม่ต้องถามว่าที่มาของรอยพระพุทธบาทมาจากไหน ขอเพียงมีศรัทธาก็พอ" ขึ้นถึงยอดเขาแล้ว เห็นพระพุทธรูปเรียงรายดังภาพข้างล่าง
เดินเข้าไปด้านในจะเห็นรอยพระพุทธบาท...ทราบได้อย่างไร... เพราะเห็นว่าเป็นจุดที่มีผู้คนหนาแน่นที่สุด ภาพข้างล่างนี้คือภาพที่ผู้เขียนรอช่องว่างผู้คนเพื่อเข้าไปถ่ายใกล้ ๆ
รอยพระพุทธบาท... เหลืองไปด้วยดอกดาวเรือง...ดอกไม้ธูปเทียนและแผ่นทองคำเปลว
ขออภัยที่ไม่มีภาพ "ศิลา" แท้ ๆ ที่เป็นรอยพระพุทธบาท ซึ่งปราศจากดอกไม้ธูปเทียนให้เห็น เนื่องจาก ทุกครั้งที่มีเจ้าหน้าที่วัดโกยดอกไม้ ธูปทียนและแผ่นทองเปลวออกไปเพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างเปล่า... ก็จะมีผู้คนจำนวนมากเวียนมาวางและไหว้ขอพรจนไม่มีพื้นที่ว่างของ "ศิลา" ให้เห็น
ผู้เขียนขอลงท้ายบันทึกโดยอ้างถึงคำกล่าวของพระ รูปหนึ่งที่เอ่ยมาแล้วก่อนหน้านี้ว่า "ไม่ต้องถามว่าที่มาของรอยพระพุทธบาทมาจากไหน ขอเพียงมีศรัทธาก็พอ"
ศรัทธาอะไร? ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศธรรม (ชาติ) นี้มา พบว่าการมาไหว้พระ ชมศิลา "รอยพระพุทธบาท" ขอพึงระลึกว่า "จงศรัทธาในหลักธรรม ดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ" ใช้ปัญญาเข้าถึงเนื้อหาคำสั่งสอน การขอพรเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจ สำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับ "ธรรมะในใจ" และการปฏิบัติตน
รูปแบบสำคัญฉันใด เนื้อหานั้นไซร้สำคัญกว่า
----------------------------------------------------------------------------------
เจริญพร โยมศิลา
อาตมาได้ยินโยมหลายท่านพูดกันว่า ในชีวิตหนึ่งจะขึ้นไปไหว้พระ
และนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชกูฏสักครั้ง
อาตมาก็ไม่เคยได้ไป แต่ไปเขาสุกิมมาแล้วสองครั้ง
ขออนุโมทนาบุญให้คุณโยมด้วยที่ได้ไปสำเร็จ
เจริญพร
@ ส่วนตัวไม่เคยไปแม้แต่ครั้งเดียว
@ วันนี้เหมือนได้ไปกราบไหว้ "รอยพระพุทธบาท" ด้วยตัวเอง
@ และได้ขอพรท่านเกิดแรงบันดาลใจ อย่างน้อยก็ "เป็นสุขใจ" ขอบพระคุณครับ
ไม่เคยไปเลยค่ะ โชคดีได้กราบพระ รอยพระพุทธบาท พร้อมน้องศิลา นับว่าเป็นบุญแล้ว สักวันคงได้ไป
ขอบคุณมากค่ะ
นมัสการเจ้าค่ะท่านพระปลัด ขอขอบพระคุณค่ะที่อนุโมทนาบุญด้วย ศิลาไปชมศิลา (หิน) ธรรมชาติ และไปแสดงความเคารพคำสอนของพระศาสดาที่แฝงอยู่ในธรรมชาตินั้น...
เคยไป สองครั้ง นานมาแล้วค่ะ หากมีโอกาส ก็จะไปอีกค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีครับ อ.ศิลา
ตามมาชมด้วยคนค่ะ.^^
มาตามรอยคุณพี่ "ศิลา" ไปชม "ศิลา"
แล้วก็เกิดข้อคิดว่า
"รอยพระพุทธบาท" นั้นอาจเป็นปริศนาธรรม
ว่าที่จริงแล้ว ชาวพุทธที่แท้ควร
ตามรอย "ทาง" ที่พระพุทธองค์ทรงทิ้งไว้ อันเป็น "เนื้อหา"
มากกว่าจะไปหลงไหลใน "รอยศิลา" อันเป็นเพียง "รูปแบบ"
อันเป็นสมมติ
ขอกราบนมัสการ "รอยพระพุทธบาท" ด้วยคนครับ
รูปแบบสำคัญฉันใด เนื้อหานั้นไซร้สำคัญกว่า
ตามรอยธรรม ดื่มด่ำความสุขแท้จริง
ขอบคุณคุณครูแอ๊ว ที่แวะมาติดตามชมค่ะ
สวัสดีค่ะ
* ตามมาเที่ยวเขาคิชกูฎ ด้วยค่ะ
* นำบันไดสวรรค์มาด้วยค่ะ...ใช้ขึ้นเขา
* สุขกายสุขใจนะคะ
ขอบพระคุณคุณครูแอ๊ว ที่แวะมาชมค่ะ ชมแล้ว มีโอกาสอย่าลืมไปไหว้พระ อธิษฐานจิตดูนะคะ
ขออนุโมทนาบุญ ด้วยคนน่ะครับ
"ไม่ต้องถามว่าที่มาของรอยพระพุทธบาทมาจากไหน ขอเพียงมีศรัทธาก็พอ" ศรัทธาในพระพุทธศาสนาบ้างเรื่องก็ไมาเหตุผลที่ต้องเข้าใจครับ เช่นรอยพระพุทธบาท พระบรมสารีริกธาตุ กรรมดี กรรมชั่ว เป็นต้น
ขอกราบนมัสการ "รอยพระพุทธบาท" ด้วยคนครับ
รูปแบบสำคัญฉันใด เนื้อหานั้นไซร้สำคัญกว่า
ขอยกคำกล่าวของน้องณภัทร9 มาอีกครั้ง เพราะเข้าถึงธรรมได้ดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะเวียนมาด้วยความระลึกถึงค่ะ
มิตรภาพ รับรู้และสื่อได้ที่ใจ ค่ะ
ขอบคุณความรู้สึกดี ๆ ที่มอบให้เสมอมาค่ะ
....(^___^)....
สวัสดีค่ะคุณSila Phu-Chaya
ตามงานบุญมาด้วยค่ะ
ขอบพระคุณคุณฤทธิชัย ที่แวะมาทักทายตามรอยบุญค่ะ "ศรัทธาเป็นข้อยกเว้นของเหตุผลทั้งปวงค่ะ" แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ปะปนกับ "คลั่งไคล้" "หลงมัวเมา" ซึ่งเชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ได้ร่วมกันแบ่งปันปัญญาเป็นเกราะที่แข็งแกร่งในการแยกแยะได้อยู่แล้ว
สวัสดีครับ ยังไม่เคยไปเลย " บุญวาสนา " ยังไม่พอ อ่านบันทึกนี้แล้ว ต้องหาโอกาสไปสักครั้ง ขอบคุณครับ
ไปไม่ทันแล้ว ได้ยินว่าสัปดาห์นี้เขาจะปิดแล้ว งั้นไปปีหน้าแล้วกัน
ขอดูภาพไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ ขอบคุณครับ
หนูอยากไปขอพรจากท่านบ้างค่ะ..แต่ยังไม่มีโอกาส..
ถ้าหนูจะอธิษฐานขอพรจากท่านทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ไปได้ไหมค่ะ?
แล้วหนูจะไปกราบขอบพระคุณท่านที่ให้พรดั่งที่หนูขอค่ะ