ผมไปเป็นวิทยากร ให้กับกองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข กับองค์การอนามัยโลก แล้วก็ชวนทีมวิจัยไปด้วย เพื่อเตรียมสร้างทีมประเมินและถอดบทเรียนพัฒนารูปแบบสุขศึกษาชุมชน เพื่อสร้างพลังเครือข่ายต้านภัยบุหรี่และยาสูบ(1) ในกลุ่มพื้นที่ตัวอย่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยถอดบทเรียนและยกระดับขึ้นจากประสบการณ์ของชมรมสร้างสุขภาพและเครือข่ายชุมชน จะศึกษาทั้งในระดับมหภาคของประเทศไทยและลงไปดูบริบทเชิงพื้นที่ระดับจุลภาค ทั้ง 4 ภูมิภาค
สิ่งที่เชือว่าจะได้ก็คือเครือข่าย / ความมีสุขภาพในความหมายที่กว้าง / และความมีสุขภาวะดีทั้งของเยาวชน ครอบครัว และชุมชนในพื้นที่ศึกษา รวมทั้งการเคลื่อนไหวทางสังคมในวงกว้างในการสร้างภาวะการปลอดบุหรี่โดยมีเยาวชนเป็นศูนย์กลาง ผ่านปฏิบัติการต่างๆ ที่เครือข่ายจะมีกระบวนการเสริมพลังให้ทำได้
ส่วนรูปแบบและองค์ความรู้ที่จะได้ ก็จะช่วยชี้นำบทบาทที่ส่งเสริมและเกื้อหนุนกันอย่างเหมาะสมของบุคลากรทางสุขภาพทั้งในส่วนกลางและในท้องถิ่น อสม ผู้นำชาวบ้าน และเครือข่ายต่างๆของคนในชุมชน ในการทำงานเชิงรุก ดำเนินการสุขศึกษาชุมชนจากรอบทรรศนะที่สร้างขึ้นจากชุมชน (Community Health Education by Community-Based Perspective) ให้ปัจเจก ครอบครัว และชุมชน สามารถมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมระบบสุขภาพปฐมภูมิและสุขภาพชุมชน ได้ดียิ่งๆขึ้น
เป็นงานที่หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะต้องทำกับกลุ่มที่หลากหลาย ทั้งหลากหลายประสบการณ์ รุ่นวัย สาขาอาชีพ อีกทั้งอยู่ในบรรยากาศของสังคมที่ผู้คนหวาดระแวงฝักฝ่าย การแบ่งขั้วและการแอบแฝง ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ก็เป็นกลุ่มผู้นำการปฏิบัติของชุมชนในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลต่อการนำไปสู่การริเริ่มสร้างสรรค์ทางการปฏิบัติของกลุ่มคนในชนบท จึงทำให้รู้สึกได้เหน็ดเหนื่อยเพื่อให้เกิดสิ่งดีต่อผู้อื่น พอเสร็จงาน ก็เหมือนกับได้ทำสิ่งดีงามให้สำเร็จไปขั้นหนึ่ง
จวบกับเป็นเวลาบ่ายคล้อย และเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ เลยให้ความรู้สึกได้ความเบิกบานและรื่นรมย์ใจจากการได้ทำงานเหนื่อยแรงให้ล่วงไป พรรคพวกในทีมเลยชวนกันแวะไปไหว้พระ
หะแรกก็นึกถึงพระอาจารย์เอนก เลขาธิการมูลนิธิหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ อยากไปกราบนมัสการท่านและขอสัมผัสความสงบเงียบในวัดป่าที่ท่านพำนัก ให้ได้พลังชีวิตกลับไปเผชิญชีวิตและการงานที่ดี ทว่า คะเนดูแล้ว กว่าจะถึงก็คงจะมืดค่ำ เลยก็ไปที่วัดหนองแวงในตัวเมืองขอนแก่น มุ่งไปกราบนมัสการพระอาจารย์สุวรรณ ซึ่งเคยเมตตาเป็นพระวิปัสสนาจารย์นำกิจกรรมเจริญสติภาวนาให้กับชมรมชีวเกษมและเครือข่ายชุมชน ที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ซึ่งผมและคณะได้ร่วมกิจกรรมอยู่ด้วย
พอไปถึง นอกจากได้กราบนมัสการท่านพระอาจารย์สุวรรณแล้ว ท่านก็ยิ่งให้ความเมตตาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อพระราชปริยัติเมธี เจ้าอาวาสวัดหนองแวง และหอพระมหาธาตุแก่นนคร อนุสรณ์สาธุชน ที่ท่านระดมพลังศรัทธามหาชนสร้างขึ้น
ผมเลยชวนพรรคพวกขอเข้าไปดูภายในพระมหาธาตุ ท่านเห็นว่าพวกเราสนใจ ก็เลยนำเข้าชมซึ่งนับเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่งของพวกเราเพราะนอกจากท่านเจ้าอาวาสแล้ว พระคุณเจ้านับว่าเป็นพระของวัดหนองแวงรูปหนึ่ง ที่ทรงความรู้ในรายละเอียดด้านต่างๆเป็นอย่างดีที่สุด อีกทั้งเป็นพระวิทยากรนำชมให้แก่หมู่คณะต่างๆ อยู่เสมออีกด้วย
หอพระมหาธาตุ มีทั้งหมด 9 ชั้น มีสัณฐานเป็นรูปแห ฐานแผ่ออกเหมือนปากแห ยอดบนสุดประยุกต์และผสมผสานรูปแบบพระธาตุพนมกับก้านไม้เรียวหวดฟ้า สูงลิบจนแหงนคอตั้งบ่า ปลายสอบ ลดหลั่นขึ้นไปจากฐาน เพรียวลงจนเหมือนเสียดยอดและหายวับไปกับความว่างเปล่าของนภากาศ ซึ่งพระอาจารย์สุวรรณไขขานให้ว่าเป็นนิมิตของพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อ พระราชปริยัติเมธี (ดูภาพประกอบท้ายบันทึก)
ช่วงเวลาที่คณะของผมเริ่มเข้าไปในหอพระมหาธาตุนั้น เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็น คนทั่วไปกลับเกือบหมด และเป็นเวลาที่จะปิดให้เข้าชมแล้ว สภาพแวดล้อมทุกอย่างจึงสงบ วังเวง โอ่อ่า เห็นพลังความยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราตระหนักรู้ถึงความเป็นสิ่งเล็กๆของตน ท่ามกลางงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ทั้งเบื้องหน้าและโดยรอบในที่แห่งนั้น
สัมผัสได้ถึงความเงียบ
เสียงสาธยายเรื่องราวต่างๆของพระอาจารย์สุวรรณ เหมือนเป็นคลื่นที่ลอยกังวานอยู่ในบรรยากาศ
ท่านเริ่มนำพวกเรากราบนมัสการพระพุทธปฏิมา ทำให้จิตใจเริ่มเข้าสู่ความเป็นสมาธิ
จากนั้นก็เริ่มเดินดูภาพเขียนฝาผนังโดยรอบ ชั้นล่างเป็นภาพที่พรรณาเกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นของชนสมัยโบราณจากร้อยเอ็ด ส่วนหนึ่งของแขวงเมืองสุวรรณภูมิ สู่เมืองขอนแก่น
ภาพเขียน เป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังยุคใหม่ ทำขึ้นในช่วง 2546-2549 เขียนสีน้ำมันบนพื้นปูน มุมล่างของภาพลงนามพู่กันของช่างผู้เขียนว่า ธรรมธาตุ ซึ่งในเอกสารความรู้ระบุว่านามจริงคือ นายธรรมรงค์ แก้วโบราญ ดูเหมือนว่าจะเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชมงคลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาพที่ 1 จากซ้ายไปขวา : อาจารย์ณัฐพัชร์ ทองคำ คุณเริงวิชญ์ นิลโคตร ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ พระอาจารย์สุวรรณ์ คุณสนั่น ไชยเสน คุณกานต์ จันทวงษ์ หน้าพระประธานชั้นที่หนึ่งของหอพระมหาธาตุแก่นนคร อนุสรณ์สาธุชน วัดหนองแวง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
พระอาจารย์สุวรรณ กลายเป็นมัคุเทศน์ทางจิตวิญญาณไปโดยที่คณะของผมก็ไม่ทันได้รู้ตัว โดยเฉพาะผมเอง ซึ่งมีความชอบในงานศิลปะ การวิจัยสร้างความรู้ท้องถิ่น และการสร้างแหล่งการเรียนรู้วิถีท้องถิ่น อยู่เป็นทุนเดิม พอเริ่มเดินไปรอบๆพร้อมกับการนำชมและการบรรยายอย่างต่อเนื่องของพระอาจารย์สุวรรณ ผมก็เข้าไปอยู่ในธรรมารมณ์ที่ท่านสาธยาย เป็นขั้นๆ ตามลำดับชั้นของหอพระมหาธาตุ ผมมานั่งทบทวนดูในภายหลังจึงพอจะเข้าใจและเห็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของการออกแบบและจัดวางองค์ประกอบต่างๆอย่างแยบคาย ในหอพระมหาธาตุแต่ละชั้นนี้
ภาพที่ 2 ภาพแกะสลักไม้สักทอง ลายนูนสูง ฝีมือช่างล้านนา
จากประวัติศาสตร์และพัฒนาการของเมืองขอนแก่น ก็เป็นชั้นสอง วิถีชีวิตและวิถีภูมิปัญญาที่มาในฮีตสิบสอง ซึ่งว่าด้วยวิถีสังคมแห่งคุณธรรมและบุญนิยม แสดงแนวคิดและวิถีการทำบุญในวาระต่างๆ ตลอดปีในแต่ละเดือน เพื่อเป็นหลักกำกับวิถีคิดวิถีปฏิบัติของชุมชนและระบบสังคม ให้สอดคล้องกลมกลืนกับวิถีการผลิตซึ่งมีความสัมพันธ์กับปัจจัยพื้นฐานของการผลิต ธรรมชาติ และฤดูกาล อย่างใกล้ชิด
คองสิบสี่ เป็นหลักจารีตประเพณี แสดงแนวปฏิบัติที่ควรทำเพื่อจัดระเบียบสังคมและจัดความสัมพันธ์ระหว่างกันในขอบเขตต่างๆ นับแต่ระดับครอบครัว ระหว่างความแตกต่างทางเพศ ระหว่างรุ่นวัย ชุมชน และมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
ให้หลักคิดและวิถีที่พึงปฏิบัติเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของปัจเจก ครอบครัวและชุมชน ในลักษณะที่เป็นความสุขและความศานติร่วมกันของส่วนรวม หรือสุขสาธารณะ
ภาพที่ 3 และภาพที่ 4 แสดงลักษณะการเขียนภาพ เน้นการบันทึกและเล่าเรื่อง วิถีชีวิตและฮีตสิบสอง
จากนั้นก็เป็นคะลำ หรือข้อห้าม ข้อที่พึงละเว้นไม่ควรกระทำในกาละเทศะต่างๆ และต่อบุคคล รวมทั้งหมู่คณะ
ทั้งสองส่วน ครอบคลุมแนวคิดและหลักปฏิบัติที่ควรและไม่ควรกระทำ (Do and Don't Do) รวมไปจนถึงหลักจารีตและกฏหมายธรรมชาติ ให้พื้นฐานนับแต่หน้าที่และวิถีพลเมือง ไปจนถึงระบบสังคม สิ่งแวดล้อมและการวางท่าทีของมนุษย์ต่อธรรมชาติ ฤดูกาล จักรราศีทั้งในสุริยคติและจันทรคติ
ภาพเขียนทั้งหมด สื่อสะท้อนถึงการวิจัยศึกษาข้อมูล และผ่านการถก ติ ปรับแต่ง ให้สามารถบันทึกและใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทางหลวงพ่อได้ทำหนังสือคู่มือการเรียนรู้สำหรับให้การศึกษาสำหรับคนทั่วไป โดยมีทั้งภาพเขียน คำอธิบายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ(2) ทำให้ภายในหอพระมหาธาตุ ทำหน้าที่ได้อย่างผสมผสาน ต่อท้องถิ่นและสาธารณชนผู้มาเยือน
ภาพที่ 5 ตัวอย่างวิถีคิด คะลำ หรือข้อห้าม ไม่ยืนคร่อมหัวผู้อาวุโส ยืนขึ้นสูงกว่าในขณะที่มีผู้ใหญ่นั่งอยู่ พูดหรือทำกริยากับผู้อื่นข้ามหัวผู้ใหญ่ แสดงความไม่เป็นผู้มีสัมมาคารวะ ไม่รู้กาละเทศะ ไม่มีความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่
ทางหนึ่ง ก็เหมือนกับเป็นแหล่งสืบสานมรดกทางปัญญาอันลึกซึ้งของสังคมนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน อีกทางหนึ่งก็เป็นแหล่งให้ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ แหล่งปฏิบัติกิจทางศาสนา และที่สำคัญ เป็นเสมือนมหาวิทยาลัยชีวิตของปวงชน จึงระหว่างที่เดินเรียนรู้ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังการขัดเกลาจากสภาพแวดล้อมทั้งมวลโดยรอบ มีความกว้างขวาง รอบรู้ และยกระดับความละเอียด ประณีต ด้วยการจัดวางสิ่งต่างๆอย่างแยบคาย
หากดูความลึกซึ้ง รอบด้าน และองค์ประกอบต่างๆที่สะท้อนระบบคิดเกี่ยวกับจักรวาล โลก ทรรศนะทางพุทธธรรม ประวัติศาสตร์และความเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณท้องถิ่น เข้าไปไว้ในองค์พระมหาธาตุทั้ง 9 ชั้นอย่างหมดจรดแล้ว ก็ต้องจัดว่าเป็นประดิษฐกรรมทางปัญญาแห่งยุคสมัย ที่ยิ่งใหญ่กว่าการจารึกทางปัญญาลงในงานศาสนสถานหลายแห่งในโลก ในอนาคตจะเป็นมรดกวิถีธรรมและวิถีภูมิปัญญาที่น่าอัศจรรย์อย่างที่สุดแห่งหนึ่ง
ภาพที่ 6 สภาพแวดล้อม วิถีชุมชน และความเป็นอยู่ในเชิงอุดมคติ แสดงวิถีชีวิตและความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันของครอบครัว บ้าน ชุมชน และวัด
การสัมผัสตรงหลากหลายช่องทางและการได้นำตนเองเข้าไปอยู่ในบรรยากาศ และสภาพแวดล้อม ที่องค์ประกอบต่างๆ ถูกออกแบบและจัดวาง ให้มีรหัสนัยต่อภูมิปัญญาอยู่ในทุกกระเบียดทั้งภายนอกและภายในพระมหาธาตุ แม้นเป็นคนทั่วไปที่อ่านหนังสือไม่ออก ก็เชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงภาวะสูงสุดและเห็นมรรควิถีแห่งชีวิต ด้วยความตื่นรู้และตระหนักขึ้นภายในประสบการณ์ทางจิตวิญญาณของตนได้ นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อปวงชนโดยแท้
กระทั่งถึงสามชั้นสุดท้าย ก็เริ่มด้วยชั้นที่เกียวกับพระสงฆ์ มีรูปปั้นพระผู้ใหญ่ สมเด็จพระสังฆราช และครูอาจารย์ของท่านเจ้าอาวาส เป็นรูปปั้นเท่าองค์จริง นับได้กว่า 10 รูป เห็นทั้งการจรดจารเรื่องราวของผู้นำทางจิตวิญญาณเพื่อสืบทอดแก่สังคม และเห็นมิติทางสังคมผู้นำทางจิตใจ (Spiritual Leadership Society) ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น รวมทั้งเห็นพลังแห่งกตัญญูกตเวทิตาในอีกมิติหนึ่งของสังคมอารยะ (Civil Society) ที่ท่านหลวงพ่อ พระราชปริยัติเมธี ปฏิบัติต่อครูอาจารย์ของท่าน
ภาพที่ 7 บันทึกและเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของเมืองและพัฒนาการของมณฑลในภูมิภาค กล่าวถึงปีพุทธศักราช 2450 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลวงวิไสยสิทธิกรรม (จีน ปิยรัตน์) ได้มาเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นยุคการตั้งถิ่นฐานและพัฒนาระบบการบริหารจัดการเมืองของท้องถิ่นและในมณฑล มีการย้ายที่ตั้งเมืองและที่ว่าการถึง 5 ครั้งด้วยกัน
ถัดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งเป็นหอพระธรรม ก็จะยิ่งสอบเล็กลง สัมผัสลมเย็นและความเวิ้งว้างบนหอคอยสูงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
กระทั่งชั้นสูงสุดเป็นหอแห่งความเป็นพุทธธะ และจัดวางให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 9 ยอด ซึ่งเป็นจุดที่จะทำให้สามารถรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงเป็นหนึ่งกับสรรพสิ่งรอบข้าง
การเดินขึ้น พร้อมกับค่อยๆเรียนรู้ เปลี่ยนลำดับขั้นของเรื่องราวกลมกลืนไปกับการก้าวเดินจากชั้นที่หนึ่งอันกว้างใหญ่โอ่โถงของหอพระมหาธาตุ กระทั่งขึ้นสู่ชั้นที่เจ็ด แปด แล้วก็ชั้นที่เก้า ซึ่งพอโผล่ขึ้นไปก็เห็นบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เด่นเป็นประธานอยู่ตรงกลาง
ความตื่นตัวและความตื่นรู้ทั้งมวลที่ค่อยๆบังเกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างปฏิสัมพันธ์เป็นหนึ่งกับบรรยากาศแวดล้อมทั้งมวลของชั้นต่างๆในหอพระมหาธาตุ พลันก็หลอมรวมพุ่งตรงไปยังพระบรมสารีริกธาตุ สายลมบนที่เกรียวกรูดังสายธารธรรมไหลผ่านตัวเรากับภาวะผสมผสานของสรรพสิ่งที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันเบื้องหน้า เชื่อมโยงตัวเราให้เป็นจุดเล็กๆ เปิดออกสู่ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตรอบทิศ
พื้นโดยรอบสามารถนั่งล้อมวงได้ชั้นเดียว เป็นกรอบจัดวางตนเองของผู้ที่เข้าไปสู่กายภาพพื้นที่ดังกล่าวนั้นให้แผ่กระจายออกเป็นรัศมีโดยรอบ โดยมีพระบรมสารีริกธาตุเป็นศูนย์กลาง
ทั้งสี่ด้านเปิดออก แลเห็นเวิ้งฟ้าและพื้นล่างเป็นอาณาบริเวณสุดสายตาที่ค่อยๆกลืนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับแผ่นฟ้ากว้างรอบทิศ ทำให้เข้าสู่ความผ่อนคลาย จิตใจเปิดออก สบาย
ผมเองนั้น กำลังยืนเพ่งสมาธิไปที่องค์พระบรมสารีริกธาตุ ได้อารมณ์ภาวนาและติดตากับภาพเบื้องหน้า ผสมผสานเป็นหนึ่งกับบรรยากาศโดยรอบ
พลัน พระอาจารย์สุวรรณท่านก็นำพวกเรานั่งลง สวดมนต์บูชาพระบรมสารีริกธาตุ นับแต่การตั้งนโมสามจบ บทบูชาพระรัตนตรัย และบทสาธยายพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อย่างเต็มที่ จากนั้นก็ว่าด้วยบทแผ่เมตตา
การอยู่ในสภาพแวดล้อมอันสัปปายะอย่างยิ่งอย่างนั้น เมื่อได้ร่วมกันนั่งสาธยายคุณอันประเสริฐแห่งพระรัตนตรัยอย่างฉับพลัน ผมก็ได้สัมผัสกับความเป็นสมาธิในอีกมิติหนึ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นแก่ตนเองมาก่อน(3) สวดมนต์ไปนิดเดียวผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเหลือเพียงคลื่นของเสียงสวดมนต์ที่ผสานไปกับเสียงกังวานล่องลอยไปในบรรยากาศโดยรอบของหมู่คณะ แล้วก็เห็นก้อนควันขาวบางเบา เป็นก้อนเหมือนดอกบัว ลอยอยู่ตรงกลางในความตระหนักรู้ต่อตัวเอง ทำให้เหมือนมีพลังในการสวด และได้อยู่กับอารมณ์อย่างนั้น กระทั่งสวดจบ ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 15 นาที(4)
ผมไม่กล้าเล่าให้พระอาจารย์สุวรรณฟัง แต่ดูจังหวะการนำคณะพวกเราสัมผัสสิ่งต่างๆ กระทั่งนั่งลงสวดมนต์แล้ว ดูเหมือนว่าท่านสามารถรู้และคาดการณ์ลำดับขั้นของการเกิดประสบการณ์ทางจิตวิญญาณในสภาพแวดล้อมอย่างนั้นได้
ภาพที่ 8 โรงเรียนวัดหนองแวง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เชื่อมต่อเป็นอาณาบริเวณเดียวกันกับวัดและองค์พระมหาธาตุ ภาพนี้ถ่ายจากชั้นที่ 9 ของหอพระมหาธาตุแก่นนครอนุสรณ์สาธุชน วัดหนองแวง จะสังเกตว่า อาคารเรียนเป็นตึกสูง 4 ชั้น ซึ่งโดยมาตรฐานทั่วไปจะสูงชั้นละสามเมตรครึ่งหรือ 350 เซนติเมตร และรวมความสูงของหลังคาหน้าจั่วซึ่งจะเห็นว่าสูงชันมากกว่าสองเท่าของความสูงหนึ่งชั้น รวมแล้วน่าจะประมาณ 3 เท่าของเสาไฟฟ้าข้างถนนทั่วไป ก็ยังกลายเป็นต่ำกว่าระดับสายตาลงไปอย่างมาก บ่งบอกถึงความสูงขององค์พระมหาธาตุ และการจัดวางพระบรมสารีริกธาตุบนชั้นสูงสุด ชั้นที่ 9 อย่างนี้ ก็ย่อมให้ประสบการณ์เชิงสัมผัสด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมือนสภาพทั่วไปบนพื้นโลก
หลังจากออกจากหอพระธาตุแล้ว ท่านก็นำคณะของผมไปกราบนมัสการหลวงพ่อ พระราชปริยัติเมธี ซึ่งเพียงได้กราบก็ได้รับธรรมบารมีมากมายแล้ว ทว่า ไม่เพียงเท่านั้น ท่านได้นั่งคุย ให้หลักคิด และกล่าวเสริมพลังใจในการกลับออกไปทำหน้าที่และดำเนินชีวิตให้ดี มากมาย
ผมและคณะ จึงเดินทางกลับด้วยความอิ่มปีติ เป็นการให้รางวัลแก่ตนเองโดยไม่ได้คาดหมายกันว่าจะได้ทุกสิ่งอย่างอันสุดประมาณอย่างนั้น เพราะแต่เดิม ต้องการกราบพระหลังเลิกงาน เพื่อเยี่ยมเยียนและหามงคลใส่ตัวกันก่อนเดินทางกลับเท่านั้น.
-----------------------------------------------------------------------
(1) โครงการพัฒนาเครือข่ายด้านสุขภาพร่วมต้านภัยบุหรี่ ดำเนินการภาคปฏิบัติการในชุมชน ในพื้นที่ตัวอย่าง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยกองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนโดยองค์การอนามัยโลก และโครงการวิจัยประเมินและถอดบทเรียนแบบเสริมพลัง ดำเนินการเป็นอีกมิติหนึ่งของโครงการ โดยสถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล สนับสนุนโดย ศจย : ศูนย์จัดการความรู้เพื่อควบคุมและป้องกันการบริโภคบุหรี่และยาสูบ และกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) เป็นโครงการแบบบูรณาการและดำเนินการแบบความร่วมมือของเครือข่ายพหุภาคี (Collaboration and Multisectoral Networking) มีระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี ระหว่างกันยายน 2551- มิถุนายน 2552
(2) พระราชปริยัติเมธี (2546) ประวัติเมืองขอนแก่น ของดีเมืองขอนแก่น วิถีชีวิตชาวบ้าน ฮีตสิบสอง คองสิบสี่. ขอนแก่น : วัดหนองแวง พระอารามหลวง.
(3) ในทางศิลปะ ก็มีการทำงานศิลปะประเภทหนึ่งที่ประมวลผลสภาพแวดล้อมและจัดแสดงงานขึ้นอย่างฉบัพลัน ให้ผู้ชมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงงาน สามารถเข้าถึงอารมณ์ร่วม และได้สุนทรียภาพความเป็นศิลปะภายใต้เงื่อนไขแวดล้อมจำเพาะในชั่วขณะนั้นๆ ด้วยตนเอง เรียกว่า ศิลปะแบบฉับพลัน (Happening Art)
(4) ผมเคยมีประสบการณ์คล้ายกันอย่างนี้ ทว่า เป็นอีกแบบหนึ่ง ระหว่างการทำสมาธิแบบอาณาปนสติเมื่อหลายปีมาแล้ว โดยได้อารมณ์กรรมฐาน ที่โปร่งเบาเหมือนกับตัวลอยล่องอยู่กลางอากาศแล้วก็เห็นแต่หน้าพระพุทธรูปลอยอยู่เบื้องหน้าอยู่ตลอดเวลา จะเดิน นั่ง นอน ก็เข้าสู่อารมณ์นั้นได้ง่ายๆอยู่ตลอดเวลาจนไม่อยากออกไปทำอย่างอื่นแม้แต่กินข้าว ต่อเนื่องอยู่สองสามวัน จากนั้น ก็ไม่เคยมีจิตละเอียดและความสงบใจพอที่จะเข้าสู่อารมณ์กรรมฐานอย่างนั้นได้อีกเลยนับเป็นสิบปี
· ขอเพิ่มเติมต่อจากอาจารย์นะคะ ......
· ภาพของ พระมหาธาตุแก่นนคร อนุสรณ์สาธุชน คะ .....
พระมหาธาตุแก่นนคร อนุสรณ์สาธุชน
วัดหนองแวง พระอารามหลวง
บุษบก 9 ยอด
ทำด้วยไม้มงคล 4 อย่าง
(แก่นขาม แก่นขนุน แก่นคูณ และแก่นยอ)
ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
วันนั้นปลื้มปิติมากๆ อย่างที่อาจารย์กล่าวจริงๆ คะ
ลบออกให้แล้วครับ ขอบคุณ อ.ณัฐพัชร์มากเลยที่ช่วยนำภาพพระมหาธาตุมาต่อเติมให้ ทำให้คนอ่านเห็นภาพรวมได้ดีขึ้นครับ มุมถ่ายภาพสวยด้วยครับ
สวัสดีครับ พี่ ลืมซอย ๖ หรือยังครับ เรายังคิดถึง อยู่เสมอมา ทราบว่าย้ายไปสิ่งแวดล้อม ใช่ไหม
ข่าวเร็วจริง กำลังขอไปอยู่ที่คณะสังคมแน่ะ ไม่ใช่คณะสิ่งแวดล้อมฯ ไม่มีอะไรแปลกต่างไปกว่าที่เดิมหรอก แต่อยากออกไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว ก่อนไปเลยอยากเปลี่ยนอริยาบทไปทำวิจัยและทำประสบการณ์วิชาการกับทีมอาจารย์อีกทีมหนึ่งที่ต่างออกไปจากเดิม จะเอาไปใช้ทำงานและเป็นเครือข่ายทำงานกันในอนาคตน่ะครับ
ขอเจริญพร
กราบนมัสการด้วยความเคารพ