วันนี้หลังจาก เจ็บใจจากการจ่ายสินค้าที่ผิดไป ทำให้หงุดหงิด เสร็จก็เดินทางกลับบ้าน และทำการเลือกตั้งล่วงหน้า การเลือกตั้งสมาชิควุฒิสภา ในจังหวัดพิจิตร ซึ่งพอไปถึง เจ้าหน้าที่ก็ให้ทำการกรอก ความประสงค์ถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าว่าเพราะเหตุใด เราก็ชี้แจงไปตามเป็นจริง รู้ไหมคะว่าดิฉันเดินเข้าไปยื่นบัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไม่รู้เลยว่า เค้ามีผู้สมัครกี่ท่าน และใครบ้าง จึงถามเจ้าหน้าที่ว่า มีผู้สมัครสมาชิควุฒิสภากี่ท่านคะ เจ้าหน้าที่ก็บอกมาว่า 9 ท่าน ดิฉันก็ งง เป็นไก่ตาแตก (จะรู้ไหมเนี่ย 9 คนชื่อไรบ้าง) เป็นใคร จึงขอเจ้าหน้าที่ยื่นหน้าออกไปดูว่ามีใครลงสมัคร พออ่านดูชื่อเห็นประวัติ ก็ตามใจเรา ประทับตาลงไป ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้เลยว่าใคร แบบนี้ เราจะติดตาม เพื่อแจ้งข่าวสารอย่างไร แล้วเค้าจะทำหน้าที่ตรวจสอบแทนเราได้มากน้อยเพียงได้อ่ะคะ
ใครรู้เรื่องการเมืองช่วยหน่อยนะคะ
ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็น..
ว่าที่ ส.ว. ที่ "คนเขียนข่าว" เลือกไปนั้น จะปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ต้องรอผลการเลือกตั้งว่า ได้หรือไม่ได้เป็น ส.ว.ของจังหวัดที่ "คนเขียนข่าว" มีภูมิลำเนาอยู่
ส่วนหน้าที่ของ ส.ว. ที่จะต้องปฏิบัติ มี 4 ข้อใหญ่ ๆ คือ..
1) กลั่นกรองกฎหมาย
2) ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
3) เสนอแต่งตั้งคัดเลือกบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น กกต. ศาลปกครอง ฯลฯ
4) ลงมติถอดถอนนักการเมืองระดับชาติและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงให้พ้นจากตำแหน่ง
เหมือนกันครับ
จะกลับไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้าวันนี้ แต่ยังไม่รู้เลยว่ามีใครบ้าง
-*-
เพิ่งไปเลือก สว มาเช่นกันค่ะ
แต่ประสบการณ์ต่างกับคุณคนเขียนข่าวอยู่บ้าง
เพราะก่อนไปยื่นคำร้อง จะมีแผงรายนามคนสมัครให้ดู มีแผงรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกให้ตรวจสอบหน่วยเลือกตั้ง เลขที่บ้าน และลำดับของผู้มีสิทธิ
ในใบคำร้อง จะให้ระบุหน่วยเลือกตั้ง เหตุผลของการที่ไปขอใช้สิทธิล่วงหน้า
จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่กรองใบคำร้อง ซึ่งจะตรวจสอบความถูกต้องของใบคำร้อง และลำดับของผู้มีสิทธิ
ต่อไปคือมีเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนการใช้สิทธิที่เราต้องเซ็นชื่อ
แล้วถึงไปรับใบเลือกตั้งได้
จะเห็นได้ว่าขั้นตอนที่ดิฉันพบนั้นมีระเบียบปฏิบัติตามกฎหมาย
ไม่ทราบเหมือนกันว่าการที่คุณคนเขียนข่าวไม่ทราบผู้สมัคร เพราะไม่ได้อ่านประกาศที่ต้องมีในหน่วยเลือกตั้ง หรือว่าเพราะหน่วยเลือกตั้งนั้นไม่มีหรือไม่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายการเลือกตั้ง
หากเป็นประการแรกไม่อยากให้เจ้าหน้าที่กลายเป็นเหยื่อของอารมณ์จากความไม่รอบคอบของคนไปใช้สิทธิค่ะ แต่ถ้าหากเป็นประการหลัง น่าจะติงเตือนเจ้าหน้าที่ด้วย ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันและกันให้ทำสิ่งที่ถูกต้องค่ะ
ขอขอบคุณ อาจารย์ JC มากนะคะที่แสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลในการเลือกตั้ง สว.
ดิฉันก็ปฏิบัติตามที่อาจารย์ JC บอกเหมือนกันคะ แต่ขาดไปอยู่สิ่งหนึ่ง คือดิฉันไม่ทราบถึงข้อมูลผู้เข้าสมัคร จึงไม่รู้ว่ารายนามผู้สมัครเป็นใครบ้าง สงสัยอาจเป็นเพราะว่าดิฉันทำงานอยู่ต่างจังหวัด อาจจะพลาดในการรับฟังว่ามีผู้สมัครกี่ท่าน และเป็นใครบ้างนะคะ
เป็นที่เข้าใจได้ว่า การอยู่ต่างจังหวัดหรือแม้แต่ในจังหวัด จะไม่ทราบ "ปูมหลัง" ของคนสมัคร (ซึ่งเป็นข้อที่คุณคนเขียนข่าวอยากระบาย) เพราะกฎหมายเลือกตั้งมีข้อห้ามการหาเสียงที่มากกว่าการสมัครผู้แทนราษฎร
การติดตามข่าวสม่ำเสมอก่อนเลือกตั้งจะช่วยได้ระดับหนึ่ง
แต่ถ้าไม่มีโอกาส การอ่านประวัติการทำงานก็ช่วยได้บ้าง แต่ต้องพิจารณาอยู่บ้าง เพราะคนประวัติยาวไม่ได้หมายถึงทำงานให้สังคมได้ดีกว่าคนเขียนประวัติสั้นๆ
สุดท้ายการไม่เลือกใครเพราะไม่ต้องการสะเปะสะปะ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
การเลือกผู้แทนเป็นความรับผิดชอบของประชาชนที่ต้องติดตามและทำการบ้านด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะมีคนชอบมาเฉลยข้อสอบหรือให้รางวัลการตอบล่วงหน้าก็ตาม