ความทรงจำ..หรือ..ตำนาน
ณ หมู่บ้านกรือเซะ
แม่ครับ...แม่ครับ...แม่คร้าบๆๆๆๆๆๆๆ (ฮาบีฟเด็กน้อยอายุ 6 ขวบละเมอสุดเสียง)
เป็นอะไรฮาบีฟ ลูกละเมออีกแล้วใช่ไหม? (แม่ถาม)
แม่ครับ!หมู่บ้านของเราเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกจึงฝันเห็นผู้คนนอนตายกลาดเกลื่อนเต็มไปหมด หนึ่ง ในนั้นก็มีพ่ออยู่ด้วย แม่ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยเถอะครับ ผมจะได้ไม่ต้องเป็นอยู่แบบนี้ทุกๆคืน
...เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 หมู่บ้านเราเหมือนโดนคำสาบ มีเยาวชนมุสลิมได้ปะทะกับกองกำลังทหารตำรวจที่มัสยิดกรือเซะ เหตุการณ์ในวันนั้นมีผู้คนล้มตายมากมาย พ่อบอกแม่ว่า “พ่อจะไปเข้าเฝ้าอัลเลาะฮฺ”พ่อไปละหมาดซุบฺฮิที่มัสยิดแล้วพ่อก็ไม่กลับมาอีกเลย ความตายในวันนั้นไม่มีใครให้คำตอบได้เว้นแต่อัลเลาะฮฺผู้ทรงสร้างเรามาเท่านั้น เพราะฉะนั้นลูกต้องเคารพและภักดีต่อพระองค์ให้มากๆ เพื่อที่ว่าวันหนึ่งลูกจะได้ไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์...
ครับแม่! ลูกจะทำอีบาดะฮฺให้มากๆ ลูกจะได้ไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์
หลังจากวันนั้น ฮาบีฟก็หลุดพ้นออกมาจากภวังค์แห่งความฝันที่ไม่อาจบอกได้ว่าเป็น “ความทรงจำหรือตำนาน”
28 เมษา สองพันสี่
คือวันที่ต้องจดจำไป่แปรผัน
ร้อยเจ็ดศพจบลงเรียงรายกัน
มิมีวันประวัติศาสตร์จะลืมเลือน
“กรือเซะ” นี้คงจะเป็นเช่นตำนาน
ชนกล่าวขานความชั่วร้ายหาใดเหมือน
หลากปัญหาสารพันคอยย้ำเตือน
ความบิดเบือนหรือถูกต้องที่ทำไป
เสียงดัง “ปัง” กู่ก้องอยู่ในหู
สอนให้รู้สิ่งดีชั่วเป็นไฉน
ทุกสิ่งที่ก่อเกิดขึ้นเหตุผลใด
คืออะไรบอกด้วยช่วยตอบที
อดีตแสนเจ็บปวดให้พ้นผ่าน
สิ่งวันวานจำใส่ใจอย่าหน่ายหนี
เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นเช่นเวที
สร้างคนดีหรือคนชั่วตรึกไตร่ตรอง
ภาพเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นแค่การตัดสินเพียงแค่สายตา
อาจนำพาห้วงเวลาแห่งความขัดแย้งที่จะทิ่มแทงความรู้สึก
ฉุกคิดสักนิด สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นคืออะไร...ใคร ใคร ใครช่วยตอบผมที
คารวะทุกจิตวิญญาณจาก กรือแซะๆ
ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำหรือตำนาน...
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นและร่องรอยที่ยังคงเหลืออยู่ในวันนี้...
ก็จะเป็นอนุสรณ์ให้พวกเราได้ระลึกถึงต่อไปอีกยาวนานครับ...
อืมใช่ค่ะเปนความจริง และมีอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จริงๆไม่ใช่ความจิงหรอกที่เขาสาปแช่งและแม่ลิ่มกอเหนี่ยว ก้อไม่ได้ตายที่ต้นหิมพานที เรื่องเล่ามีอยุ่ว่า
มีชายคนหนึ่ง ชื่อว่าลิ่มโก๊ะเลี่ยว เขาเปนคนจีน เขามาขายสำเภาที่นครศรีธรรมราชจากนั้น ลิ่มโก๊ะเลี่ยมได้ลงมายังภาคใต้ซึ่งที่นั้นเปนจังหวัดปัตตานีและเขาก้อขายสำเภาต่อมาเขาได้พบกับพระยาตานีวึ่งเปนพระธิดาของจังหวัดปัตตานีต่อมาลิ่มโก๊ะเลี่่ยมจึงถูกโชคและเขาได้ขอพระยาตานีแต่งงานและเสด็จพ่อของพระยาตานีจึงไม่ยองจึงขอไห้ลิ่มโ๊ะเลี่ยมได้พิสูจว่ารักจริงรึป่าวและไห้เข้าศาสนาอิสลามจากนั้นลิ่มโก๊ะเลี่ยมจึงทำตามที่สั่งไว้ จากนั้นเขาได้แต่งงานกัน และ มารดา และน้องสาวของ ลิ่มโก๊ะเลี่ยมจึงเกิดสงสัยว่าทำไมเดือนนั้นไม่กลับมาและมารดาจึงส่งไห้น้องสาวตามหาพี่ชายกลับมา แล้วต่อมา ลิ่มโก๊ะเลี่ยม ได้สร้างมัสยิด แล้วน้องสาวเจอพี่ชาย จากนั้นน้องสาวที่ชื่อว่าลิ่มกอเหนี่ยว ได้ขอร้องไห้ พี่ชายตนกลับไปเมืองจีนจากนั้น พี่ชายไม่ยอมกลับ น้องสาวขอร้องหลายหนแล้วพี่ชายไม่ยอมฟังจากนั้น ลิ่มกอเหนี่ยวก้อได้เดินเข้าไนป่าและเจอนำ้ทะเล ที่หลังตำบลบานา ซึ่งไกลมากก จากนั้นแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจึงเดินไปไนนำ้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ทะเลและก้อได้ตายตรงนั้น และก้อมีคนพบเห็นศพของนางจึงไปฝังศพที่ใกล้มัสยิด และถึงปัจจุบันหลักฐานตรงนั้นยังมีอีก
และทำไมจึงไม่เอาความจริิิิิิิิิิิิิิิิิิิงมาหล่ะ
เพราะจะทำไห้การท่องเที่ยวเราขัดข้องคนต่างชาติก้อไม่มาสิ
อ๋อเข้าใจแล้ว ที่มัสยิดกรือเซะเปนแบบนั้น เพราะว่า เกิดเหตุการณ์ทะเละกานใช่มั้ย
อืมใช่แล้วและ การต่อสู้ของเมื่อก่อนถ้าเกิดว่าใครแพ้ตรงนั้นต้องเผ่า และก้อเปนเหมือนกับมัสยิดกรือเซะนี่แหละ แต่มัสยิดกรือเซะไม่ได้ แพ้ แต่พวก เขาอิจฉา จึงเผ่ามัสยิด และตอนนั้นมัสยิดได้เสร็ดแล้ว เรื่องเล่นนี้มาจากคนปัตตานี ผู้อธิบายมีสองคนค่ะ
แล้วทำไม เขาจึงเอาต้นนั้นไปตั้งที่ศาลล่ะ
ก็เพราะว่า อยากไห้เรื่องนั้นเกิดเปนความจิงไง
อืมเข้าใจแล้วล่ะ งั้นเราไปก่อนน่ะค่ะ เรื่องทั้งหมดนนี้เปนเรื่อง ของแถวนั้นเล่ารือกันมาค่ะ และครั้งนี้พวกเราไปก่อนน่ะค่ะ
วัสลาม