ปล่อยวาง >> ทางออก ..


".. เป็นเพียงสื่ออย่างนึงที่ผู้อ่านสามารถ แยกแยะ ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นได้"

หลายครั้งทีเกิดปัญหา คนเรามักจะมองแต่ที่มา ของมันเสมอ อันที่จริง .. ชีวิตคนเราก็มีแค่นี้ เกิดแก่ เจ็บ >> สุดท้ายก็ ล้มหายตายจากกัน คุณค่าที่แต่ละคนจะหยิบยื่นให้กับตัวเอง  มันจึงมีแนวทาง รูปแบบ และประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เชื่อเสมอ ไม่มีใครดีเยี่ยม ประเสริฐสุด และไม่มีใครเลยที่จะ ชั่วได้อย่างไร้แล้วซึ่งความดี ตอนนี้กำลังสับสน ว่าอะไรคือ "ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี"

การที่คนเราจะแสดงออกซึ่งความคิดเห็น แบบเปิดเผย โดยมีข้อเท็จ-จริง ส่วนหนึ่ง และข้อลงลึกไปถึงความคิดเห็น ความรู้สึก ?? การศึกษาไทย มักจะสอนให้ เด็กเชื่อครู ฟังครู ก้มหน้าก้มตา ท่องจำ แบบจำใจ ไม่มีสิทธิ์จะท้วงตึง หรือแม้แต่การตั้งทำถาม ไม่ต่างกัน ชีวิตการทำงาน  ตอนนี้ .. บริบท มันบีบ บังคับ ให้หลับหู หลับตา หลีกเลี่ยงซึ่งการตีแผ่ความจริง จนรู้สึกว่า การปล่อยวาง ละมั้ง? คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

หลายท่านอาจยังงง ;ว่า.. วันนี้ผู้เขียนไม่ได้เล่ากล่าวเป็นเรื่องราว อาจเป็นเพราะ กำลังมองหาซึ่งทางออกอยู่ เหมือนการถูกจำคุก ทางความคิดเห็น ถูกต้อง.. ประเด็นมันเรื่องเล็กน้อย แต่ที่นำมาเล่าขาน ไม่ได้หวังเพื่อการประจาน กล่าว โทษให้ร้ายใคร เพราะมันไม่ใช่ จุดหมายสุดท้าย ของสังคม gotoknow และตัวผู้เขียนเอง แต่อย่างใด ยืนยันแบบผู้รู้ (ในเรื่องนี้นะคะ) อีกครั้ง.. ว่า มันไม่ใช่การโพสต์ด่า/ว่า ไร้สาระทั่วไปทาง internet แน่นอน แต่มันการ สือสารรูปแบบใหม่ นั่นคือ "การสื่อสารสองทาง"  อธิบาย ให้ทำความเข้าใจกัน..

เมื่อก่อนประชาชนถูกปิดหูปิดตามาตลอด การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ยากเย็นแสนเข็ญ จนมีช่วงนึงที่ มีการนำเสียงเข้ามาใช้ นั่นคือวิทยุ ตามมาด้วยภาพ ผ่านทางโทรทํศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง-ต่าง แต่ละอย่างก็จะมีกระบวนการและการเล่าขานถึงเรื่องราว และใส่ข้อคิดเห็นไปในนั้นเช่นกัน แต่มันไม่สามารถโต้ตอบได้ จนปัจจุบัน รายการวิทยุ โทรศัทย์ มักเปิดกว้างให้ผู้ชมทางผ่านแสดงซึ่งความคิดเห็น และ สิ่งที่กำลังทำอยู่ก็เช่นกัน ผู้เขียนมั่นใจว่า "เป็นเพียงสื่ออย่างนึงที่ผู้อ่านสามารถ แยกแยะ ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นได้"

ปลายทาง.. ที่ผู้เขียนอยากให้เกิดขึ้น นั้นคือ การมองภาพกว้าง มองว่าทุกอย่างมันไม่ได้มีเพียงโค้งครึ่งวงกลมที่คิดและฝังจิตฝังใจเอาว่าทุกสิ่งในนั้นเป็นของตนซะทั้งหมด..  แต่ความจริงแล้วโลกมันเป็นทรงกลมต่างหาก และโลกใบกลมกลมใบนี้ก็เป็นของทุกคน  คิดและทำประโยชน์เพื่อโลกใบนี้บ้าง อยากให้ผู้อ่าน ได้พิจารณา และลองตรึกตรอง มองในสภาวะการรู้ตัว ทั่วพร้อมที่ลุ่มลึก ไปยังการทำความเข้าใจในสมมติฐาน (Assumption) ของตนเอง+ของผู้อื่น และ “วาง” ไว้ ไม่ตัดสิน เพื่อสร้างให้เกิดกระบวนการไตร่ตรองความคิด(Reflection) ภายในบุคคลและเกิดกระแสการไหลของความคิดความเข้าใจ

สมมติฐานหรือข้อสมมติฐาน (Assumption) หมายถึงสิ่งที่ตั้งขึ้น สร้างขึ้น กำหนดขึ้น สะสมขึ้นด้วยตนเอง ทั้งที่โดยอัตโนมัติตามกลไกทางธรรมชาติแห่งบุคคล หรือโดยเจตจำนงเฉพาะ เทียบเคียงกับกรอบความคิด-กรอบอ้างอิง (Frame of Reference) รูปแบบของความคิดจิตใจ (Mental model) หรือที่เรียกในชื่ออื่นๆ โดยนัยใกล้เคียงกัน ในบางแง่มุมอาจคล้ายกับความคิดเห็น (Opinion) และมุมมอง(Perspectives) ที่เกิดขึ้นแบบชั่วครั้งชั่วคราว หรือความเชื่อ (Belief) ที่สะสมตัวอันยาวนาน โดยใช้หลายมุมมองที่แตกต่างตามที่นำเสนอออกมา ดังนั้น ผู้อ่าน ที่เข้ามาสัมผัส เปิดใจ มีการวิเคราะห์และแยกองค์ประกอบ ก็จะมองเห็นถึงแนวคิดแนวทางและท้ายสุดก็คือ >> การใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจรับสื่อนั้นไป

ปล. เมื่อเที่ยงรู้สึกปวดหัวนะ ตึงๆ เหมือนสมองส่วนที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ มันหายไปหมด ยังดีที่มีแม่ >> ท่านมาทานข้าวเที่ยงกับลูกสาวขี้แย คนนี้  "ยามเราสุข ไม่รู้ซึ้งถึง คุณ "เขา" ยามเราเศร้า มีเพียง "เขา" ที่ปลอบโยน ยามเราเจ็บ เจอเรื่องราวที่สับสน คนที่เรา >> "เรียกว่า..แม่" ไม่ห่างไกล...." มะกี้สามทุ่ม แม่โทรมาบอกให้นอนได้แล้วลูก แต่เราตั้งใจจะเขียนบันทึกให้เสร็จก่อน เหอ-เหอ เกือบหลับคาจอโน้ตบุ๊คไปเลยที่เดียวเชียว เอาน๊า มองว่ามันขำ-ขำ ไปแระกัน ^^

                                       วันที่ 30 มกราคม 2552 เวลา 24.30 น.       

                                  ณ ห้องนอน ห้องพักกาย+ใจ ของนักวิชาการ ขี้แย เหอ-เหอ

หมายเลขบันทึก: 238516เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2009 10:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • อ่านแล้วได้ข้อคิดหลายอย่างครับผม
  • คงปล่อยวางไม่ได้
  • ขอติดตามอ่านต่อไปนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณคุณบวร นะคะ ที่เข้าแลกเปลี่ยนความคิด

เอ้!! แต่ทำไม ถึงคงปล่อยวางไม่ได้ละคะ

ปล.ผู้เขียนก็ได้แต่พยายามพยามและพยาพยาม

เรายังเป็นทั้งผู้น้อย และผู้มาใหม่คะ

ยังไงก็สู้ต่อไปนะเพื่อนสาว

เค้าเห็นด้วย ไม่มีใครจะดีกับเราเท่าแม่อีกแล้ว

ไม่มีใครจะจริงใจไม่เคยโกหกหลอกลวงเท่าแม่และพ่ออีกแล้ว

การงานก็เช่นกัน มาจากคนละพ่อคนล่ะแม่ความคิดหรืออะไรหลายๆๆอย่างมักไม่ตรงกัน

เพราะฉะนั้นเราจงอย่าใส่ใจสิ่งที่เลวร้าย จงมองข้ามมันไป

แล้วก้าวผ่านไปออกไป เราจะเจอสิ่งที่ดีกว่า

สู้ๆจ้า

ขอบใจมากนะ คุณเพื่อน Okika

ทุกวันนี้ที่ยืนได้

ก็เพราะมีแม่อยู่ข้างๆกายนี่แหละ

แวะมาให้กำลังใจครับผม, อย่าลืมว่ายังมีผมก็น้องการ์ฟิลด์น้องดิ่งกี๋ ด้วยน้า อิอิ...

เข้ามาทักทาย ให้กำลังใจกันครับ ชีวิตคนมีสองด้านเสมอ แล้วแต่ว่าเราจะจัดการกับชีวิตแต่ละด้านอย่างไร แต่เชื่อมั่นเถอะครับว่า....ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ เพียงแค่หมั่นเติมกำลังใจให้กับหัวใจตัวเอง แล้วก็จะผ่านพ้นปัญหาต่างๆนั้นไป ด้วยความมั่นคง "จงเงียบ ฟัง และเรียนรู้จากมัน"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท