จากท่าตอน สู่เชียงราย ๒


"ผมจบปริญญาตรีช่วยคนได้เท่านี้ แล้วถ้าจบปริญญาโทละจะช่วยเหลือชาวบ้านได้มากแค่ไหน"

             จากที่ได้เขียนบทเริ่มต้นของจุดเกาะเกี่ยวระหว่างผมกับบ้านท่าตอนในบทความเรื่อง "จากท่าตอน สู่ เชียงราย ๑" ไปแล้วนั้นในส่วนของบทความนี้ก็จะขอกล่าวถึง "สิ่งที่บ้านท่าตอน ให้กับตัวผม"

             การเรียนรู้นั้นมีได้หลากหลายแนวทาง แต่การเรียนรู้ที่สำคัญผมว่ามันคงอยู่ที่เราได้พบเจอกับสิ่งที่เราอยากเรียนรู้นั้นมากแค่ไหน การที่ผมได้ไปที่บ้านท่าตอนนั้นเป็นการที่ผมได้เปิดรับเอาการเรียนรู้ในเรื่องการทำงานด้านกฎหมายสิทธิและสถานะบุคคลเข้าเป็นหนึ่งในองค์ความรู้ที่จะสามารถนำไปใช้ในการทำงานในวิชาชีพกฎหมาย

             สิ่งอะไร ? ที่ได้เรียนรู้จาก บ้านท่าตอน

             คำถามนี้จะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นจากทำไมจึงต้องเขียนว่า "จากท่าตอนสู่เชียงราย" ชาวบ้านอำเภอแม่อาย ๑,๒๔๓ คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำอันพลาดของทางหน่วยงานราชการของรัฐ ที่ได้ไปถอนรายชื่อเหล่านั้นออกจากระบบการทะเบียนราษฎร พวกเขาได้รับความเจ็บปวดขนาดไหนมีใครบ้างที่จะเข้าใจ ลองว่าท่านผู้อ่านได้นอนหลับในคืนหนึ่งซึ่งคืนนั้นท่านยังคงมีสัญชาติไทย ที่จะมีสิทธิทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการศึกษา,การรักษาพยาบาล,การเดินทาง ฯลฯ แต่พอมาตอนเช้าท่านตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองนั้นเสียสิทธิไปแล้วหมดทุกอย่าง จะทำอะไรก็ไม่ได้ มีเพียงสิทธิอย่างเดียวที่ท่านมีในตอนนั้นคือ "สิทธิในการมีลมหายใจ" คงไม่มีคำพูดใดที่จะสื่อสารได้ว่าท่านจะรู้สึกเจ็บปวดเพียงไหน...

            และนั่นก็คือสิ่งที่ชาวบ้านอำเภอแม่อาย ที่พวกเขาพยายามสะท้อนออกมาให้แก่พี่น้องชาวไทยผู้เป็นเพื่อนร่วมประเทศได้รับรู้และเข้าใจ สิ่งนี้ที่เป็นกระบวนการเริ่มต้นการเรียนรู้ที่มันเปลี่ยนชีวิตนักศึกษากฎหมายเป็นนักสิทธิมนุษยชนในทางอ้อม

            เมื่อครั้นที่ผมผูกพันกับบ้านท่าตอน มันเป็นความผูกพันที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหน ทุกครั้งที่รู้ว่าตัวผมจะต้องไปเก็บข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่บ้านท่าตอน จะไม่มีคำพูดออกจากปากผมว่า "ไม่ว่างหรือติดงานอะไร" อย่างใดๆเลย มีแต่คำถามกับอาจารย์ว่าจะให้เก็บเรื่องอะไรกับใครและวิธีการเก็บจะเก็บอย่างไร และทุกครั้งที่จะต้องเดินทางแม้ระยะทางที่จะไปถึงจากเชียงใหม่สู่บ้านท่าตอน อำเภอแม่อาย นั้นจะไกลเกือบๆ๒๐๐ กิโลเมตร ก็ตามแต่ทุกครั้งไม่มีความเหนื่อยล้าอย่างไรเลยที่จะมาทำให้ผมรู้สึกท้อใจเมื่อต้องเดินทางมาที่บ้านท่าตอนนี้เลย

               มูลเหตุ "จากท่าตอน สู่เชียงราย"

             อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ว่าที่บ้านท่าตอนนั้นเป็นแหล่งการเรียนรู้ชั้นเลิศสำหรับนักกฎหมาย ที่ต้องการอยากจะเรียนรู้วิถีของชาวบ้าน ก็ต้องกล่าวไว้ในจุดนี้ว่าบางกรณีชีวิตคนเราก็พลิกได้เหมือนกันไม่จำเป็นที่จะต้องรอ "ฟ้าลิขิต" พูดแบบนี้นึกถึงเพลง "ชีวิตลิขิตเอง" และนั่นแหละเมื่อเราได้ลิขิตตัวเองแล้วเราจะไปทางไหนละ ตรงจุดนี้เมื่อผมได้จบการศึกษาเป็นนักกฎหมาย(ยังไม่ใช่ทนายความนะครับ) ก็ไปเดินตามความฝันตัวเองได้ไม่นาน ก็กลับมาเรียนต่อในระดับปริญญาโท ในคณะเดิมและมหาวิทยาลัยเดิม จุดประสงค์ที่มาเรียนเพราะอะไร "ผมจบปริญญาตรีช่วยคนได้เท่านี้ แล้วถ้าจบปริญญาโทละจะช่วยเหลือชาวบ้านได้มากแค่ไหน" นี่ละเหตุผลที่มาเรียนปริญญาโทต่อ หัวข้อวิทยานิพนธ์ของผมในครั้งแรกก็ตั้งไว้ที่ "ปัญหาสถานะบุคคลของคนที่เกิดในพื้นที่ทับซ้อน" ซึ่งต่อมาทางท่านอาจารย์แหวว ก็บอกให้ลองเปลี่ยนไปทำในหัวข้อ "ปัญหาบุคคลตกหล่นทางทะเบียนราษฎร"

             หัวข้อเรื่อง "ปัญหาสถานะบุคคลของคนที่เกิดในพื้นที่ทับซ้อน" เกิดขึ้นจากที่บ้านท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงราย เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดการถอดถอนทางทะเบียนราษฎรนั้น ส่วนสำคัญก็มาจากการที่มีกลุ่มบุคคลที่เคยไปเกิดและอาศัยอยู่ที่ บริเวณ "สบยอน" หรือก็คือบริเวณที่แม่น้ำยอนมาบรรจบกับแม่น้ำกก ซึ่งตรงพื้นที่นั้นในอดีตที่ผ่านมามันเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านบ้านท่าตอนจึงได้มีการเข้าไปทำมาหากินอยู่บริเวณนั้น ซึ่งชาวบ้านจะมีบ้านอยู่ที่บ้านท่าตอน แต่คนกลุ่มวัยทำงานจะเดินทางเข้าไปทำงานที่พื้นที่ "สบยอน" และพอมีผลผลิตออกมาก็จะนำผลผลิตออกมาขายที่บริเวณบ้านท่าตอน และก็จะซื้อข้าวของเครื่องใช้กลับไปพักอาศัยอยู่ที่สบยอน เพราะฉะนั้นแล้วที่บ้านท่าตอนจึงมีเพียงแต่ ผู้เฒ่าผู้แก่กับเด็ก ด้วยเหตุนี้เมื่อในปี 2500 เริ่มมีการสำรวจทางทะเบียนราษฎร ชาวบ้านกลุ่มนั้นจึงตกหล่นจากทะเบียนราษฎร

              และทั้งนี้เมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๔ ได้มีการเข้าโจมตีจากกลุ่มโจรป่าที่บ้านสบยอนจึงทำให้ชาวบ้านที่ได้อาศัยอยู่บริเวณนั้นต้องหนีภัยความตายกลับมาที่บ้านท่าตอน และทั้งนี้ปัจจุบันยังไม่มีการปักปันเขตแดนบริเวณดังกล่าว จึงทำให้บริเวณ "สบยอน"นั้นตกเป็นพื้นที่ทับซ้อน

              นั่นละเป็นเหตุให้ผมอยากจะทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ "สถานะบุคคลของคนที่เกิดในพื้นที่ทับซ้อน" ก็มาจากบ้านท่าตอน

คำสำคัญ (Tags): #บ้านท่าตอน
หมายเลขบันทึก: 236535เขียนเมื่อ 21 มกราคม 2009 15:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 13:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อื้ม แน่จริงๆ เพื่อนผมเองคร๊าาาาบ

สวัสดีค่ะ

* ยิ่งอยู่สูงยิ่งช่วยไม่ได้เลย  เห็นเยอะเกินไปเลยมึนมั้งคะ

* ยังดีที่ได้รับสิทธิ์มีลมหายใจ...

* เป็นกำลังใจให้ค่ะ

* สุขกายสุขใจนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท