จิ๊กซอว์ความรู้


KM ในความหมายของผู้เขียน

ผู้เขียนลองตั้งคำถาม ในทัศนะของผู้เขียน ณวันนี้ ปัจจุบันนี้ และขณะนี้ ถามตนเองว่ารู้จัก KM แค่ไหน อาจจะผิด ๆ ถูก ๆ แต่อยากจะบันทึกคำตอบของตนเองไว้ ว่ารู้แค่ไหน อย่างไร   เผอิญผู้เขียนเป็นคนชอบต่อจิ๊กซอว์ซะด้วยสิ เพราะเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง!!!! เลยขอเปรียบเทียบ KM กับจิ๊กซอว์ที่ผู้เขียนชอบสักหน่อยเถอะ

 

            KM ก็คือ Knowledge management ตามตัวก็คือการจัดการความรู้ จัดการอย่างไรล่ะ ก็หากเรารู้อะไรก็ตามแต่ ก็ควรจะถ่ายทอดความรู้นั้นให้กับคนอื่น ๆ ได้รับรู้ ได้นำไปใช้ประโยชน์ ต่อยอดความรู้  แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สุดท้ายก็จะได้มาซึ่ง Best practice และ Best practice ที่ได้ในวันนี้ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในวันหน้า หรือต่อ ๆ ไป การจัดการกับความรู้นั้นก็มีหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำคู่มือ เขียนหนังสือถ่ายทอดเรื่องราว หรืออาจบันทึกโดยการใช้ Blog เป็นเครื่องมือ

           แล้วในความคิดของผู้เขียนก็ขอเปรียบความรู้เสมือนกับภาพจิ๊กซอว์ที่ยังไม่ได้ต่อ กระจัดกระจายอยู่อย่างนั้น และภาพจิ๊กซอว์ก็จะมีหลาย ๆ ภาพ นั่นก็คือความรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ  ซึ่งก็คงไม่มีใครจะเป็นผู้รอบรู้ไปได้หมดทุกเรื่อง และการจัดการความรู้ก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ก็แล้วแต่ใครจะเริ่มต่อจากอะไร อย่างไร เพื่อที่จะได้ภาพที่สมบูรณ์ สวยงาม อย่างผู้เขียนเริ่มที่จะต่อจากขอบก่อน บางคนก็ชอบต่อมุม  ต่อรูปคน ต่อรูปสัตว์ รูปวิวก็ตามแต่ใจที่ยังไม่ได้นำมาต่อ ๆ กันก็จะได้เปรียบเป็นความรู้ในเรื่องหนึ่งเรื่องใด ซึ่งในขณะนี้จิ๊กซอว์ของผู้เขียนนั้นยังเว้า ๆ แหว่ง ๆ อยู่ และมีอยู่ไม่กี่ภาพ เนื่องจากไม่ใคร่จะใฝ่รู้เท่าใดนัก ? 

             แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเราทุกคนมีความรู้อยู่กับตัวกันทุก ๆ คน แล้วแต่ว่าใครจะเลือกจัดการอย่างไรเท่านั้นเอง

หมายเลขบันทึก: 23627เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2006 20:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
อ่านบันทึกนี้แล้ว เชื่อ!ได้เลยค่ะ ว่าต่อจิ๊กซอว์ความรู้ภาพนี้เสร็จในเร็ววันแน่นอนค่ะ
เทคนิคการต่อจิ๊กซอว์ให้สำเร็จโดยเร็ว คือช่วยกันต่อหลายๆคน ช่วยกันหยิบ ช่วยกันเลือก และทุกคนก็มองไปที่ภาพต้นแบบเดียวกัน เน้น! ช่วยกันต่อ ไม่ใช่แย่งกันต่อ (ไหมคะ?)
ใช่ค่ะ พี่เม่ย เรา ๆ ทุกคนต้องช่วยกันต่อค่ะ ถึงจะได้ภาพที่สมบูรณ์และสวยงาม หรืออาจจะแย่งกันต่อก็ได้น๊ะค๊ะ ภาพจะได้เสร็จสมบูรณ์เร็ว แต่ดีกว่าไม่มีใครช่วยต่อเลย เพราะถ้าเราต่อคนเดียวก็อาจจะได้ภาพที่เว้าแหว่งเหมือนเดิมอยู่นั่นแหละ!!!

คุณศิริเรียนรู้ และเข้าใจ KM จากการการปฏิบัติจริง ไม่ต้องเรียนรู้ทฤษฎีมาก่อน ถือเป็น tacit knowledge ที่เกิดขึ้น ขอแอบภูมิใจกับความสำเร็จอันนี้ของภาควิชา เพราะเป็นความตั้งใจที่จะนำเรื่อง KM เข้ามาในภาคโดยให้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และอยากให้เป็น competency ของทุกคนในภาควิชา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท