บันทึกจากสบเมย (1)


หากเข้าใจถึงความยากลำบาก แล้วแทนที่ตัวเองด้วยการเป็นคนไร้สัญชาติที่ถูกปฏิเสธสิทธิต่างๆ เขาจะเผชิญกับความยากในการดำรงชีวิตอีกสักเท่าไร

บันทึกจากสบเมย (1)

วันที่ 6  มกราคม  2552

                 สายๆ ของวันที่ 6 มกราคม 2552 นักศึกษา ศิษย์เก่า และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จำนวน 22 ชีวิต นั่งรถส้มสายเชียงใหม่-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอนที่เช่าไว้มุ่งหน้าไปอำเภอสบเมย โดยมีนักศึกษาอีกจำนวนหนึ่งขับรถปิ๊คอัพตามไปสมทบ เรากำลังจะไปร่วมงานวันเด็กไร้สัญชาติที่นั่น

                .................................................                               

                เกือบปลายเดือนพฤศจิกายน 2551 มึดา* นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เข้ามานั่งคุยด้วยท่าทีไม่มั่นใจว่าอยากจะจัดโครงการวันเด็กไร้สัญชาติ ไม่ทราบว่าจะมีสตางค์อุดหนุนหรือไม่ ป้าต๊อกก็นั่งสัมภาษณ์ไปพักนึง จากนั้นให้ไปเขียนโครงการมา ซึ่งมึดาก็ทำเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว

                ในจุดมุ่งหมายหนึ่งที่มึดาบอก และป้าต๊อกก็ไม่คัดค้าน คือ อยากให้ผู้เข้าร่วมโครงการทราบและสัมผัสด้วยตัวเองถึงความยากลำบากในการเข้าพื้นที่รวมถึงการใช้ชีวิต คณะทำงานของเราจึงลำบากตั้งแต่การเดินทาง คือ รถส้ม พัดลม รับอากาศธรรมชาติเต็มที่ ลำบากในการใช้ชีวิต แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ 2 คืน 3 วันก็ตามที เพราะพวกเรานอนเต๊นท์ ไร้น้ำอุ่นให้อาบ ส่วนอาหารเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เคยชินกันนิดนึง ได้แต่บอกกันว่า เราไม่ได้กินอยู่อย่างนี้ชั่วชีวิตซะเมื่อไร


                หากเพื่อนพ้องน้องพี่เข้าใจถึงความยากลำบากดังกล่าว แล้วลองแทนที่ตัวเองด้วยการเป็นคนไร้สัญชาติ ที่ถูกปฏิเสธสิทธิต่างๆ มากมาย พวกเขาเหล่านั้นจะเผชิญกับความยากในการดำรงชีวิตอีกสักเท่าไร

                ....................................

                พวกเราไปถึงศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เวลาเกือบสี่โมงเย็น เด็กๆ ขนของลงจากรถ ขณะที่ป้าต๊อกไปนั่งคุยกับผู้อำนวยการศูนย์ฯ คุณสันติพงษ์  มูลฟอง หรือพี่หลวงของใครต่อใครหลาย คน พี่หลวงพูดถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้คร่าวๆ และยังกังวลว่าป้าต๊อกจะนอนเต๊นท์ได้จริงๆ หรือ ป้าต้องรีบยืนยันอย่างหนักแน่นว่าได้ (ถ้าแก่กว่านี้ก็ไม่แน่...ฮ่าๆ) 

                คืนแรก นักศึกษาหลายๆ คนรวมถึงป้าต๊อกด้วย เข้าใจว่าการนอนอยู่โดยได้ยินเสียงหวูดรถไฟตลอดคืนเป็นอย่างไร...เอิ๊กส์...ก็อาจารย์ดรัมเล่นนอนแบบมีเสียงซะขนาดนั้น งานนี้ มีเรื่องแซวอีกนาน

* อดีตเด็กไร้สัญชาติ เพิ่งได้สัญชาติไทยเมื่อกันยายน  2552

 

หมายเลขบันทึก: 234627เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2009 15:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ถ้าเป็น อ.แหววจะไม่อาบน้ำค่ะ

เสียดายไม่ได้กลับไปท่าเรือ

เราไปบ้านท่าเรือ กับ บ้านแม่คะตวน

ไม่ได้ไปดูงานหัวลำโพงนี่ครับ

ล้อเล่นนะครับ

ประทับใจมากครับ

โอกาสหน้าผมขอไปร่วมงานด้วยได้ไหมครับ

ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

อาจารย์แหววคะ

พอถึงตอนนั้นมันจะรู้สึกว่าต้องอาบน่ะค่ะ อาบตอนเย็น แต่ตอนเช้าไม่อาบ..อิอิ

คุณไม่แสดงตน

ป้าก็ว่าไม่ได้ไปอยู่แถวหัวลำโพง..ทำมั้ย..ถึงได้ยินเสียงหวูดรถไฟก็ไม่รู้..ฮ่าๆ

บัวจมน้ำ..นายโดดใช่มั้ย

ได้เลย..ขอให้แน่เต๊อะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท