ไปซอยไหนก็จะได้ยินเสียงและเห็นคนไทยเยอะมาก เหมือนไม่ได้อยู่ต่างประเทศเลย ภาษาที่สื่อสารก็เข้าใจกัน เงินที่ใช้ก็เงินบาท
วันที่ ๓ ในประเทศลาว เดินทางมุ่งสู่หลวงพระบางซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศลาว นั่งจากวังเวียงด้วยรถแวน ๑๑ ที่นั่ง ทำความเร็วได้ดีกว่ารถบัส เพราะช่วงสั้นคล่องตัวในการวิ่งเข้าโค้งดีกว่า ถึงหลวงพระบางในเวลาไม่เย็นนัก ลงรถที่ขนส่ง ติดต่อสองแถว ระยะทางไปในเมืองสอบถามได้ความว่า ๓ กิโล แต่ค่อโดยสารตกคนละ ๕๐ บาท กลายเป็นหมูในชามของเค้า เพราะพบคณะอื่นในตัวเมืองสอบถามเค้ามาได้ราคาต่ำกว่าอีก เดินหาที่พักเสร็จสัพก็เดินไปริมโขงเพื่อหาอาหารรับประทานกัน
มุมหนึ่งของแม่น้ำโขงตอนใกล้มืด
ริมโขงที่หลวงพระบางร้านค้าจะดูเป็นระเบียบและดูมีระดับมากกว่าที่เวียงจันทร์มาก เดินชมริมโขงไปเรื่อยจะมีผลไม้สิ่งของมาวางขายบ้าง เช่น ส้ม
ลองซื้อทานดูราคาเดียวกับเมืองไทย กิโลละ ๒๐ บาท แต่รสชาติไม่ค่อยดีนัก จากนั้นก็ไปทานอาหารเย็นกัน เมื่อทานอาหารเสร็จ ก็เดินชมหลวงพระบางยามราตรี ไปซอยไหนก็จะได้ยินเสียงและเห็นคนไทยเยอะมาก เหมือนไม่ได้อยู่ต่างประเทศเลย แม้รถบางคันก็ทะเบียนประเทศไทย แสดงว่านำรถมาเอง ภาษาที่สื่อสารก็เข้าใจกัน เงินที่ใช้ก็เงินบาท แม้จะมีสติกเกอร์รณรงค์ เมืองลาวไช้เงินกีบก็ตาม ทุกร้านที่ซื้อขายก็รับเงินบาท
ที่จะพลาดอีกไม่ได้ก็คือถนนคนเดิน ยามค่ำคืน แต่คนที่มาเดินหาซื้อของไม่มากเหมือน ที่เชียงใหม่ หรือที่ปาย
เดินถนนคนเดินดูสิ่งของโดยสอบราคาแต่ละร้านก่อนหมายตาไว้แล้วค่อยมาซื้อในคืนต่อไป เพราะอยู่อีกหลายคืนจึงไม่ต้องรีบ หลังเดินเสร็จกลับที่พักผ่อนนอนหลับ ไว้ลุยต่อในวันรุ่งขึ้น ซึ่งซื้อโปรแกรมทัวร์ไว้