วัยเด็กผ่านไป จดจำอะไรได้บ้าง


OVERCOME DIFFICULTIES OF LIFE

วันเด็กปีนี้ไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา  เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ทบทวนตัวเองในวัยเด็กและบันทึกไว้ใน Blog ของ G2K

 

จำได้ว่าเป็นเด็กที่ชอบเล่นน้ำฝน เป็นเด็กที่ไม่ซน แต่ช่างคิดจินตนาการ

เป็นเด็กที่ไม่ชอบอ่าน แต่ชอบเขียนและรียนรู้ด้วยตัวเอง

 

เป็นเด็กที่ไม่ชอบพูด แต่ชอบจุดประกายให้เพื่อน ๆ เป็นกำลังใจให้พวกเขามีความฝัน เพราะสมัยยังเด็กเรียนอยู่ในโรงเรียนต่างจังหวัด  ถามเพื่อน ๆ ว่าเรียนจบมัธยม จะเอนทรานซ์คณะอะไร  เรียกต่อที่ไหน คำตอบที่ได้ ส่วนใหญ่ คือชาวไร่ ชาวนา หรือขายของที่ร้าน น้อยนักที่จะตอบว่าจะเรียนต่อเพื่อเป็นนู้น เป็นนี่….

 

ฉันก็ถามเพื่อนว่า “ทำไม” ไม่อยากเรียนต่อ ทำไมไม่มีความฝันอะไรหรือ แล้วก็เล่าความใฝ่ฝันของตัวเองให้เขาฟัง ฉันอยากเป็นครูเหมือนพ่อ

อยากเรียนสูง ๆ มีความรู้มาก ๆ แล้วก็จะสอนให้เด็กเป็นผู้ใหญ่ที่ดีด้วย

 

ฉันพูดทุกวัน ๆ  ย้ำ ๆ ซ้ำๆ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเป้าหมาย จนเพื่อนหลายคนชักสนใจ ก็เริ่มมีความฝันบ้าง จนถึงวันนี้ ฉันก็เห็นความสำเร็จของเพื่อน ๆ แม้ไม่กี่คน  แต่ก็มาจากการ “ร่วมกันฝัน” และผลักดันให้ความฝันเป็นจริง

 

แต่สำหรับฉัน แม้ฝันจะไม่เป็นจริง คือไม่ได้เป็นครู หรืออาจารย์ จะด้วยเพราะโชคชะตาหรืออะไรก็แล้วแต่  สำหรับพ่อ ท่านภูมิใจในอาชีพฉันมาก ฉันจำได้ พ่อไม่เคยบังคับให้ฉันต้องเรียนเพื่อเป็นอะไร แต่พ่อบังคับในสิ่งที่ฉันได้เคยเล่าให้คนอื่นฟัง แล้วเขางงกัน

พ่อบังคับให้ฉัน (ตอนนั้น 7 ปี) เดินไปโรงเรียนระยะทางหลายกิโลเมตร  ทั้งที่เรามีรถและพ่อก็ต้องไปทำงานที่โรงเรียนนั้นอยู่แล้ว (เพราะพ่อเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน)

 

พ่อบังคับให้ฉันปลูกผักด้วยตัวเอง ให้ฉันรดน้ำ ให้ฉันพรวนดินทุกวันเด็กหญิงวัย 7-8 ปี ถือเสียม ถือจอบ(อยู่ในความดูแลของพ่ออย่างใกล้ชิด)

 

พ่อบังคับให้ฉัน ให้อาหารปลาในบ่อใหญ่มาก ๆ 2 บ่อ  

 

พ่อบังคับให้ฉันกินผักคะน้า ขม ๆ (ในความรู้สึกตอนนั้น) ซึ่งฉันไม่ชอบเลย

พออายุ 15 ปี พ่อก็บังคับฉันให้ไปปฏิธรรมที่วัด เป็นเวลา 7 วัน (ฉันกลัวผีมาก)

ช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง และนอนในซุ้มมุงจากคนเดียว..มืดๆ  วังเวงมาก...

 

ฉันไม่เข้าใจพ่อในวันนั้นต่อมา แม่ก็บอกฉันว่า “พ่อไม่ได้สอน ไม่ได้บังคับให้ฉันเป็นคนเก่ง แต่ “สอนให้ฉันเอาชนะความยากลำบากในชีวิต” 

 

                  OVERCOME DIFFICULTIES OF LIFE

 

การเดินทางด้วยเท้าตนเองระยะไกล ๆ เพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

 

การปลูกผักด้วยมือตนเอง เพราะเมื่อเติบใหญ่ คงไม่มีใครทำมาหาเลี้ยงให้เรา

 

การให้อาหารปลา เพราะว่าทุกชีวิตที่อยู่ในโลกเดียวกันล้วนมีค่า มีความหมาย ย่อมพึ่งพาอาศัยกัน ฉันเลี้ยงปลา แต่ฉันไม่เคยกินปลาที่ฉันเลี้ยง

 

การกินผักขม ๆ เพราะในชีวิตเราคงเลือกไม่ได้ที่จะได้ลิ้มรสแต่ความหวานชื่นอะไรที่มีประโยชน์มาก ๆ มักจะขมขื่นเสมอ

 

             การปฏิบัติธรรมในวันนั้น... ช่วยทำให้ฉัน "เข้าใจ" ในวันนี้

ลองทบทวนดูแล้ว…. สิ่งที่พ่อสอนมันครอบคลุมทุกอย่างในการดำเนินชีวิตของคนเรา ฉันเข้มแข็งฉันไม่เคยย่อท้อต่อความลำบากฉันมีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้ว ฉันย่อมเลือกทางเดินชีวิตได้ด้วยตนเอง

 

คำสอนของพ่อไม่ใช่คำพูด แต่แฝงนัยยะอยู่ในการปฏิบัติพ่อไม่ได้สอนให้ฉันเป็นคนดีเพราะคำพูดที่ว่า “จงเป็นเด็กดี” แต่พ่อทำให้ฉันเห็นว่าพ่อเป็นครูที่ดี ทั้งครูที่โรงเรียน และครูที่บ้าน

 

 

 แบบอย่างที่ดีมีความหมายยิ่งกว่าคำสอนใด ๆ

หมายเลขบันทึก: 234501เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2009 18:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

แวะมาทักทายครับ

อ่านแล้วก็แอบอิจฉาเล็กๆ

เพราะตัวผมเองห่างพ่อห่างแม่มาตั้งแต่เด็ก

สงสัยว่ารูปเด็กที่น่ารักคนนี้คือใครกันครับ

ใช่คุณ Sila Phu-Chaya หรือเปล่าน้า - :)

สวัสดีค่ะ

  • ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
  • ทำให้คิดถึงคุณพ่อขึ้นมาจับใจค่ะ
  • คุณพ่อ คุณแม่ของพี่บังคับให้อ่านหนังสือธรรมะ แต่พี่อ่านแล้วไม่เข้าใจ
  • เมื่อโตขึ้นก็ให้อ่านอีก ต้องอ่านทุกวันก่อนนอน ให้ฝึกสมาธิ สวดมนต์ยาก ๆ อ่านก็ไม่ออก
  • ภายหลังที่เรียนจบเป็นผู้ใหญ่ขึ้น  เห็นประสบการณ์ รู้จักสังคม และเริ่มศึกษาเรียนรู้ตัวเอง
  • ทำให้เข้าใจเรื่องที่คุณพ่อ คุณแม่บังคับ กว่าจะเข้าใจ..พี่คิมไม่มีโอกาสบอกท่านเลยแม้แต่คำเดียว "ว่าเข้าใจอย่างไร"
  • เด็ก ๆที่โรงเรียนพี่คิม..ไม่มีความฝันเลยค่ะ มีแต่อยากจบแล้วไปช่วยพ่อแม่ทำงาน ไปรับจ้างโรงงาน
  • ต้องจุดประกายให้ทุกวัน ๆ อันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมของเด็ก ๆและครอบครัวค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะที่ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์

เห็นด้วยกับประโยคนี้มากๆ.

"แบบอย่างที่ดีมีความหมายยิ่งกว่าคำสอนใด ๆ "

จำเป็นมากสำหรับคนเป็นครูค่ะ..

ตอนเด็กๆเหรอคะ..จำได้ว่า...สีสันของเหตุการณ์มันสดใสแจ่มมากๆ..มองอะไรก็สวยงาม รื่นรมย์ น่าเรียนรู้ไปหมด..ต่างกับภาพในตอนโตค่ะ..ก็ยังแปลกใจนะคะ..มิน่าเด็กๆเค้าถึงไม่เคยทุกข์ร้อนเรื่องอะไร..

อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งแต่ก็ขี้เกียจเอ็นใหม่ค่ะ.เหนื่อยค่ะ.อิอิ.

ขอบคุณบันทึก..ประทับใจนี้นะคะ..^^

- ตอบคำถามแรกก่อนนะค่ "รูปหลานสาวค่ะ" น่ารักเหมือนคุณป้า

ตอนที่ยังเป็นเด็กค่ะ

- ตามไปตอบที่บล๊อกคุณครูคิมแล้วนะคะ... และอยากบอกในที่นี้ว่า

อ่านแล้วชีวิตเหมือนกัน ตรงที่ยังไม่ทันได้บอกคุณพ่อ คุณแม่เลยค่ะว่า

"เข้าใจแล้ว"

- แต่เราก็เป็นคนดี "สร้างพระ" ให้ท่านทั้งสองได้ค่ะ

- ขอบคุณครูแอ๊วด้วยค่ะที่แวะมาเยือน ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยนด้วยกันค่ะ

และขอเชียร์ค่ะว่าเป็นผู้ใหญ่ก็คิดอะไรสดใสไปหมดได้เหมือนเด็ก ๆ ค่ะ

เพราะ "เข้าใจแล้ว" "ว่าง" แล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ ทำให้ต้องกลับไปทบทวนว่าเราได้รับอะไรดี ๆ จาก

พ่อแม่บ้าง จะได้นำมาสอนลูก ๆ ต่อไป

  • สวัสดีค่ะ
  • พี่คิมกลับมาทักทายด้วยอีกครั้งนะคะ
  • และก็คงมาอีกบ่อย ๆ ชอบบันทึกแบบนี้ค่ะ

OVERCOME DIFFICULTIES OF LIFE

สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมและยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

ขอให้มีความสุขค่ะ

สวัสดีค่ะ

มาอ่านวัยเด็ก...ของเด็กน้อย อย่างชื่นชมค่ะ

โชคดีที่มีคุณพ่อ...ที่น่านับถือคอยส่งเสริมให้ได้พบกับประสบการณ์ดี ๆ ค่ะ

"สอนให้ฉันเอาชนะความยากลำบากในชีวิต” 

ดีจัง !!!!..^__^..

สวัสดีค่ะ จะเข้ามาขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่บันทึก แต่มาเจอบันทึกที่มีประโยชน์ค่ะ เพราะกำลังประสบปัญหาตรงนี้พอดี ชีวิตพี่อักษรเกิดมาไม่สบายนัก ต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องทำงานตอนปิดภาคเรียน ต้องขวนขวายให้ได้มาซึ่งความฝัน แต่มารุ่นลูก เขาสบายเหลือเกินค่ะ กำลังคิดว่ากลัวเขาจะไม่สู้ชีวิต เพราะสบายจนเคยตัว อยากได้อะไรก็ได้.....อยากทำได้อย่างคุณพ่อจังเลยค่ะ ที่ใจแข็ง ฝีกให้ลูกรู้จักความลำบาก เพื่อลูกจะได้สู้ชีวิต.....

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ เมื่อตอนเป็นเด็ก เราไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณพ่อท่านรักเรามากแค่ไหน เราจะบ่นว่าท่านบังคับทำโน่นนี่เสมอ แต่ใครจะรู้เดี๋ยวนั้นว่าท่านสอนให้เราคิดให้ได้เองด้วย นอกจากฝึกความอดทน จะช้าหรือเร็วท่านก็รอได้ทั้งชีวิต เพื่อให้เราเติบโต สามารถยืนหยัดสู้ด้วยตัวของเราเอง เนี่ยค่ะ พ่อของดาวลูกไก่ เหมือนคุณพ่อคุณSila Phu-Chaya ไหมคะ

  • ฝาแฝดเหมือนกันเด๊ะเลยค่ะคุณดาวลูกไก่... ภูมิใจจังมีคุณพ่อดี ๆ แบบนี้... คุณพ่อคงหน้าตาดีแน่เลย เพราะคุณดาวลูกไก่หน้าหวานค่ะ...แต่ที่สำคัญ ใจเด็ดมากที่ฝึกลูกแบบนี้.. "ความอดทน" ชนะความยากลำบากค่ะ
  • ขอให้ชายไทยมีหัวใจ "คุณพ่อ" น่ารัก ๆ แบบนี้ทุกคนนะคะ
  • รักพ่อ "อย่าท้อ" ที่จะทำความดีนะคะทุกท่าน..
  • ดีจัง.มาแวะทบทวนวัยเด็กด้วยคนนะคะแม้ว่าจะผ่านวันเด็กไปหมาดหมาด
  • ตอนเป็นเด็กเป็นเด็กเรียบร้อย..ตั้งใจเรียน..
  • พ่อและแม่เป็นข้าราชการที่คุณครูในโรงเรียนต้องให้ความเคารพยำเกรง
  • อึดอัดอึดอัดกับการถูกยกย่องอยู่ตลอดเวลาไม่ทราบว่าเพราะอะไร
  • นึกอยากเป็นตัวของตัวเอง
  • นึกอยากทำอะไรที่เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆเขาได้ทำ
  • นึกอยากสนุกสนานดื้อซนเหมือนเพื่อนๆ
  • แต่มีกรอบที่ต้องยึดติด..ดื้อไม่ได้ซนไม่ได้ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
  • เออ..เหนื่อยจังตอนเป็นเด็ก..ต้องอยู่ในกรอบที่ถูกวาง
  • อิอิ..พอแล้ว..เดี๋ยวเต็มหน้ากระดาษ..ขอบคุณนะคะที่ให้ได้ระบาย

 

หนาวจัง ขอกอดหน่อยจิ่ (^______^)

กอด

  • คุณ add เป็นตัวของตัวเองเมื่อไร จะเรียบร้อยไหมคะนี่ เพราะบอกว่า

"ตอนเป็นเด็กเป็นเด็กเรียบร้อย..ตั้งใจเรียน.. พ่อและแม่เป็นข้าราชการที่คุณครูในโรงเรียนต้องให้ความเคารพยำเกรง อึดอัดอึดอัดกับการถูกยกย่องอยู่ตลอดเวลาไม่ทราบว่าเพราะอะไร นึกอยากเป็นตัวของตัวเอง"

  •      ศิลาว่าตอนที่เป็นคนเรียบร้อยก็คงเป็นตัวของตัวเองเหมือนกันนะคะ (ถ้าเราอยากเป็นเอง ไม่ใช่เพราะถูกใครบังคับ (อิอิ))
  • ที่บอกอย่างนี้เพราะเชื่อว่า "เป็นคนเรียบร้อย" น่ะซิคะ
  • ขอบพระคุณค่ะสำหรับคำอธิบายวันเด็กที่น่ารักที่ซู๊ด ถูกใจผู้ใหญ่หัวใจยังเด็กทุกคน
  • ดูแล้ว ศิลาว่าคุณครูปูไม่น่าจะหนาวนะ มีใครอยากกอดคุณปูจนโอบกอดไม่หมดอยู่แล้ว อิจฉาจัง ไม่รู้ว่าจะไปซุกซอกไหนดี (หมายถึงวงแขนนะคะ)
  • หายหนาวเร็ว ๆ นะคะ และก็มีความสุขสดชื่นทุกวันเป็นสีสันให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆ อย่าหายไปไหนนาน ๆ นะคะ

เด็กกำเนิดมาบนดลกด้วยความรัก

และความไว้วางใจ อย่างที่สุด

เด็กเล็กยังไม่รู้สาว่าสิ่งใดดีหรือเลว

แต่เด็กเปิดรับทุกสิ่งว่าเป็นสิ่งดี

และควรค่าต่อการซึมซับ

และลอกเลียนแบบอย่างมิรู้ตัว

            คัดลอกจาก...คุณคือครูคนแรกของลูก

                              โดย. ราหิมา บาลด์วิน แดนซี

ขอบคุณกับ บทความดี ดี.....ขอบคุณครับ

จดจำอะไรได้มากมายครับ ทั้งความสุขและความอบอุ่นในวัยเด็ก จินตนาการ การท่องเที่ยว คิดแล้วมีความสุขดีครับ สบายดีไหมครับ

ผมแก้คำผิดบรรทัดแรก ครับ..... เด็กกำเนิดมาบนโลกด้วยความรัก

และความไว้วางใจ อย่างที่สุด

เด็กเล็กยังไม่รู้สาว่าสิ่งใดดีหรือเลว

แต่เด็กเปิดรับทุกสิ่งว่าเป็นสิ่งดี

และควรค่าต่อการซึมซับ

และลอกเลียนแบบอย่างมิรู้ตัว

  • ขอบพระคุณคุณแสงศรี P ที่มาเติมเต็มวัยเด็กให้มีสีสันขึ้นค่ะ หากผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างที่ดี เด็กก็จะซึมซับสิ่งดี ๆเข้าตัวไปโดยอัตโนมัติ
  • เด็กไม่รู้ว่าอะไรดีเลว และไม่รู้ว่าอะไรยากง่าย ลำบากหรือสบายด้วยค่ะ  ถ้าฝึกฝนให้รู้จักความลำบาก เขาก็จะฝ่าฟันอุปสรรคภายหน้าโดยไม่มีเรามาดูแลได้ด้วยค่ะ
  • ขอให้คุณแสงศรีมีความสุขกับ "การให้" สิ่งดี ๆ กับทุก ๆ คนค่ะ
  • ขอบพระคุณท่านอาจารย์ขจิตP ที่เป็นแรงเชียร์สำคัญทำให้เกิดสังคมงดงาม ณ ที่แห่งนี้ค่ะ
  • เชื่อว่าวัยเด็กของท่านอาจารย์คงมีจิตนาการแห่ง UTOPIA ที่มีกัลยาณมิตรมาร่วมแบ่งปันสิ่งดี ๆ ด้วยกัน จึงเป็นแรงผลักดันทำให้มีวันนี้
  • ไม่รู้จะหาคำชมอะไรที่จะดึงความรู้สึกชื่นชมที่มีออกมาได้ทั้งหมด Beyond Description ค่ะ

สวัสดี ครับ

แวะมาอ่าน อีกครับ

อ่านแล้ว ...ได้คิด ตาม ในหลาย ๆ บรรทัด

ทุกบรรทัด บรรจงเขียนด้วย...หัวใจ จริง ๆ

ขอบคุณ มากนะครับ คุณ Sila

 

 

  • อ่านบันทึกในวัยเด็กแล้ว  คิดถึงคุณพ่อเช่นเดียวกัน
  • วันนี้  พี่อรวรรณ  ไปทำบุญที่วัด  ครบรอบ 1 ปี  ของการจากไปของคุณพ่อพอดีเลยค่ะ
  • กว่าจะมีวันนี้ได้....ขอขอบพระคุณคุณพ่อและคุณแม่ของเรานะคะ 

 

  • สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี P ดีใจมากค่ะที่เห็นเม้นท์ในบันทึกเก่าแก่ของศิลา
  • เขียนจากความไร้เดียงสา (อิอิ) ในสมัยก่อนค่ะ
  • มองความลำบากเป็นเรื่องท้าทายจะช่วยทำให้เราผ่านพ้นบททดสอบต่าง ๆ ในชีวิตไปได้ค่ะ
  • สวัสดีค่ะคุณพี่อรวรรณ กว่าจะมีวันนี้...ทำให้เราระลึกถึงบุพการีอยู่เสมอค่ะ
  • ขอแสดงความเสียใจที่สูญเสียคุณพ่อไปด้วยนะคะ ท่านเพิ่งจากไปได้ไม่นาน คงมีความโศกเศร้าอยู่...กาลเวลาไม่ทำให้เราลืมพระคุณ เพียงแต่ทำให้เราคลายทุกข์ลงเท่านั้นนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท