“สอนนักศึกษาที่ไม่อยากรู้ให้ได้ผลสอนอย่างไร”
จึงอยากเสนอกับชาวราชภัฏอื่น ๆ ว่าเรามาช่วยหาคำตอบของเรื่องนี้กันดีไหม สร้างระบบ สร้างเครือข่าย เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้เหมาะกับเด็กของเราที่ไม่อยากรู้ ให้เรียนรู้ได้พอสมควรกับที่เขาจบออกไปในฐานะที่ถูกเรียกว่าบัณฑิต
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว หัวปลาน่าจะได้แก่
“ทำอย่างไรจึงจะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมของคนใฝ่รู้”
เรื่องเหล่านี้ น่าทำกว่าการเปิดศูนย์ใน /นอกสถาบันเพื่อขายกระดาษ ระดับ ตรี โท เอก นะจะบอกให้
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เห็นด้วยกับอาจารย์มากๆ เลยครับ
ผมว่าสิ่งที่อาจารย์กำลังเล่าให้ฟังนั้น มันสะท้อนความล้มเหลวของระบบการศึกษาของไทยในขณะนี้ได้ดีที่สุด
ผมเองไม่ได้อยู่ในแวดวงการศึกษาโดยตรงนะครับ
แต่ทำงานเกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรในหน่วยงานเล็กๆ
อาจถือว่าเกี่ยวแบบอ้อมๆ ก็ได้
สิ่งที่อาจารย์กำลังเผชิญ ผมมองว่า
มันเหมือนกับเรากำลังตรวจพบมลพิษขั้นร้ายแรงที่ปากแม่น้ำ
หากเราไม่มองย้อนไปถึงต้นน้ำ กลางน้ำ เราคงไม่สามารถ
แก้ปัญหาที่ปลายน้ำได้
ผมเองอยากเห็นคนเก่งๆ ทั้งหลายในประเทศ
จากทุกภาคส่วน มาร่วมช่วยกัน "ยกเครื่อง"
ระบบการศึกษาของเราแบบจริงจักกันสักตั้ง
ไม่อย่างนั้นเราก็จะจมจ่อม ย่ำอยู่กับที่
ซ้ำยังถอยหลังเข้าคลอง ในขณะที่
เพื่อนบ้านเขาล้วนพัฒนาไปไกลแล้ว
หวังว่าจะมีผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองเห็นปัญหา
แล้วพยายามจะแก้เหมือนที่อาจารย์กำลังพยายามอยู่ครับ
ขอเป็นกำลังใจ
และขออนุโมทนาในความตั้งใจอันดีนะครับ
สวัสดีครับ
ถือว่าเป็นปัญหาที่ท้าทาย สำหรับคนที่อยู่ในการศึกษา
สำหรับผม คิดว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น
ตั้งแต่การรับนักศึกษาเข้าเรียน
ถ้าเป็นคณะที่นักศึกษาไม่สนใจเท่าไร พ่อแม่ให้เรียน หรือ เป็นคณะสำรอง อาจจะเรียนไปเรื่อยๆ ขาดความสนใจ แตกต่างจากคณะที่สนใจ นักศึกษาอาจจะมีความตั้งใจในการเรียนมากกว่า เป็นต้น
ขบวนการเรียน การสอน เทคนิคการจูงใจผู้เรียน และจำนวนนักศึกษาที่รับในแต่ละชั้นเรียน พวกนี้ก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา
ผมว่าหัวข้อของอาจารย์ น่าสนใจ ผมจะรอติดตามต่อไป ครับ