หลายปีแล้วที่นักภาษาไทยได้ออกมาแสดงถึงความวิบัติของภาษาซึ่งคนทั่วไปก็เข้าใจว่าภาษาไทยเริ่มวิบัติไปแล้ว แต่ก็มีหลายท่านที่บอกว่าภาษาไม่มีวันวิบัติ
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า "วิบัติ" หมายถึงอะไร พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 อธิบายว่า
" วิบัติ น. พิบัติ, ความฉิบหาย, ความหายนะ, ความเป็นอัปมงคล, เช่นทรัพย์สมบัติวิบัติ; ความเคลื่อนคลาด, ความผิด, เช่น อักขราวิบัติ.ก. ฉิบหาย เช่น ขอจงวิบัติทันตาเห็น. (ป., ส. วิปตฺติ)."
เห็นได้ว่าราชบัณฑิตท่านได้กล่าวคำลูกเพียง "อักขราวิบัติ" แต่ไม่ได้กล่าวถึงภาษาวิบัติเลย ทั้งนี้อักขราวิบัติ คือ ตัวอักษรภาษาไทยวิบัติ ซึ่งในปัจจุบันถ้าใครเป็นครูก็คงทราบว่าวิบัติมากเพียงใด โดยเฉพาะนักเรียนหญิงเขียนอักษรตามอย่างอักษรในหนังสือการ์ตูนเสียหมด แต่เรื่องนี้กลับไม่มีใครพูดถึงทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญด้านรูปอักษร นักวิชาการ นักภาษาไทยกรุณาลุกมากอบกู้อักษรวิบัติเสียที
คราวนี้เรามาพูดถึง "ภาษาวิบัติ" กันต่อ เราต้องเข้าใจว่าภาษาไทยเป็นภาษาที่มีชีวิต มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เมื่อเข้าใจอย่างนี้คำว่า "ภาษาวิบัติ" จะไม่มีเด็ดขาด แต่ผู้รู้มากมักสถาปนาตนเองให้โดดเด่นแล้วบอกว่าเป็นภาษาวิบัติทั้งที่ความจริงไม่มีเลย
ภาษาเกิด คือ ภาษาที่เราสร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้สื่อสารภาษาไทยกัน เช่น เดิมทีเราไม่มีพัดลมใช้งาน เมื่อมีพัดลมเกิดขึ้นจึงเกิดคำว่า "พัดลม" เป็นต้น การเกิดของภาษาก็ได้หลายวิธีทั้งการประสมคำ การสมาส การสนธิ
ภาษาแก่ คือ ภาษาที่ใช้กันมานานแล้วปัจจุบันไม่นิยมใช้เท่าไรนัก เช่น เผือ แปลว่า ข้า ผิว(ผิ-วะ) แปลว่า แม้ว่า เป็นต้น
ภาษาเจ็บ คือ ภาษาที่ถูกเปลี่ยนความหมายจากเดิมให้ดีขึ้นหรือเลวลง(โดยมากมักเลวลง) เช่น กู แปลว่า ข้า, ฉัน, ตนเอง ในสมัยสุโขทัย-อยุทธยา เป็นคำพูดสามัญปกติของคนทั่วไป แต่ในปัจจุบันกลายเป็นคำหยาบคาย หรือ ประเทือง แปลว่า ทำให้ดีขึ้น แต่พอมายุกปัจจุบันมีนักร้องเอาไปใช้ในการร้องเพลงที่กล่าวถึงเพื่อนชายชื่อประเทืองกลายเป็นชายที่แปลงเพศเป็นหญิง คำว่า "ประเทือง" จึงโดนทำร้ายให้มีความหมายเพิ่มอีกความหมายหนึ่งว่า หมายถึง กระเทย, หญิงประเภทสอง เป็นต้น
ภาษาตาย คือ ภาษาที่มีใช้แต่โบราณและปัจจุบันไม่ใช้แล้ว เช่น เขือ แปลว่า เพื่อน, ผู้ที่เราพูดด้วย เป็นต้น
เห็นไหมครับว่าภาษาไทยนั้นมีหลักการพัฒนาภาษาที่เป็นระบบดุจมีชีวิตเลยทีเดียว ดังนั้นภาษาวิบัติจึงไม่มี แต่ถ้าบอกว่า "ภาษาวิปลาส" นั้นบอกได้ว่ามีแน่นอน เพราะคนดัง(ผู้มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักแสดง) มีดัดจริตพูดภาษาไทยคำภาษาต่างประเทศคำ การใช้ภาษาแบบนี้วิปลาสทั้งการพูด ประโยค และสำนวนภาษา น่าจะพูดเรื่องนี้และพัฒนาเรื่องนี้มากกว่า เพราะเยาวชนมักเอาเยี่ยงเอาอย่างอยู่เสมอ
ใช่ค่ะ ภาษาของเรา เราต้องช่วยกันรักษา....โดยการใช้ ให้ถูกต้อง และเหมาะสมค่ะ
ขอบคุณครับคุณคุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน คุณครูอ้อย แซ่เฮ ที่เข้ามาอ่านงานเขียนครับ
ผมจำได้ว่า ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย พวกที่ถามว่า ข้อใดเป็นคำประสม คำซ้ำ คำซ้อน บ้าง อะไรแบบนี มันยากมากเลยครับ :) :)