ตื่นรึยัง ?

ตื่นรึยัง ?

 

 

หากบ้านใคร ที่กลางคืนเงียบสงัดแล้วมีรถผ่านเพียงคันเดียว

 

เขาจะรู้สึกว่าเสียงดังและอาจทำให้เขาตื่นได้

 

 

 

แต่หากบ้านใครที่มีรถวิ่งเสียงดังผ่านไปผ่านมาทั้งคืน

 

เขาจะรู้สึกเคยชิน และเสียงดังๆเหล่านั้นก็ไม่อาจทำให้เขาจื่นได้

 

 
 
ลักษณะอาการแบบนี้ดูจะคล้ายๆสังคมมุสลิมเรารึเปล่า? พี่น้องที่รักทั้งหลาย เราชินชากับการได้เห็น - ได้ยิน ข่าวคราวที่พี่น้องมุสลิมถูกอธรรมมากเสียจนชินชาประหนึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่พี่น้องทั้งหลาย จริงๆแล้วที่ผู้ปฏิเสธศรัทธาเพียงหนึ่งคนจะอธรรมต่อพี่น้องมุสลิมเพียงหนึ่งคน ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา! มันถือเป็นเรื่องใหญ่ และนี่ไม่ใช่เรื่องราวที่พี่น้องมุสลิมเพียงคนเดียวถูกอธรรม แต่เป็นพี่น้องมุสลิมนับแสนนับล้านชีวิต ถูกละเมิด ถูกเข่นฆ่า เราก็ได้เห็นจนเคยชินไม่รู้สึกรู้สา และการอธรรมเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในเวลาสั้นๆ
 
เหตุการณ์เข่นฆ่า / ทรมาน / ข่มเหง / ข่มขืน พี่น้องมุสลิมในอิรัคก็กินเวลากว่า 5 ปี  เหตุการณ์ที่อัฟกานิสถาน ก็ล่วงมาแล้ว 7 ปี ที่พี่น้องนักรบของเราต่อสู้อยู่ ส่วนในปาเลสไตน์ พี่น้องของเราถูกอธรรมถูกเข่นฆ่า-ขับไล่ออกจากบ้านเรือน กินเวลายาวนานนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 .... เราก็ยังไม่ตื่น!!!
 
พี่น้องที่รักทั้งหลายวันนี้ระเบิดลงเสียงดังขนาดนี้ ตื่นได้แล้ว เหตุการณ์ในกาซ่าครั้งนี้เสียงมันดังกว่าปกติ ทันทำให้เราต้องตื่นและโกรธกริ้ว ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีเสียของพี่น้องเราที่ถูกฆ่าอย่างอธรรม พวกเขาไม่ใช่นักรบ เป็นคนอ่อนแอที่ไม่มีทืทางสู้ ไม่มีความสามารถที่จะไปต่อกรใด ๆ กับพวกยิวที่มีอาวุธร้ายแรงและน่าเกลียดน่ากลัวเช่นนั้น
 
วันนี้ไม่มีอะไรมากีดกั้นเราที่จะช่วยเหลือพี่น้องปาเลสไตน์แล้ว นอกจากมีเพียงเขตแดนและกฏหมายของพวกปฏิเสธศรัทธาได้กั้นไว้เท่านั้น ซึ่งเราก็ทราบกันดีว่ามันไม่เคยช่วยให้ความอธรรม ความเลวร้ายที่มีอยู่ได้บรรเทาลงแม้แต้น้อย ดังที่พี่น้องเราทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้ว แม้ว่าเราจะพยายามไม่สนใจก็ตาม แต่สิ่งเหล่านี้มันกำลังเกิดขึ้นกับพี่น้องของเราทุกคน
 
 
 

เราต่อสู้ได้อย่างไรบ้าง ?

 

 
การต่อสู้ด้วยกำลัง สำหรับคนที่มีความสามารถไปรบได้
 
การต่อสู้ด้วยทรัพย์สิน คือการบริจาคให้ความช่วยเหลือพี่น้องที่สูญเสียและครอบครัวของเหล่านักรบ รวมถึงการไม่สนับสนุนสินค้าของพวกศัตรู (สินค้าที่ภาษีตกถึงมือศัตรู ถึงแม้เจ้าของสินค้านั้น ๆ จะไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่ามุสลิมก็ตาม)
 
การต่อสู้ด้านการเมือง คือเรียกร้องให้ประเทศมุสลิมตัดสัมพันธ์ทางการฑูตกับอิสราแอลและพันธมิตร และเรียกร้องให้มุสลิมจัดขบวนประท้วงสถานฑูตตามสถานการณ์ที่เหมาะสมของแต่ละประเทศ (จะใช้วิธีรุนแรงหรือสงบขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละประเทส)
 
การต่อสู้ด้านสื่อมวลชน คือให้มีการประณามเหตุที่เกิดขึ้น ตลอดจนชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้อย่างกว้างขวาง ทั้งมุสลิมและคนต่างศาสนิก ไม่ว่าจะเป็นทางหนังสือวิชาการ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ และอินเตอร์เน็ต
 
วิธีอื่นๆ ที่บรรดาผู้รู้หรือผู้นำมุสลิมแนะนำ สำคัญที่สุดซึ่งขาดไม่ได้ คือ การขอดุอาอฺจากอัลลอฮฺ ให้พระองค์ทรงกำจัดศัตรู ยับยั้งศัตรูให้หยุดเข่นฆ่ามุสลิม ช่วยเหลือบรรดาพี่น้องมุสลิมที่ถูกอธรรม และให้โลกมุสลิมมีความเข้มแข็ง
 
 

**************

 

"ใครก็ตามที่เห็นสิ่งมุนกัรก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือ (กำลัง) หากไม่สามารถก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยลิ้น (คำพูด)

และหากไม่สามารถอีกก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยใจ (รังเกียจ) ซึ่งถือเป็นอีหม่านขึ้นต่ำสุด"

 

รายงานโดยมุสลิม

[นาง พรรณา ผิวเผือก]

สวัสดีค่ะ

 *ขอเป็นกำลังใจให้ชาวมุสลิมสงบ สุข สันติ โดยเร็วนะคะ