วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑
เรื่อง ขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อการดำเนินการตามกฎหมาย
เรียน นายกรัฐมนตรี
อ้างถึง ๑) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐
๒) พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๕
๓) อนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่รัฐไทยเป็นภาคี (กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง, กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม, กติการะหว่าง ประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ, อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ, อนุสัญญาสิทธิเด็ก และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน)
๔) พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๑
๕) พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒
สืบเนื่องจาก โครงการเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ (Stateless Watch) ร่วมกับองค์กรเครือข่ายคือ โครงการแสวงหาองค์ความรู้ในการบังคับใช้กฎหมายใหม่เพื่อแก้ปัญหาความไร้รัฐและไร้สัญชาติของมนุษย์ในสังคมไทย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือด้านกฎหมายจากนางสาวมึดา นาวานาถ เนื่องด้วยเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ นางสาวมึดาได้ไปติดต่อโรงพยาบาลสบเมย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่อ่องสอน ซึ่งได้ปฏิเสธสิทธิในการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือการมีบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของนางสาวมึดา โดยให้เหตุผลกับนางสาวมึดาว่า “ทะเบียนบ้านนั้นเป็นทะเบียนบ้านชั่วคราว และเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลักนั้น ขึ้นต้นด้วยเลข ๘ ซึ่งหมายถึงบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย ทำให้ไม่สามารถมีบัตรได้” นั้น
ทางโครงการฯและองค์กรเครือข่าย เห็นว่าความเข้าใจดังกล่าวไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อน จึงเรียนมาเพื่อหารือข้อกฎหมายและขอให้ทางท่านนายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
๑. สิทธิในการรับบริการสาธารณสุขเป็นสิทธิมนุษยชน เป็นสิทธิของบุคคลที่ได้รับการรับรองโดยมาตรา ๕๑ และมาตรา ๕๒ รวมถึงมาตรา ๘๐ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๕0) และพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๕ โดยสาระสำคัญของสิทธิในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก็คือ เป็นสิทธิของบุคคลที่จะได้รับบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานอย่างเสมอหน้า ด้วยเกียรติศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน ที่สำคัญไม่ใช่บริการที่ต้องมีการสมัครจึงจะได้รับ หากแต่เป็นสิทธิตามกฎหมายของบุคคล
สิทธิของบุคคลดังกล่าว ผูกพันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีหน้าที่ต้องเคารพและรับรอง โดยการใช้อำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นไปโดยคำนึงถึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพ (มาตรา ๒๖, ๒๗ และมาตรา ๔ แห่งรัฐธรรมนูญฯ) และโดยเสมอภาค (มาตรา ๓๐ แห่งรัฐธรรมนูญฯ)
๒. ในทางปฏิบัติ บุคคลซึ่งเป็นผู้ทรงสิทธิในหลักประกันสุขภาพจะได้รับการออกบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ภายหลังการขึ้นทะเบียน (ข้อ ๑๓ และ ๑๔ แห่งระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ พ.ศ.๒๕๔๔) โดยขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอาจสำรวจและขึ้นทะเบียน หรือบุคคลอาจไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียน ณ หน่วยงานหรือหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ผู้มีสิทธิมีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน
๓. อนึ่ง การรับรองสิทธิดังกล่าวของประเทศไทย ยังเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับพันธกรณีในทางระหว่างประเทศในฐานะรัฐภาคี ได้แก่ ข้อ ๒๕ แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง, ข้อ ๑๒.๑ แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม, ข้อ ๕ (e) (iv) แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ, ข้อ ๑๑.๑ (f), ข้อ ๑๒.๑ และ ๑๒.๒ แห่งอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ, ข้อ ๒๔.๑ แห่งอนุสัญญาสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ รวมถึงข้อ ๒๕ (๑) ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
๔. สำหรับกรณีของนางสาวมึดา ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ (ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๕) ทำให้นางสาวมึดาไม่มีสัญชาติไทยในขณะที่เกิด อย่างไรก็ดี โดยผลแห่งมาตรา ๒๓ ของพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๑ ได้ส่งผลให้นางสาวมึดามีสัญชาติไทยโดยผลของกฎหมาย นับตั้งแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ คือวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ โดยสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครองได้รับการกำหนดเลขประจำตัว ๑๓ หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข ๘ ให้แก่นางสาวมึดา และนางสาวมึดาได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน (ท.ร.๑๔) และได้รับการถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อใช้เป็นเอกสารแสดงตนว่าเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทยเมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๑
๕. ภายใต้กฎหมายทั้งในระดับรัฐธรรมนูญ กฎหมายระดับพระราชบัญญัติ และกฎหมายลำดับรอง รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องข้างต้น ทางโครงการฯและองค์กรเครือข่ายมีความเห็นว่า หากโรงพยาบาลสบเมยมีฐานะเป็นหน่วยงานบริการด้านการลงทะเบียนและทำบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หากทางโรงพยาบาลปฏิเสธการดำเนินการเพื่อออกบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้แก่นางสาวมึดานั้น อาจหมายถึงการกระทำที่ขัดต่อมาตรา ๕๑-๕๒ แห่งรัฐธรรมนูญฯ รวมถึงหลักความเสมอภาค (มาตรา ๓๐ แห่งรัฐธรรมนูญฯ) ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กฎหมายลำดับรอง กฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ อันอาจนำไปสู่การตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำทางปกครองของโรงพยาบาลสบเมยในเบื้องต้น คือการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับขั้นตอนในการออกคำสั่งทางปกครอง (มาตรา ๒๙, ๓๐ และ ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙), การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับขอบอำนาจในการออกคำสั่งทางปกครอง รวมถึงการกระทำทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ หรือมีลักษณะการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม (มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒)
อนึ่ง เนื่องจากการมีสัญชาติไทยโดยผลของมาตรา ๒๓ แห่งกฎหมายสัญชาติฉบับใหม่นั้น จะส่งผลให้บุคคลที่เคยได้รับผลกระทบจากประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ กลับคืนมีสัญชาติไทยร่วมหลายแสนคน ทางโครงการฯ และองค์กรเครือข่ายจึงมีข้อห่วงใยว่า มีความเป็นไปได้ที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางสาวมึดา อาจเกิดซ้ำกับบุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยผลของมาตรา ๒๓ คนอื่นๆ ดังนั้น เพื่อคุ้มครองและรับรองสิทธิในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓ แห่งกฎหมายสัญชาติฉบับใหม่ ทางโครงการฯ และองค์กรเครือข่ายจึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป
จีงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ
ขอแสดงความนับถือ
( ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล )
นักวิชาการด้านนิติศาสตร์และทนายความ
โครงการเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ
อ้างอิงจาก
ขอบคุณมากๆค่ะ
จาก: มึดา นาวานาถ
ส่งเมื่อ: 27 ธันวาคม 2551 8:10:02
ถึง: archanwell พี่แก้ว โครงการวิจัยสุขภาพคนไร้รัฐ
สวัสดีค่ะ
ระหว่างที่ติดต่อหนูไม่ได้เพราะหนูกลับบ้านท่าเรือค่ะ
ช่วงนี้มหาลัยปิดก็ถือโอกาสกลับมาเยี่ยมพี่น้องชาวบ้านที่บ้านท่าเรือ
และเพื่อกลับไปแนะนำให้พี่น้องชาวบ้านเข้าใจ ม.23ชัดเจนขึ้นค่ะ
และได้อธิบายเกี่ยวกับวิธีการยื่นให้เข้าใจไปในแนวทางเดียวกันค่ะ(รวมถึงการยื่นขอบัตรทองด้วยค่ะ)
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ติดต่อหนูไม่ได้
หนูไม่แน่ใจว่าหนังสือที่เรียน ผอ.รพ.สบเมย จะมาถึงเมื่อไหร่ค่ะ
หนูจะได้ติดตามความคืบหน้าค่ะ และหากมีความคืบหน้าอย่างไหร่
หนูจะแจ้งให้ทุกท่านทราบทันทีค่ะ (อ.แหววคะ...ศิษย์ของอ.คนนี้ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายอยู่แล้ว หนูคิดเสมอว่าหนูต้องไม่โดนปฏิเสธโดยเปล่าประโยชน์
ค่ะ เพราะว่าผลประโยชน์จะเกิดแก่พี่น้องที่ได้สัญชาติไทยตาม ม.23ทุกคนค่ะ หนูขอบคุณอ.มากๆนะคะอ.คอยให้กำลังใจและช่วยหนูตลอดเลยค่ะ)
ขอบพระคุณเป็นอย่างสุงค่ะ
From: Stateless Watch
Sent: Tuesday, December 30, 2008 3:38 PM
Subject: มึดา ได้รับการประสานจากรพ.สบเมย ให้ไปทำบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าแล้วค่ะ
เมื่อตอนประมาณบ่ายสองของวันนี้ (30 ธค.)
มึดา ได้โทร.มาแจ้งความคืบหน้าว่า ทางโรงพยาบาลสบเมย ได้โทร.ประสานมาบอกให้มึดา ไปทำบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้แล้ว
มึดาโทร.มา ฝากขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องค่ะ
ได้คุยกับอาจารย์แหวว เราเห็นตรงกันว่า ในการสร้างความเข้าใจ ปรับทัศนคติเรื่องสิทธิในหลักประกันสุขภาพนั้น นอกจากการทำงานในระดับนโยบาย แล้ว การสื่อสารสาธารณะ การทำความเข้าใจกับหน่วยงานปฏิบัติยังเป็นอีกภารกิจที่ยังคงต้องทำต่อไป
กรณีของมึดา เป็นตัวอย่างที่ดี (เราส่งหนังสือออกไปถึงโรงพยาบาลสบเมย และนายกรัฐมนตรี, ส่งให้สื่อมวลชน) ในวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม ใช้เวลาทำการวันเศษๆ (จันทร์ 29, และครึ่งวันเช้าของวันอังคารที่ 30) หลักกฎหมายและแนวปฏิบัติจึงได้รับการปฏิบัติตามที่โรงพยาบาลสบเมย : )
ส่งข่าวดีเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทีม H4S ทุกคนนะคะ
ด๋าว
ขอแสดงความยินดีกับพี่มึดาด้วยนะคะ งัยก้ใหม่ขอให้พี่มึดาสู้ต่อไปนะคะ
ทุกคนเปณกำลังใจให้พี่อยู่ค่ะ คิดถึงพี่มึดานะคะ สู้ๆ สู้ตาย
(น้องใหม่แม่คะตวน)