การศึกษาที่คุณปู่มอบให้ดิฉัน " คุณคิดอย่างไรกับการศึกษา ปัจจุบัน-อนาคต " ร่วมแสดงความคิดเห็น


รางวัลที่ดิฉันเคยได้รับเมื่อสอบได้ที่1 คือรถจักรยาน มันทำให้ดิฉันภาคภูมิใจมาก และคุณปู่ของดิฉัน ซื้อจะมีชุดนักเรียนใหม่ให้ทุกปีเลยนี่ก็คือการปลูกฝังของคุณปู่ของดิฉัน ขอบคุณนะคะคุณปู่ของหนู (หนูรักปู่คะ)

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เล็กจนโต คุณปู่ของดิฉันจะปลูกฝังเรื่องการเรียนเป็นสิ่งสำคัญ จนวันนี้ดิฉันก็ยังไม่หยุดเรียน ยังมุ่งมั่นที่จะศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด คุณเคยมีประสบการณ์อย่างดิฉันไหม ถ้าหนูสอบได้ที่1 ปู่/พ่อ จะมีรางวัลให้ ถ้าหนูเรียนทำเกรดเฉลี่ยออกมาดี อยากได้อะไรจะซื้อให้ นี่ก็เป็นแรงจูงใจในการที่จะให้ลูกหลานใฝ่เรียนรู้
                       
                                           ของรางวัลจากการสอบได้ที่1

และคุณเคยคิดหรือไม่ว่าตั้งแต่เกิดมาคุณใช้การเรียนรู้ที่เรียนมาคุ้มหรือไม่ การเรียนก็เป็นการลงทุนที่ใช้ระยะเวลานานที่สุดของระยะเวลาที่คนเรามีชีวิตตั้งแต่เริ่มเรียน ไม่ว่าที่เรียนนั้น จะเป็นอนุบาล หรืออยู่ขั้นประถม จนชั้นมัธยม เรียนจบม.6คุณคิดว่าคุณเรียนแค่นี้หรือ? ถ้าเป็นดิฉันคำตอบคือไม่ ดิฉันจะเรียนไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมี หรือหมดแรงเรียน มีคนเคยบอกว่าน่าจะมีการจ้างเรียนคือเหมือนกับการทำงาน เรียนอย่างเดียวแล้วมีเงินเดือนให้เหมือนกับการทำงานเป็นอย่างนั้นมันคงจะดีจะได้ตรงกับคำที่ว่าไม่มีใครที่แก่เกินเรียน คนที่เรียนเป็นคนที่วางอนาคตดีเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเรียนที่ไหนเรียนมากแค่ไหนแต่ว่าคุณไม่รู้จักการระงับอารมณ์ที่ไม่ดีนั่นก็จะเป็นผลร้ายแก่ตนเอง และผู้อื่นที่เรียนคือที่อบรมบ่มนิสัย เรียนไปคุณรู้จักวิธีการคิดรู้จักวิธีที่จะนำไปปฏิบัติ คุณก็จะเป็นคนดีในสังคมคนหนึ่ง

เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นคะ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 23086เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2006 15:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เรียนคือกุญแจเบิกทาง งานคืออนาคต

 

อุนตร้าแมน เบ บี้
อืม อ่านแร้ว รู้สึกว่า คนเรามีค่าขึ้น ต้องพยายามให้ถึงที่สุดนะ
  • ผู้เขียน บอกกับลูกๆว่า ชีวิตวัยเรียนเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก  แม่ชอบชีวิตในวัยเรียน ให้ลูกสนุกกับการเรียน เรียนอะไรก็ได้ เรียนให้มากที่สุดที่เค้าอยากจะเป็นได้ ให้ขยันแต่ต้นมือ แล้วอะไรๆที่ยากๆๆ ก็ไม่เหนือกว่าแรงลูกไปได้ ลูกทำได้แน่ๆๆ แม่เชื่ออย่างนั้น
  • ขอบคุณ น้องดรีมที่นำประสบกราณ์ดีๆๆอย่างนี้มาเล่าสู่กันฟัง

บทความมันน่าจะยาวกว่านี้ และน่าจะมีลายละเอียดมากกว่านี้ครับ โดยรวมก็ดีครับ

        ดรีมว่าโลกเราเปงยังไง  เล็กลงรึกว้างขึ้น โลกหมุนไปใครไม่หมุนตาม ทุกวันนี้แค่หยุดเดินเราคงแพ้  ทุกวันนี้ดรีมก้าวได้ยาวขึ้นภาษาสวยนะน่าอ่านแต่สั้นไป  เรียนมากหัวบวม55555

               รักแกวะ

 

เราว่า ที่นี่ประเทศไทย  ยังขาดครูแนะแนวๆที่ดีๆอีกมาก  เราก้อเคยหลงทางมาแล้ว  ไปเรียนอะไรที่ตัวเองไม่ได้ชอบ  จบมาก้อทำอะไรไม่ได้ การเรียนน่ะดี  แต่จะมีใครกี่คนที่ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ เธอว่าจิงไหม

 

ดีนะ บทความนี้ เห็นด้วยคับ ว่าการเรียน คือใบเบิกทางที่สำคัญที่สุด
ครูที่มีประสบกราณ์มากมีนะคะ  แต่มันมีปัจจัย เช่นช่องว่างระหว่างครูกับนักเรียน  เวลาที่ครูมีให้กับเด็ก อื่นๆอีกมาก ที่เป็นปัจจัย ใครทราบบ้าง หรือประสพกับตัวเอง หรือท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไร มาช่วยกันนะคะ เพื่อเด็กๆๆที่มีคุณภาพของเรานะคะ

โดยส่วนตัวแล้วคิดเห็นว่า 

ผลที่ตนเองเคยได้รับระหว่างการศึกษาตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงปริญญาตรี ส่วนใหญ่เกิดจาก "การจำ"  มากกว่า  "การเรียนรู้"

แต่หลายเรื่องที่เกิดได้เรียนรู้จากการปฏิบัติทั้งในและนอกห้องเรียนในวัยเรียน กลับนำมาใช้ได้ดีในชีวิตประจำวัน มากกว่าวิชาที่ท่องจำ

ยิ่งจำได้มาก           ก็ยิ่งทำข้อสอบได้มาก 

ทำข้อสอบได้มาก    ก็คะแนนดีมาก

คะแนนดีมาก          ก็มีคนชื่นชมมาก

มีคนชื่นชมมาก       ก็ยิ่งมั่นใจในตัวเองมาก

มั่นใจในตัวเองมาก  ก็ยิ่งมีทางเลือกในการทำงานมาก

ทำงานมาก            ก็ยิ่งห่างจากครอบครัวและเพื่อนๆมาก

ห่างจากคนที่รักเราและคนที่เรารักมาก  ก็เลยต้องช่วยตัวเองมาก

ช่วยตัวเองมาก        ก็ยิ่งเห็นแก่ตัวเองมาก

ว้า !  แย่จัง  หาความพอดีไม่ได้เลยเรา

ได้มารู้จัก "การเรียนรู้"  "การคิดเป็น"  ก็ตอนเรียนปริญญาโทนี่แหละค่ะ เมื่อตอนเรียนจะรู้สึกเหนื่อยมาก พอจบแล้วก็ยิ่งกังวลอีก  ว่าไอ้ที่เรียนมา  จะเอาไปทำประโยชน์อย่างไร กับใคร ได้บ้าง กลัวจะต้องเอาปริญญามาแขวนไว้ที่ฝาบ้าน ไม่คุ้มค่ากับที่อาจารย์สั่งสอนมา 

ตอนนี้ก็เลยต้องขวนขวายหาความรู้เสมอ แต่ก็ยังไม่สามารถนำความรู้ที่สะสมไว้จนจะขึ้นสนิม ออกมาทำประยุกต์ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า และเป็นรูปธรรม ได้ซะที 

โดนค่อนคอดจากคนรอบข้างว่า ชื่อ นักวิชาการ นามสกุลนามธรรม  เพราะทำได้แต่ตัวหนังสือบนกระดาษ  จนโกรธตัวเองแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้เรื่องซะที

      จะเปรียบก็เหมือน  ปลูกมะม่วงดูแลบำรุงจนต้นสูงใหญ่ สวยงาม แต่ยังไม่ลูกมะม่วงให้กินได้ ซะที สงสัยจะได้ประโยชน์จากโค่นเอาไม้มะม่วงทำเฟอนิเจอร์ มากกว่ารอกินลูกมะม่วง ซะแล้ว

ไม่รู้ว่า ใครเป็นอย่างนี้บ้างหนอ

 

มันอยู่ที่เราเลือกที่จะเป็น ใช่มั้ยฮะๆ

มาลงชื่อครับ .. อิ อิ

มาลงชื่อครับ .. อิ อิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท