ไฉน
นาย ประกาศิต ปอ ประกอบผล

ยืดอกพกถุง...ครั้งหนึ่งของชีวิต


ในใจนึก รอดแล้วโว้ย

ที่การบินพลเรือนบ่อฝ้ายหลังจากสัมมนาในห้องสี่เหลี่ยมผ่านพ้นไปก็ถึงเวลาแห่งความระทึกของการเป็นนักบินที่สาม เมื่อจัดบุคคลลงตัว ครูฝึกบินก็เรียกเข้าไป ทำความเข้าใจเล็กน้อย และหลายท่านก็ปรารถนาดีหาถุงพลาสติกมาให้ บอกว่าเอาไปเถอะเชื่อมั่นก็กันไว้ก่อน จึงรับใส่กระเป๋ากางเกงไว้ จากนั้นก็เดินออกจากอาคารไปเพื่อขึ้นเครื่อง ซึ่งจอดอยู่เป็นแนวแถวอย่างเป็นระเบียบในลานจอดเรือบิน ก่อนที่จะขึ้นเครื่องก็ถ่ายภาพกับเครื่องบินและครูฝึกนักบินรวมถึงนักบินฝึกหัดไว้เป็นที่ระลึก

จากนั้นขึ้นเครื่องรัดเข็มขัดสวมเฮ็ดโฟนสำหรับสื่อสารกับนักบินซึ่งจะได้ยินการสื่อสารกันทั้งหมดทั้งจากหอบังคับการบินภาคพื้นด้วย ครูฝึกบินเช็คการสื่อสาร ได้ยินกันทุกคน และบอกว่าหากมีอะไรก็ให้บอก เหมือนกับว่าจะมีอะไรร้ายแรงอย่างนั้น ยังไม่สะกิดใจอีก เครื่องคำรามกระหื่ม แล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากที่จอดไปสู่รันเวย์  วิ่งแล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า รีบนำกล้องออกมาเก็บภาพมุมสูงไว้เป็นที่ระลึก ครูฝึกบอกนักบินให้ไปแอร์เรียโฟ ผมถามว่าไปทางทะเลหรือเปล่าครับ ครูฝึกตอบว่ามีลำอื่นเขาใช้แล้วจึงต้องไปที่ที่ลำอื่นไม่ไป มองข้างล้างถาม ครูฝึกก็บอกสถานที่สำคัญๆด้านล้างว่าเป็นอะไร และยังบอกนักบินฝึกหัดอีกว่า หากเครื่องมีปัญหาต้องลงฉุกเฉินระหว่างไร่สัปรดกับไร่อ้อยให้เลือกไร่อ้อยเพราะจะทำให้ซอฟเครื่องได้ดีกว่า

เรือบินปะทะกับกระแสลมมีอาการสั่นโคลง เดียวขึ้นเดียวลงต่ำวูบวาบทำให้สภาพภายในท้องวูบวาบตามไปด้วย ครูฝึกบินบอกว่าเป็นmountain air เวลากระแสลมมาปะทะกับภูเขามันจะดันตัวขึ้นทำให้เรือบินเล็กๆไปตามกระแสของลม มันเป็นธรรมดาไม่ต้องวิตก คิดในใจไม่ได้วิตกว่าเครื่องจะตก แต่ในอกในใจมันปั่นป่วน ต้องหลับตาหายใจยาวๆ เรียกว่าดึงระบบการทำสมาธิมาช่วย เพื่อผ่อนคลาย ครูฝึกบินก็แนะนำสถานที่ด้านล้างบ้าง บอกนักเรียนฝึกบินให้บินอย่างนั้นอย่างนี้คงจะตามข้อกำหนดการฝึกบิน เช่น เลี้ยวซ้าย ขวา ๒๐, ๓๐,.. เป็นต้น ยิ่งพอมีคำสั่งออกมานักเรียนฝึกบินทำตามการเปลี่ยนแปลงของเรือบินส่งผลถึงสภาพร่างกายภายในทุกครั้ง รู้สึกว่าสภาพของร่างกายจะปรับตัวเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเรือบินได้อย่างรวดเร็วดีมาก ในใจนึกสมาธิๆ หายใจเข้าออกยาว เสียงครูฝึกบอกเดียวจะพาไปชมเขื่อนแก่งกระจาน ในใจนึกบอกหมดสุนทรียภาพในการชมทัศนียภาพแล้ว  มันกระอักกระอวนปั่นป่วนจะอ๊วก แต่จะทำอย่างไรได้มากับเขาแล้ว ทำใจถึงไหนถึงกันไปก็ไปพอถึงก็ชะโงกหน้าเหลียวมองแว๊บหนึ่งแทบอ๊วก  ต้องกลับมายืดตัวเงยหน้าหลับตาหายใจยาวๆตามเคย

เมื่อบินชมเขื่อนเสร็จวนกลับได้ยินคำถามว่าเดียวลงแล้วขึ้นมาอีกรอบนะ เงียบไม่มีเสียงตอบ นักบินเหลียวมามองคงจะเห็นอะไรบางอย่างจากใบหน้าจึงเอาหมากฝรั่งมาให้เคี้ยว พร้อมกับสื่อสารกับหอบังคับการบินว่าขอนำเครื่องลงจอดผู้โดยสารอาการไม่ดี จากนั้นเครื่องก็บินมาถึงทะเลค่อยยังชั่วหน่อยเพราะเรือบินนิ่งกว่าสภาพภูเขามาก พอร่อนจะลงแล้วก็เชิดหัวขึ้นไปตีวนอีกรอบถามว่าไม่ลงหรือ คำตอบที่ได้คือ มีลำอื่นต้องรอก่อน อยู่นิ่งๆไม่ได้หรือ ไม่ใช่ฮอนิ่งไม่ได้ ต้องบินวนจนกว่าหอบังคับการบินจะอนุญาตให้ลงได้ โอ้!!!!พระเจ้า อาการท้องไส้มันบังเกิดขึ้นอีกแล้ว มีน้ำย้อนขึ้นมาจากท้องรสขมๆในปาก และยิ่งกว่านั้นคือคล้ายหัวใจขาดเลือดร้อนผ่าว คิดว่าหัวใจเราจะหยุดทำงานหรือนี่  ไม่นะ  พอเครื่องสามารถลงได้ล้อแตะรันเวย์ ครูฝึกเปิดหน้าต่างให้ลมเข้าเท่านั้นแหละ อาการต่างๆที่แย่ๆ เริ่มดีขึ้น เครื่องบินค่อยๆไหลเข้ามาจอดในแถว ณ ลานจอด ในใจนึก รอดแล้วโว้ย และออกจากเครื่องมาอาคาร

ดีใจที่เราไม่อ๊วก เพื่อนบางคนลงมาพร้อมอาหารเก่าเป็นถุงๆ มานั่งดมแอมโมเนียต่อ  ครั้งหนึ่งของชีวิต เพราะโอกาสน้อยที่จะได้สัมผัสเช่นนี้ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต

ครูฝึกบิน นักบินฝึกหัด และข้าพเจ้า

นักบินที่สามครับผม

ภาพมุมสูงส่วนหนึ่งของเขื่อนแก่งกระจาน

หมายเลขบันทึก: 230028เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2008 21:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

แอบเข้ามาอ่าน....ดูน่าตื่นเต้นดีนะคะ

...สู้สู้นะคะ...

ขอบคุณครับ คุณมะนาวหวาน

เข้าอ่านได้เลยครับ ไม่ต้องแอบ ๆ ๆ

และคุณ Your sister ก็ต้องขอบคุณมากๆ ที่เข้ามาแสดงความเห็นตั้งสองครั้ง ต่อไปจะพยายามหารูปมาฝากเยอะๆ และยิ้มหวานๆ ด้วย ครึ ครึ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท