เรื่องของคนย้ายถิ่น


แม่คะ

 

วันที่หนูกลับจากกรุงเทพ หนูเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าหนูได้ประชุม/อบรมครบตามหัวข้อไม่ต้องออกจากห้องประชุมก่อนเวลา และที่สำคัญมันประหยัดกว่าการนั่งเครื่องบินเกือบสี่เท่า ไม่ต้องรบกวนใครให้มารับที่อุดร แม้ว่าจะทรมานและใช้เวลาเดินทางนานกว่า 10 ชั่วโมง

มีหลายคนแนะนำว่า การเลือกนั่งที่บริเวณข้างหน้ามันทำให้อาการเมารถน้อยลง เพราะรถไม่จะไม่โครงเครง แต่รถทัวร์ที่หนูนั่งเป็นรถสองชั้นมันจะโครงเครงและโยกไปมาเวลาที่เข้าโค้งหรือแซง

หนูไม่ได้ตั้งใจเลือกที่นั่งแถวหน้า แต่มีที่นั่งเหลือบริเวณแถวหน้า หน้าสุดกเลยนะคะ เหมือนหนึ่งหนูเป็นคนขับรถเองซะอย่างนั้น ที่นั่งตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกเวลาเข้าออกหากอยู่ริมหน้าต่างเพราะติดทีวี และจะมีแสงเข้าตามากกว่าที่นั่งอื่น ส่วนเรื่องการเมารถหนูรู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างไปจากการนั่ง แถว 5-8 แต่อย่างไร อาจจะดีกวานิดหน่อย ส่วนเรื่องแสงไจกเสาไฟฟ้าและรถสวนไม่เป็นปัญหาสำหรับหนู เพราะหนูเตรียมที่ปิดตามาด้วย ทำเอาหลับสบายได้ตลอดคืน

 

ส่วนเรื่องหลักๆที่วันนี้หนูอยากเล่าให้แม่ฟังคือเรื่อง คนนั่งข้างๆหนู เขาเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย หุ่นดีมาก ผมยาวสลวย แต่งตัวดี รองเท้าก็ยังสวยแถมสีเข้าชุดกับเสื้อด้วยค่ะ สรุปคือ รสนิยมดีจัง หนูคิดอย่างนั้น

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาเป็นลาวเวียงจันทน์ ไม่ได้ถูกดูแต่เค้าโครงใบหน้าไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นคนแถบนี้เลย หากตำรวจตรวจหนูว่า คนที่จะลงไปร้องเพลงชาติไทยน่าจะเป็นหนูมากกว่าเขา เพราะเวลาที่หนูไปเที่ยวเมืองลาว หนูมักจะได้จ่ายค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ราคาคนลาวเสมอ เพราะหน้าตาอันสวยของหนูนั่นเอง

สาวสวยคนนั้นบอกหนูว่า เขามาทำงานเสริมสวยที่เมืองไทย หนูพยายามจะพูดลาวกับเขา แต่เขาไม่ยอมพูดลาวกับหนูเลย แม้สำเนียงการพูดของเขาดูไม่เป็นไทยภาคกลางเลย เขาเล่าต่อว่า เขากลับมาต่อวีซ่า เพิ่งเดินทางกลับมาบ้านเป็นครั้งแรก ช่วยแนะนำเขาด้วย หนูอยากถามว่า แล้วขาไปเดินทางอย่างไร ก็ไม่กล้าถาม หนูพยายามพูดคุยกับเขาเรื่องวัฒนธรรมอันงดงามของเมืองลาว การแต่งกาย ประเพณี รวมถึงการแต่งกาย แต่ดูเขาไม่สนใจแลกเปลี่ยนเลย

เพื่อนบ้านใกล้ชิดเรา มาทำงานบ้านเราเยอะนะคะ โดยเฉพาะที่กรุงเทพ หนูไปเดินที่มาบุญครอง แวะร้านผ้าฝ้าย ก็มักเจอคนขายที่พูดไทยไม่ชัด ถามว่ามาจากที่ไหน ก็มักได้คำตอบว่า แม่สอด

เวลาเข้ากรุงเทพ เดี๋ยวนี้หนูรู้สึกเหมือนว่า ไม่ได้เดินทางไกลบ้านเลย เพราะไปที่ไหนๆก็เจอแต่คนบ้านเดียวกัน มิน่าละ เพลง "คนบ้านเดียวกัน" จึงดังกันใหญ่ในแวดวงของคนอิสานต่างถิ่น

 

วันนี้ หนูเล่ายาวไปหน่อย เบื่ออ่านหรือยังคะ งั้นหนูเข้านอนก่อนนะคะ รู้สึกเพลียๆหลังเดินทางค่ะ

 

ลูก

16 ธันวาคม 2551 : 20.38 น.

 

หมายเลขบันทึก: 230011เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2008 20:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ตามมาอ่านเรื่องเล่าจากลูกสู่แม่ครับ...

บคุณครับผม...

  • เดินทางน่าดูเลยครับ
  • ดูแลสุขภาพบ้างนะครับ
  • ดีใจด้วยที่พบ
  • พี่น้องที่จากกันตั้งแต่เด็กๆๆ
  • อิอิๆๆ
  • มาก่อกวนก่อนนะครับ...

เดินทางบ่อย

รักษาสุขภาพด้วยนะครับป้าแดง

คิดถึง

  • นึกว่าญาติกันครับ อิอิ
  • คนย้ายถิ่น กับ คนพลัดถิ่น บ้านเดียวกันไหมนะครับ อิอิ
  • สุขกายสบายใจนะครับ ป้าแดง

สวัสดีครับ 
  คนอีสาน จะสืบทอดตำนาน อาหารส้มตำ ลาบ ซุบหน่อไม้ในกรุงเทพแล้วครับ  ...คนขับแท็กซี่ก็เยอะ เห็นไหมครับคนบ้านเดียวกัน มีมากมาย มีทั่วไป และทุกภาคครับ

  • อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ
  • วันก่อนก็อ่านเกี่ยวกับคนลาวเขาว่าคนไทยนะคะ
  • ว่าคนลาวที่มีสามีฝรั่งเป็นคนที่มีความรู้ เรียนจบมาจากต่างประเทศ ไม่เหมือนคนไทยจน ๆ ที่มีสามีฝรั่ง
  • เอาฟักทองมาฝากค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ป้าแดง...คิดถึงๆๆๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะ

- คิดถึงจังเลยค่ะ ฝากความระลึกถึงมาให้ค่ะ

ป้าแดงค่ะ

ง่วงนอนตอนเช้าจังเลย

กระติกมักตกม้าตายตอนเช้าบ่อยๆ เวลาเอาบุญช่วงดึก

ตอนนี้กระติก ก็เป็นผู้อพยพค่ะ

อพยพจากเลย มาเป็นสาวขอนแก่น

สวัสดีค่ะ

* มาส่งความสุขปีใหม่ค่ะ

สาวลาดพร้าวกลับไปเป็นสาวท่าบ่อแล้ว

เดือนหนึ่งอยู่บ้านกี่วันเนี่ยเอื้อย

มารับลมหนาวที่หงสาไหมครับ

ข้อมูลจากเครื่องวัด...เมื่อคืนตอนตีสอง..๒.๗ องศาครับ

ตามมาขอบคุณที่ไปอ่านภาพเด็ดสุดยอด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท