กุหลาบ


กุหลาบสวยจัง

หากจะถือว่า "คิวปิด" เป็นพระเอกในเทศกาลวาเลนไทน์แล้ว เราคงต้องยกให้ "กุหลาบ" เป็นนางเอก เพราะดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ยอดนิยมที่เหล่าคู่รักมักจะมอบให้กัน โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดงซึ่งเป็นที่นิยมมากในเทศกาลนี้ ในไทยเรามีตำนานดอกกุหลาบที่หลายคนคงรู้จักกันดี คือเรื่อง "มัทนพาธา" ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖

ทางยุโรปซึ่งเป็นต้นกำเนิดเทศกาลวาเลนไทน์และเป็นผู้ริเริ่มประเพณีการให้ดอกกุหลาบเพื่อแทนความในใจก็มีตำนานดอกกุหลาบเหมือนกัน แต่ต่างกับ "มัทนพาธา" ตรงที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความกล้าหาญของดอกไม้ดอกแรกของโลก ตำนานเรื่องนี้เล่าถึงโลกในสมัยที่ยังว่างเปล่า..

นานมาแล้ว ตั้งแต่โลกเพิ่งถือกำเนิดขึ้น..ยังไม่มีมนุษย์ ยังไม่มีทุ่งดอกไม้คอยผลิดอกรับอรุณ มีแต่หญ้าทื่อๆ กับพุ่มไม้สีเขียวทึบไร้ชีวิตชีวา โลกรู้สึกเศร้าใจที่บนผืนแผ่นดินไร้ซึ่งความสดใสสวยงาม

"ฉันมีดอกไม้แสนสวยอยู่ในจิตใจ" โลกรำพึงกับตัวเอง "ฉันอยากให้มีดอกไม่เบ่งบานบนผืนโลก ดอกไม้สีฟ้าสดใสเหมือนท้องฟ้าในวันที่อากาศดี ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ราวกับปุยหิมะ ดอกไม้สีเหลืองเจิดจ้าเฉกเดียวกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน และดอกไม้สีชมพูหวานปานอรุณรุ่งแห่งฤดูใบไม้ผลิ สิ่งสวยงามเหล่านี้อยู่ในหัวใจของฉัน แต่ฉันต้องเศร้าทุกครั้งที้เห็นผืนแผ่นดินมีแต่ความทึมทึบ"

ในครานั้น ดอกไม้สีชมพูดอกเล็กๆ บังเอิญได้ยินรำพึงแห่งความเศร้าของโลก เจ้าดอกไม้น้อยจึงอาสา "อย่าเศร้าไปเลยแม่ ลูกจะขึ้นไปรังสรรค์ความงามบนโลกเอง"

เมื่อดอกไม้สีชมพูดอกเล็กๆ ขึ้นมาชูช่อไสวอยู่ในทุ่งหญ้า มันเป็นดอกไม้ที่น่ารักดอกเดียวที่แต่งแต้มสีสันให้กับทุ่งหญ้าเปล่าเปลี่ยวแห่งนี้ แต่เมื่อภูตแห่งลมผ่านมาเห็นเข้ามันกลับคำรามออกมาอย่างดุร้ายว่า "ข้าจะไม่ยอมให้มีดอกไม้น่ารักมาอยู่ในทุ่งหญ้าของข้าแม้แต่ดอกเดียว"

แล้วลมพายุก็พัดดอกไม้น้อยๆ ลอยล่องไป ..ดวงวิญญาณของเธอได้กลับมาสู่หัวใจแห่งโลกอีกครั้ง

ความกล้าหาญของดอกไม้สีชมพูน้อยๆ ดอกนี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจของมวลดอกไม้อื่นๆ อีกมากมาย ให้หาญกล้าขึ้นมาท้าทายลมพายุแรงเพื่อสร้างสีสันให้กับโลก ..ดอกแล้วดอกเล่าพากันผุดขึ้นมาแต่งแต้มโลกสวย แล้ววิญญาณดวงแล้วดวงเล่าก็ต้องลอยล่องกลับมาสู่หัวใจแห่งโลก

ในที่สุดกุหลาบทุ่งหญ้าก็อาสา "ได้สิ ลูกน้อย แม่จะส่งลูกไป ลูกน่ารักมากและยังมีกลิ่นหอมด้วย ภูตแห่งลมจะต้องหลงในเสน่ห์ของลูก และยอมให้ลูกชูช่ออยู่ในทุ่งหญ้าได้" โลกบอกลาลูกน้อย

"หวังว่าภูตแห่งลมคงจะยอมให้ลูกได้งอกงาม" โลกรำพึงแผ่วเบา

ดังนั้นกุหลาบทุ่งหญ้าก็เดินทางอันยาวนานสู่พื้นโลก สู่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่

เมื่อภูตแห่งลมเห็นเธอเข้า เขาก็ตะโกนใส่เธอ "เจ้าน่ารักแต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ในทุ่งหญ้าของข้า" ภูติแห่งลมสูดหายใจเพื่อเป่าพายุมาที่ดอกกุหลาบ ทันใดนั้นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกุหลาบก็รวยรินออกมา

"ช่างหอมหวานเหลือเกิน" แล้วภูตแห่งลมก็บอกกับตัวเองว่า "ข้าไม่เคยคิดจะปลิดชีวิตน้อยๆ ของดอกไม้ที่น่ารักและหอมหวน เธอจะได้อยู่ที่นี่ลมพัดอย่างนุ่มนวล และจะไม่มีพายุที่ดุร้ายอีก"

ภูตแห่งลมเลี่ยนไป ลมสงบขึ้น มีเพียงสายลมอ่อนๆ ที่โบกโบยยอดหญ้าไสว มีเพียงเสียงลมกระซิบแผ่วเบา ไม่มีภูตแห่งลมที่ดุร้ายอีกต่อไป

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ลมก็รักดอกไม้ ดอกไม้นานาชนิดก็บานสะพรั่งเต็มทุ่งหญ้า สร้างสีสันและความสดใสให้กับผืนโลก โลกใบนี้สวยงามได้ก็เพราะความรัก ความหอมหวาน และความกล้าหาญของกุหลาบทุ่งหญ้า

แม้ในบางเวลาลมจะละทิ้งความนุ่มนวลไปบ้าง บางครั้งมันก็เกรี้ยวกราดรุนแรงไปบ้าง แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว และลมก็ไม่เคยทำร้ายดอกไม้..ผู้เป็นสีสันของโลกอีกเลย

ตำนานดอกกุหลาบนี้ เป็นความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่มากกว่าความรักระหว่างหนุ่มสาว ซึ่งบนโลกใบนี้ยังมีความรักรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีคนที่รอคอยความรักจากคุณอีกมากมายเช่นกัน วาเลนไทน์ปีนี้นอกจากคนรักของคุณแล้ว อย่าลืมแบ่งปันความรักของคุณให้กับผู้คนรอบข้างบ้าง ..นั่นล่ะ คือความรักอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยรังสรรค์ให้โลกใบนี้สวยงามไม่แพ้ทุ่งดอกไม้ในตำนานเลย

คำสำคัญ (Tags): #กุหลาบ
หมายเลขบันทึก: 229368เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2008 11:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท