เทคโนฯ ธรรมชาติ และจินตปัญญา

หลายคนไม่เคยรู้จัก “จินตปัญญา” แต่ในวันนี้รศ.ดร.จิรวัฒน์ ทำให้รู้ว่าสมาธิที่จดจ่อ ทำให้เกิดงานศิลปะที่สวยงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และทุกสิ่งทุกอย่างถ้าจิตมีสมาธิที่จดจ่อและสติมั่นคงการจะไปให้ถึงเป้าหมายได้อย่างไม่ยากนัก

สามสิ่งนี้สัมพันธ์กันด้วยหรือ?? นี่เป็นคำถามแรกที่ดิฉันทราบว่าโครงการที่ดิฉันจะไปเป็นโครงการของนิสิตระดับปริญญาโท ชั้นปีที่ 1 สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารเพื่อการศึกษา ที่จะจัด ณ อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขื่อนแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก

ลืมบอกไป ดิฉันได้ตัดสินใจเรียนปริญญาโทในสาขานี้ เพราะเนื่องจากเกี่ยวข้องกับงานประจำที่ทำอยู่ คืองานประชาสัมพันธ์ ของสถาบันบริหารการวิจัยและพัฒนา (IRDA) มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำให้ห่างหายจากการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ฯ ในส่วนของหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่อพัฒนาสุขภาพและอาชีพประชาชน หรือ Mobile Unit ของมหาวิทยาลัย ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ไปเสียนาน แต่ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันคงจะมีเรื่องเล่ามาให้อ่านได้บ่อยๆ อย่างเช่นเรื่องนี้ เทคโนฯ ธรรมชาติ และจินตปัญญา

โครงการที่บอกไปข้างต้น เป็นโครงการที่ ผศ.ดร.รุจโรจน์ แก้วอุไร คณะศึกษาศาสตร์อาจารย์ผู้สอนในสาขาดิฉันเองค่ะ ท่านเป็นผู้ผลักดันสำคัญที่ทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น และเราได้รับความอนุเคราะห์อย่างยิ่งจาก รศ.ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ทำให้เรารู้จัก ศิลปะกับจินตปัญญา หลายคนไม่เคยรู้จัก "จินตปัญญา" แต่ในวันนี้รศ.ดร.จิรวัฒน์ ทำให้รู้ว่าสมาธิที่จดจ่อ ทำให้เกิดงานศิลปะที่สวยงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และทุกสิ่งทุกอย่างถ้าจิตมีสมาธิที่จดจ่อและสติมั่นคงการจะไปให้ถึงเป้าหมายได้อย่างไม่ยากนัก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รุจโรจน์ แก้วอุไร คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

รุ่งเช้า เราออกไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเขื่อนแควน้อย แล้วก็กลับมานั่งล้อมเป็นวงกลมเพื่อทำ AAR (After Action Review) เพื่อเป็นการทบทวนและแลกเปลี่ยนความความคิด ความรู้สึก ในการมาเขื่อนแควน้อยครั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณ ดร.วิวัฒน์ มีสุวรรณ์ จากคณะศึกษาศาสตร์ที่มาถ่ายภาพสวยๆ ให้เราได้เก็บความทรงจำนี้ไว้