เกาะกระแสสุขภาพ
เกาะกระแสสุขภาพ
๑. ภัยใกล้ตัวจากคอมพิวเตอร์
เจ้าอุปกรณ์สมองกลที่เป็นอุปกรณ์สำคัญของทุกสำนักงาน และเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่งของบ้านชนิดนี้ แฝงภัยเงียบๆ มานานแล้ว ซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ฝากเตือนมายังชาว IT ทุกคนว่า
เขาพบโรคที่เป็นผลมาจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานตั้งแต่เบาๆ ตั้งแต่ ปวดหัว ตาแห้ง เส้นเอ็นข้อมืออักเสบ ไปจนถึงเนื้องอก มะเร็ง แท้งลูก ทารกพิการกันเลยทีเดียว
ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้จอแบบ LCD หรือแขวนแผ่นกรองแสง เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเนี่ยแหละที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกายจนทำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์แท้งบุตรได้ หรือทารกคลอดออกมาพิการ ทั้งยังช่วยไม่ให้ตาแห้งหรือระคายเคืองตาอีกด้วย
ผลกระทบทางด้านจิตใจก็ไม่แพ้กัน พบว่าคนพวกนี้จะมีปัญหาด้านพฤติกรรม ขอบแยกตัวออกจากสังคม อารมณ์ไม่มั่นคง โกรธง่าย รุนแรง นี่ขนาดยังไม่นับเนื้อหาที่เข้ามาทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่กลั่นกรองอีกนะเนี่ย
ดังนั้นเราควรยืดทางสายกลาง คือใช้มันอย่างรู้เท่าทัน เอาใจใส่สุขภาพ และป้องกันอันตรายตามที่กล่าวมา
๒. บ้านป่วน...ทำเด็กป่วยใจ
สิ่งแวดล้อมถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน คงไม่มีใครชอบเสียงทะเลาะตบตี ด่าทอกันอย่างรุนแรงจนนึกว่ากำลังอยู่ในสมรภูมิมากกว่าอยู่บ้านตัวเองหรอก
นักวิจัยแห่งสถาบันการรักษาโรคจิตแห่งเมืองผู้ดี กรุงลอนดอน เขาทำการศึกษาอย่างจริงจัง ว่าพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อมกันแน่ที่มีผลต่ออารมณ์และสภาพจิตใจของเด็กๆ และผลการวิจัยสรุปออกมาว่า บ้านที่มีแต่ความวุ่นวายมีผลต่อสภาพจิตใจของเด็ก
แต่ไม่ใช่เอะอะก็สรุปออกมา เพราะมีการรายงานไว้ในนิตยสาร New Scientist ว่า ท่านด็อกเตอร์ทั้งหลายได้ทำการวิจัยโดยดูจากเด็กแฝดที่เกิดบนเกาะบริเตนเกือบ ๘,๐๐๐ คู่ที่เกิดในระหว่าง ค.ศ. ๑๙๙๔-๑๙๙๖ พบว่าเด็กแฝดบางคู่มีลักษณะเหมือนกัน แต่บางคู่กลับไม่เหมือน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยบ่งชี้ว่า เด็กที่อยู่ในบ้านที่เสียงดัง โวยวายจะมีความฉลาดน้อยกว่า ซึ่งการศึกษาจากเด็กแฝดเพื่อจะได้วิเคราห์ได้ว่าสาเหตุคือสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่พันธุกรรม
งานนี้ ท่านศาสตราจารย์ด็อกเตอร์โรเบิร์ต โพลนิน ก็ออกมากล่าวว่า เรื่องนี้สมเหตุสมผลแล้ว เพราะเด็กที่อยู่ในบ้านที่อบอุ่น มีคุณพ่อคุณแม่ให้การอบรมเลี้ยงดูอย่างดี เขาจะมีความฉลาดมากกว่า เพราะเขาย่อมมีโอกาสที่จะเรียนรู้อะไรได้มากกว่าเด็กที่วันๆ เจอแต่เรื่องวุ่นวายใจ เพราะมันยากที่เขาจะเกิดจินตนาการหรือการเรียนรู้ได้ แม้แต่เรื่องธรรมดาก็ตามที
โลกเบื้ยวๆ ใบนี้คงไม่มีปัญหาสังคม หากทุกคนในบ้านมีจิตใจที่ดีต่อกัน พูดจากันด้วยถ้อยคำไพเราะ อ่อนหวาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แล้วความสุขมันจะไปไหนเสีย
๓. โรคหัวใจวาย...ทำนายได้
รายงานข่าวล่าสุดจากรอยเตอร์แห่งเมืองมิวนึกบอกว่า ความเสี่ยงทั้งปวงของภาวะโรคหัวใจสามารถทำนายล่วงหน้าได้ ซึ่งการศึกษาทั่วโลกระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศร่ำรวยหรือประเทศยากจน ปัจจัยเสียงก็เป็นอย่างเดียวกัน
งานวิจัยที่ทำการศึกษาผู้คนมากกว่า ๒๙,๐๐๐ คนใน ๕๒ ประเทศทั่วโลกระบุว่า อัตราส่วนความผิดปกติของคอเรสเตอรอลชนิดดีกับการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยง ๒ ประการที่ทำให้คน ๒ ใน ๓ ของทั้งโลกหัวใจวาย ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ก็มี เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ฯลฯ
มร.ซาลิม ยูซูฟ ศาสตราจารย์ด้านยาแห่ง ม.แม็คมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา กล่าวในการแถลงข่าวว่า นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กว่าร้อยละ ๙๐ ของโรคหัวใจในโลกนี้สามารถรู้ล่วงหน้าได้ ทำให้พวกเรารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
หารวิจัยแสดงให้เห็นว่า การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เป็นโรคหัวใจวาย ๓ เท่าของคนที่ไม่สูบ และการทานผักผลไม้เป็นประจำสม่ำเสมอควบคู่กับการกรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒-๓ ครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงได้ร้อยละ ๘๐
อ่านแล้วคุ้นๆ กันมั้ย ถ้าเราอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ โรคภัยที่ไม่น่าพิศมัยทั้งหลายก็จะไม่ถามหาแน่นอน
๔. แม่เป็นไข้หวัดใหญ่...ลูกเสี่ยงเป็นจิตเภท
มีงานวิจัยหนึ่งรายงานว่า คนที่เป็นโรคจิตอาจมีสาเหตุที่เขาไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะมันก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่เขายังเป็นทารกน้อยในครรภ์ของแม่เท่านั้นเอง
สำนักข่าวรอยเตอร์แห่งชิกคาโกรายงานผลการศึกษาวิจัยว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่อาจเป็นตัวทำลายสองของทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความผิดปกติทางจิตเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หรือเมื่ออายุ ๒๐ ปีขึ้นไป หากตอนตั้งครรภ์คุณแม่ติดเชื้อนี้
มร.เอชชรา ซัสเซอร์ หัวหน้าหน่วยทำการวิจัยสถาบันจิตเวชแห่งมลรัฐนิวยอร์ก ทำการศึกษาตัวอย่างครอบครัว ๖๔ ครอบครัวพบว่าความเสี่ยงที่ผิดปกติหลักๆ ของเด็กเพิมสูงขึ้นเป็น ๗ เท่าหากคุณแม่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ระหว่างตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก
หนทางเดียวที่ดีที่สุดคือการดูแลตัวคุณแม่ให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกาย อยู่ใยสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแล้ว ยังต้องดูแลจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสด้วย
เพราะสายสัมพันธ์แม่ลูกนั้นเชื่อมโยงถึงกัน ลูกน้อยจะได้เติบโตมาเป็นเด็กน่ารักและอารมณ์ดี
ข้อมูล นิตยสาร ชีวจิต ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๔๗ หน้าปก บัวชมพู ฟอร์ด
ความเห็น (11)
สงสัยน้าตุ๊กต้องไปซื้อจอ LCD แล้วหละเพราะตอนนี้ก็เป็นโรคตาแห้งอยู่ ตอนบ่ายนี้น้าตุ๊กก็จะไปตรวจตาพร้อมคุณยายด้วยเหมือนกันค่ะน้องอั๋น ขอให้น้องอั๋นไม่เป็นหวัดนะค่ะ
สวัสดีครับน้าตุ๊ก น้าตุ๊กครับ ขอบคุณครับที่อวยพรขอให้ไม่เป็นหวัด ตอนนี้จมูกโล่งแล้วครับ ความจริงนับเป็นเรื่องดีที่หายได้ เพราะยาหมดพอดีด้วยครับ ถ้าไม่หายต้องออกไปซื้อยาอีกครับ
น้าตุ๊กครับ น้าตุ๊กไม่ต้องไปซื้อจอ LCD หรอกครับ เพราะจอโน้ตบุ๊คน่ะ มันเป็น LCD อยู่แล้วครับ เขาหมายถึงพวก PC ตั้งโต๊ะที่จอเป็นแบบโบราณน่ะครับ มันจะทำให้เคืองตา เลยแนะนำให้เปลี่ยน ซึ่งเป็นเรื่องจริง เพราะหมอที่รักษาตาของอั๋นนี่เขาก็แนะนำให้เปลี่ยนหมือนกันครับผม
น้าตุ๊กครับ ส่วนบีร็อกก้าที่ให้ไปเนี่ย น้าตุ๊กก็ทานสัปดาห์ละเม็ดก็แล้วกันครับ เพราะมันมีวิตามินซีด้วย หรือถ้าไม่อยากทานวิตามินหลายๆ ตัวก็สังเกตอาการดูถ้ามีอาการเหมือนจะเป็นหวัดก็จัดการเลยนะครับ
น้าตุ๊กครับ แล้วผลการตรวจตาเป็นยังไงบ้างครับ ทั้งคุณยายทั้งคุณน้าเลยครับผม
ข้อมูลดีจัง..มีสาระดี..ชอบจังเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะกับสาระดีดี
ขอบคุณครับคุณ add ที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ
น้องอั๋นวิตามิน ซี ของน้าตุ๊กก็มีเพียบเลย ก็ค่อย ๆ ทานแล้วกันค่ะ ตอนคนเป็นหวัดมากๆ ก็ทานป้องกันค่ะ
น้าตุ๊กนี่เชยจริง ๆ เลยโน๊ะ ก็เคยเห็นเหมือนกันค่ะ LCD สำหรับแบบตั้งโต๊ะ อิอิ
อรุณสวัสดิ์ครับน้าตุ๊ก น้าตุ๊กครับ จริงๆ แล้วเนี่ย จอ LCD ก็สามารถต่อใช้กับเครื่องโน้ตบุ๊คได้เหมือนกันครับ ดีซะอีก จอใหญ่ดี ไม่ต้องเพ่งมาก น้าอ๊อดยังซื้อมาใส่เลยครับ แต่ไม่ค่อยนิยมกันเท่าไหร่เพราะจอของโน้ตบุ๊คมันเป็น LCD อยู่แล้วอย่างที่บอก เราเลยจะพบเห็นจอ LCD ต่อเชื่อมกับคอมตั้งโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ครับผม
อรุณสวัสดิ์ครับคุณคิม ขอบคุณครับสำหรับดอกไม้และคำอวยพร ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ สุขสันต์ปีใหม่ ๒๕๕๒ นะครับ สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Bob
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ดีจังได้รู้จักคนเก่งๆเพิ่มขึ้นอีก
มาตามคำเชิญของคุณค่ะ
เปี่ยมด้วยสาระที่มีประโยชน์จริงๆ
รักษาสุขภาพนะคะ