ชีวิตที่พอเพียง : 640. เที่ยวคุนหมิง (๕)


ตอนที่ ๑, ตอนที่ ๒, ตอนที่ ๓, ตอนที่ ๔

๑๐ พ.ย. ๕๑

 

วันสุดท้ายแล้ว สำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อน    เมื่อวาน อ. เจียถามว่าเมื่อไรจะมาเที่ยวอีก   ผมตอบว่าคงจะหาเวลายากมาก   เพราะงานทำท่าจะเพิ่มขึ้นอีก

 

การมาเที่ยวครั้งนี้ นอกจากมาทำความรู้จักคุนหมิง และยูนนาน ผมยังได้มาเห็นวิธีทำงานเก็บข้อมูลของคนที่เป็นปราชญ์ทางด้านภาษาและวัฒนธรรม    การได้พบผู้คน ได้ซักถามสนทนาแลกเปลี่ยน เป็นการเก็บข้อมูลทั้งสิ้น    อ. ฉัตรทิพย์บอกว่า นี่เป็นวิธีการของสำนักวิจัยเชิงคุณภาพ    ผมประทับใจ อ. เจีย ที่อายุ ๗๘ แล้ว   ร่างกายยังแข็งแรง   และสมองยังว่องไว สนใจเรื่องราวต่างๆ   ยังทำงานวิชาการอย่างจริงจัง    และประทับใจวิธีตั้งคำถามในการพูดคุย ของ อ. ฉัตรทิพย์    และเก็บข้อมูลโดยใช้ความจำ    ไม่ต้องจดเลย   ซึ่งผมทำไม่ได้

 

ผมได้เห็นว่า ประเทศไทยกับจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก   โดยเฉพาะด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา    มหาวิทยาลัยบูรพา อุบลราชธานี มรภ. จันทร์เกษม  มรภ. เชียงราย  มรภ. เพชรบุรี ได้รับการกล่าวขวัญถึง    ผมรู้สึกว่าความร่วมมือด้านการวิจัยแบบจริงจังและคุณภาพสูงยังมีน้อยไป   โครงการประวัติศาสตร์วัฒนธรรมชนชาติไท ของ อ. ฉัตรทิพย์ เมื่อกว่า ๑๐ ปีที่แล้ว ได้สร้างความสัมพันธ์ทางวิชาการที่ไม่เป็นทางการ อย่างกว้างขวาง   และเกิดผลงานวิจัยระดับคุณภาพสูง   ผมอยากให้มีงานวิจัยทำนองนี้อีก   โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวิจัยที่เน้นการทำความเข้าใจสภาพสังคมปัจจุบัน

 

การมาเที่ยวครั้งนี้ คล้ายการมากินบุญเก่า    เพราะไปที่ไหนเขาก็แนะนำว่าเป็น อดีต ผอ. สกว. ที่ให้ทุน อ. ฉัตรทิพย์ ทำวิจัยโครงการประวัติศาสตร์วัฒนธรรมชนชาติไท   และผมได้มาเห็น ว่าวิธีให้ทุนวิจัยแบบเมธีวิจัยอาวุโส มันให้ผลกระทบกว้างขวางมากมายจริงๆ

 

ผมได้ความคิดว่า มีลู่ทางสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออก   ที่เป็นการวิจัยแบบจริงจังต่อเนื่อง   ร่วมมือระหว่างนักวิจัยที่มีฝีมือ มีผลงานคุณภาพสูงจริงๆ   โดยจะต้องมีการจัดการการตั้งโจทย์วิจัย และการจัดการคุณภาพของงานวิจัยอย่างจริงจัง   ผมก็ฝันไปอย่างนั้นเอง เพราะจริงๆ แล้วผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการงานวิจัยของหน่วยงานใดๆ แล้ว

 

เรา check-out แล้วไปที่ภัตตาคาร Moonlight เวลา ๑๑ น.   ไปเป็นแขกของท่านกงสุลใหญ่ สุรพันธุ์ บุณยมานพ   จากนามบัตรของท่านทำให้ผมนึกออก ว่าคราวที่ผมมาคุนหมิงปี ๒๕๓๖ พักที่โรงแรมคุนหมิง   ท่านเจ้าหม่อมคำลือและคุณ เตาเสี่ยวฉิน ได้รับเชิญมาร่วมรับประทานอาหารด้วย   คุณสุรพันธุ์เรียนรัฐศาสตร์จุฬาฯ รุ่น ๒๓    ในขณะที่ อ. ฉัตรทิพย์กับคุณจรรยา รุ่น ๑๑   การพูดคุยกัน ทำให้ผมเห็นว่า การวิจัย หรือความร่วมมือทางวิชาการ สามารถใช้เป็นเครื่องมือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี  

 

อ. ฉัตรทิพย์กำหนดออกเดินทางไปสนามบินเวลา ๑๒.๓๐ น.   โดยเครื่องบินกำหนดออก ๑๕.๒๐ น.   ใครๆ บอกว่าออกเวลา ๑๔ น. ก็ทัน   แต่เราก็ออกมาเวลา ๑๒.๕๐ น.   และรถติดอย่างแรงมาก โชเฟอร์ต้องเข้าซอยลัดหลบรถติด   ใช้เวลา ๙๐ นาที ถึงสนามบินเวลา ๑๔.๒๐ น.   หัวหน้าการบินไทยที่คุนหมิงบอกว่าตัวท่านเองใช้เวลาเดินทางมาสนามบิน ๒ ช.ม.   รถติดเพราะซ่อมถนน

 

เราใช้บริการรถแท้กซี่สาธารณะจากสนามบินสุวรรณภูมิกลับบ้านปากเกร็ด   และพบว่าบริการไม่ดี   คนขับท่าทางไม่มีอัธยาศัย   และระบบบัตรโดยสารก็ไม่เป็นไปตามความจริง   รถที่เรานั่งทะเบียน มง (D) 9508   ซึ่งไม่ตรงกับในบัตรที่ให้เรามา ระบุทะเบียน มก (H) 77 ชื่อคนขับ สมชาย กิตติลือชากร   เราเดาว่าคนขับจริงไม่ใช่คุณสมชาย เพราะเบอร์รถก็ไม่ตรง   ระบบที่ไม่ตรงความจริงเช่นนี้ไม่ช่วยความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร   เรามาทราบในวันหลังว่า มีผู้โดยสารท่านอื่นก็โดนโชเฟอร์แท้กซี่สุวรรณภูมิแสดงกิริยาปั้นปึ่งเช่นเดียวกัน   เข้าใจว่าเขาอยากได้ผู้โดยสารฝรั่ง    รังเกียจคนไทย    ถ้าเช่นนั้น เขาได้อะไรจากฝรั่ง   ได้จากการโกงหรือเปล่า   การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยน่าจะจัดการเรื่องรถแท้กซี่ได้ดีกว่านี้   น่าจะมีการกำชับมรรยาทและคัดโชเฟอร์ที่ไม่เหมาะสมออกไป

 

วันที่ ๑๓ พ.ย. ๕๑ เราได้รับจดหมาย EMS จาก ศ. ดร. ฉัตรทิพย์ ส่ง CD รูปที่ท่านถ่ายด้วยกล้อง โซนี่ รูปสวยกว่ากล้อง พานาโซนิก ของผมมาก (แต่กล้องพานารุ่นที่ผมมี คือ DMC-FX33 ถ่ายได้ฉับไวดีมาก ตรงกับวัตถุประสงค์ของผม)    และส่งหนังสือ พงศาวดารเมืองไท เครือเมืองกูเมือง จ้าวหงหยิน และ สมพงศ์ วิทยศักดิ์พันธุ์ แปล  มาให้อ่าน   เป็นผลงานของโครงการประวัติศาสตร์สังคมและวัฒนธรรมชนชาติไท    พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ตรัสวิน (ซิลค์เวอร์มบุคส์) ๒๕๔๔   โดยชื่อ ผอ. สกว. ยังเป็นชื่อผมอยู่    หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจไทใหญ่ได้ชัดเจนขึ้นมาก   และได้ความรู้ว่าประวัติศาสตร์ไทใหญ่บริเวณระหว่างลุ่มน้ำโขงกับสาละวิน  ในยูนนานตะวันตก กับพม่า ย้อนหลังไปกว่า ๒,๐๐๐ ปี  

 

การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ เริ่มจากคณะสี่สหาย   และจะลงท้ายที่คณะสี่สหายเช่นกัน   คือวันที่ ๒๕ พ.ย. ๕๑ เรานัดรับประทานอาหารเที่ยง (นัดทุกๆ ๖ เดือน)    แล้วจะไปที่บ้านของ อ. ฉัตรทิพย์และคุณจรรยา เพื่อฉายรูปเล่าสู่กันฟังแก่เพื่อนอีก ๒ คู่ที่ไม่ได้ไป    เพื่อยั่วกิเลสว่าสนุกแค่ไหน   คราวหน้าจะได้ไม่พลาด   

 

วิจารณ์ พานิช

๑๕ พ.ย. ๕๑

 

1. เจ้าหม่อมคำลือและคุณเตาเสี่ยวฉิน ได้รับเชิญมาร่วมรับประทานอาหารด้วย

2. อ.ฉัตรทิพย์ มอบหนังสือให้ท่านกงสุลใหญ่ คุณสุรพันธ์ บุณยมานพ

3. หน้าปกหนังสือการแพทย์แผนจีนที่หมอหลิวมอบให้ผม

4. หน้าปกหนังสือประวัติศาสตร์สิบสองปันนา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2

5. หน้าปกหนังสือคนไทไม่ใช่คนไทย แต่เป็นเครือญาติชาติภาษา

6. หน้าปกหนังสือการค้นคว้า ภาษาไท ไทย ใน 6 ทศวรรษที่ผ่านมาของ อ.เจีย พิมพ์เป็นภาษาจีน

 

หมายเลขบันทึก: 226758เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2008 07:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท